** รวงข้าวเหลือง เรืองรอง สีทองทาบ อิ่มเอิบอาบ เรื่อเรือง เหลืองสดใส ข้าวออกรวง สีทอง ผ่องอำไพ ระบัดใบ พริ้วพร่าง กลางท้องนา ข้าวรวงลีบ ชูช่อ ล้อลมหนาว เด่นพร่างพราว แข่งตะวัน ฉันแหละหนา หยิ่งทะนง ศักดิ์ศรี คอยบีฑา สิ้นไร้ค่า ต้องฝืน ยืนต้นตาย เปรียบดั่งคน รู้น้อย ด้อยศึกษา อวดศักดา เก่งแท้ แน่ไม่หาย มีทิฐิ ท่วมท้น ล้นใจกาย ต้องเดียวดาย อ้างว้าง ร้างคนมอง ข้าวรวงเต็ม อ่อนน้อม ค้อมสู่หล้า ทอดกายา โน้มต่ำไว้ ให้ทั้งผอง หากคุณค่า มากล้น ชนใฝ่ปอง พร้อมประคอง ประโยชน์แท้ แก่ทุกคน เปรียบคนดี ที่เก่งกล้า และสามารถ ชาญฉลาด การงาน ในทุกหน ยิ่งอ่อนน้อม ถ่อมตัว ให้ปวงชน ซึ้งกมล คนเชิดชู และบูชา ** ธรรมชาติ วาดไว้ ให้ได้เห็น เฉกดั่งเช่น แนวคิด ปริศนา จะเลือกเป็น ข้าวรวงลีบ ด้อยราคา หรือล้นค่า ข้าวรวงค้อม น้อมที่ตน......ฯ
1 พฤศจิกายน 2552 19:59 น. - comment id 1059257
อ่านกลอนแล้วได้สติเตือนตนเรื่องความอ่อนน้อมถ่อมตน เหมือนรวงข้าวที่โค้งค้อมลงสู่พื้นครับ
1 พฤศจิกายน 2552 20:03 น. - comment id 1059263
ให้ข้อคิดเตือนใจดีจังเลยค่ะ ความอ่อนน้อมถ่อมตน.. นำความเจริญมาสู่เราเสมอคะ
1 พฤศจิกายน 2552 21:17 น. - comment id 1059295
เป็นบทกลอนสอนใจดีค่ะ
2 พฤศจิกายน 2552 16:18 น. - comment id 1059296
กลอนไพเราะเสมอเลยค่ะ .....
1 พฤศจิกายน 2552 20:47 น. - comment id 1059307
คุณราชิกาเป็นผู้หญิงเก่ง เพียบพร้อมทุกด้าน ชื่นชมด้วยใจจริงค่ะ ขอบคุณที่ยังไม่ลืมโครงการถักพรมห่มน้อง หวังว่าเราคงได้พบกันสักวันนะคะ
1 พฤศจิกายน 2552 21:45 น. - comment id 1059333
ยามลมล่องต้องรวงดั่งท่วงท่า เอาท้องนามาเป็นดังเช่นศาล สัจธรรมนำคนให้พ้นจารณ์ ค่าของงานชาญเช่นเป็นอัตตา บทกลอนให้ข้อคิดมาก ๆ ค่ะ อ่อนน้อมถ่อมตน ย่อมเป็นที่รัก ถึงได้หลงรักคุณราชิกา ไงคะ
1 พฤศจิกายน 2552 22:12 น. - comment id 1059353
จะมาชวนน้องไปลอยกระทง...
