พวกปากว่าตาขยิบจิบไวน์พูด ไร้หูรูดอ้อล้อทำคอแข็ง พอพระเทศน์กิเลสหนาเอามาแจง หน้ายังแดงแต่ดวลไม่ทวนคำ ขัดจริตคิดจรัสชะมัดยาด ที่เปรื่องปราดดำหริชอบทำรอบค่ำ เอาเศษเหยื่อเหลือเดนมาเซ่นธรรม คู่ประจำปากจัด..เปล่ากัดใคร ทั้งสะสางห่างถี่ขยี้ทั่ว ขืนร้อนตัวอิ่มหนำขยำใหญ่ เหยียดแหล่งข่าวกล่าวตามไม่ห้ามใจ นั่งทางในยกยลว่าตนมี อาจจะเป็นสันนิบาตในชาติก่อน ปากจึงบอนตาขยิบกระพริบถี่ อ้างว่าสุขสนุกเพลินเชิญพาที รู้ชั่วดี-ถี่ห่าง-เข้าข้างตน เห็นด้วยหู..ชูตนว่าพ้นน้ำ ได้ยินย้ำด้วยตา..มาถลน ไม่ทุกข์ร้อนซ่อนนิ่มกริ่มกมล อยู่ปะปนคุ้ยขุดสร้างจุดยืน
4 กันยายน 2553 15:56 น. - comment id 1152715
แวะมาอ่านกลอนยามว่างค่ะ
4 กันยายน 2553 10:27 น. - comment id 1154435
มาปากว่าตาขยิบจิบไวน์พร่ำ คนชอกช้ำซึมเศร้าเจ้ากลับชื่น คำขากฉุยถูถากลองฝากกลืน เจ็บข้ามคืนสะอื้นหลับนับคณา เกลียดกิเลสเศษสวะฉะคนอื่น เป็นผู้ตื่นผู้เบิกบานขันอาสา มีวรรณะแบ่งกั้นคือปัญญา พูดเรื่อยมาความกระจ่างที่ต่างกัน เห็นนรกในใจของใครก่อน แต่ผันผ่อนของตัวกลัวมหันต์ โทษคนอื่นเท่าภูเขาเผาตะวัน โทษตนดันธรรมดา..ฟ้าบรรดาล
5 กันยายน 2553 05:13 น. - comment id 1154485
มันเป็นธรรมดาของมนุษย์(บางคน)ครับ สวัสดีครับคุณ Boomerang ยินดีที่ได้รู้จักเพื่อนบ้านครับ