เหมือนนกไม่เห็นฟ้า เหมือนปลาไม่เห็นฝั่ง เหมือนอยู่เพียงลำพัง ไร้ความหวังที่พึ่งพิง กลุ่มควันที่พวยพุ่ง เหนือเมืองกรุงคือความจริง เสียงลั่นระดมยิง ร่างผู้ใดที่ทรุดกอง เลือดนี้คือเลือดไทย ที่รินไหลอยู่เนืองนอง เรียกหาความปรองดอง แต่หันหลังไม่ฟังใคร เพลิงแค้นที่เผาเมือง ความขุ่นเคืองแห่งผู้ใด ย่อยยับกับกองไฟ คือความรัก...สามัคคี!!!
19 พฤษภาคม 2553 15:00 น. - comment id 1128343
อานุภาพสามัคคีนั้น...เหลือหลาย สุดจะร่ายบรรยาย...หมดสิ้น สร้างสรรค์บ่ทำลาย...ก่อเกิดได้แล อ้างเอ่ยเหตุผลดิ้น...บ่พ้นความจริง
19 พฤษภาคม 2553 20:45 น. - comment id 1128376
๐ ย่ำเมืองตลบมุ้ง.......ฝุ่นคละคลุ้งด้วยคบควัน เผาจิตพิศโรมรัน...... ระอุมุ่งหมายราวี แลแลสายแดงเพลิง....เลียระเริงล้อสุรีย์ ประชุมสุมอัคคี......ให้วินาศมล้างลง ชนเอยเผยใจแคบ.....ซ่อนเชิงแอบจ้องประสงค์ ข้าพ่ายมลายลง.....เองต้องม้วยด้วยคู่กัน คิดแต่เพียงต่างข้อ.....แบ่งข้างกอกิ่งกกยัน แหย่ตีต่อยประชัน.....ฟันอีกฝ่ายให้ตายตน ฯ
19 พฤษภาคม 2553 22:10 น. - comment id 1128399
พูดได้แค่ว่าเลวได้ใจนรกจริง ๆ