1 พฤศจิกายน 2552 22:41 น. - comment id 1059368
มือกำเคียวเกี่ยวข้าวเอาทุกรวง ที่หนักหน่วงรวงค้อมน้อมสู่หล้า ทั้งรวงลีบบีบเน้นเห็นอัตตา อยู่ที่ว่ารวงไหนให้หัวใจ จนป่านนี้ไม่ได้แม้สักรวง จนเลยล่วงข้ามวันอันสดใส เริ่มจะมีตีนกาขึ้นรำไร ข้าวรวงไหนรอเคียวรีบเหลียวมา รับรองว่าเกี่ยวได้จะไปสี คัดเมล็ดที่ดีดีมาหุงหา เป็นข้าวสวยคลุกกินกับน้ำปลา หมูไก่ปลาของแพงแกล้งไม่กิน ไม่มีใครยอมให้เกี่ยวเลยสักรวง
1 พฤศจิกายน 2552 23:29 น. - comment id 1059377
เขียนได้อารมณ์ ความรู้สึกมากเลยครับ
2 พฤศจิกายน 2552 07:47 น. - comment id 1059420
แวะมาทักทายค่ะ ไม่ค่อยได้เข้าบ้านกลอน สบายดีนะคะ บทกลอนยอดเยี่ยมเหมือนเดิมนะคะ ข้าวออกรวงเหลืองเต็มท้องทุ่งอีกไม่กี่วัน ก็คงจะเก็บเกี่ยวแล้ว สอนใจได้ดีมากเลยค่ะ
2 พฤศจิกายน 2552 11:15 น. - comment id 1059457
กลิ่นอายท้องทุ่งนามีเสน่ห์ดั่งมนต์ขลัง แม้จะออกมาอยู่เมือง ก็อยากกลับไป ใช้ชีวิตแบบท้องนาเหมือนตอนเด็กๆค่ะ
2 พฤศจิกายน 2552 12:46 น. - comment id 1059485
ทุ่งรวงทองสีไสวอำไพส่อง อร่ามเรืองรองผ่องพลิ้วปลิวใฝ่ถวิล ล้วนคำนึงสาวหนึ่งพึงพรากจินต์ ผ่านชีวินล่วงลับยากกลับมา ดวงฤดีหันเคียวเกี่ยวท้องทุ่ง แสงทองพุ่งทาบทรวงล้วนห่วงหา นึกว่านางบ้านนาเคยนำพา ไร้วาสนาเชยชมภิรมย์ครอง. แวะมาเยี่ยมแฝดเพื่อนอดแจมกลอนฝาก ไว้ในขณะที่ร่างกายอ่อนล้ามากจ้า รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
2 พฤศจิกายน 2552 14:33 น. - comment id 1059522
รวงข้าวอ่อนช้อยสวยงามจริงๆด้วย ..ไพเราะมากครับ...
2 พฤศจิกายน 2552 20:28 น. - comment id 1059638
บทกลอนสอนการดำเนินชีวิตเลยครับคุณราชิกา
3 พฤศจิกายน 2552 00:26 น. - comment id 1059725
ชอบจังเลยค่ะ ทำให้นึกถึงคำคมที่เคยได้ยิน "จงอ่อนน้อมถ่อมตนให้คนรัก อย่าเห่อศักดิ์ทนงตัวจะมัวหมอง" มาเยี่ยมค่ะ รักษาสุขภาพนะคะ
3 พฤศจิกายน 2552 09:27 น. - comment id 1059824
มองรวงเรียวเหนี่ยวโน้มลงโลมพื้น สายลมรื่นคลื่นพราวราวทองไหว ทุ่งรวงทองมองเห็นเป็นชื่นใจ ความเป็นไทยไหลล่วงรวงสีทอง
3 พฤศจิกายน 2552 19:31 น. - comment id 1059934
แวะมาน้อมรับคำสอนครับ ^ ^ รวงเรียวแลนอบน้อม เนานา เหลืองอร่ามงดงามตา มากแท้ หล่อเลี้ยงชีพคนมา นานนิจ ลิ้มรสยิ่งเลิศแล้ หลากข้าวขาวงาม
3 พฤศจิกายน 2552 19:52 น. - comment id 1059955
ขอเป็นข้าวเต็ม ที่น้อมลง ดีกว่า ครับ แต่จะทำได้นานหรือเปล่า มะรุ้สิ
3 พฤศจิกายน 2552 23:27 น. - comment id 1060097
แวะมาอ่านกลอนไพเราะยามดึกค่ะ ชื่นชมๆ ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ
4 พฤศจิกายน 2552 16:03 น. - comment id 1060361
สวัสดีค่ะพี่ตุ้ม นึกถึงร่วงข้าวเหลืองอร่ามที่โน้มไปในทางเดียวกันเลยค่ะ สวยงาม
4 พฤศจิกายน 2552 19:10 น. - comment id 1060433
24 พฤศจิกายน 2555 12:47 น. - comment id 1251593
สุดยอดครับ