๏ คืนคราฝนร่ำฟ้า ปรอยปรอย ใจพี่ยังคงคอย นิ่มเจ้า หวังถวิลปิ่นผมปอย ปักคู่ มวยนา คำเอ่ยมิเคยเย้า กริ่งน้องนางเคืองฯ ๏ ยามวสันต์รินสู่หล้า โปรยปราย แม่เอย ปานว่าใจละลาย นั่นแล้ว ดอกฝนหล่นเป็นสาย สาดใส่ นองนา หวังแต่เพียงนางแก้ว อย่าร้างกายไกลฯ ๐ ฤๅรักจักห่างเศร้า เนาว์จินต์ ใจพี่ยามฝนริน ห่วงน้อง ภักดิ์โฉมแม่ยุพิน หวังคู่ นวลนา เต็มเปี่ยมจิตทุกห้อง มอบให้เธอครองฯ ๏ ฝนเอยเหมือนดั่งคล้าย ครางครวญ ฤๅส่งเสียงเชิญชวน คู่เคล้า ฤดีสื่อใจนวล เคียงคู่ กันนา หวังพี่มีเพียงเจ้า แน่งน้อยหวลถวิล ฯ .......................
24 สิงหาคม 2552 20:28 น. - comment id 1031124
อยากหัดแต่งโคลงแต่แต่งแล้ว ไม่เป็นโคลง สักที ขออ่านงานลุงไปก่อนนะค่ะ
24 สิงหาคม 2552 21:14 น. - comment id 1031164
** หยาดฝนบนฟากฟ้า......บรรเทา คอยดับความโศกเศร้า......แห่งน้อง หยาดรักจักเคียงเรา .........คงอยู่ คู่นา อกพี่คอยปกป้อง................นิ่มเนื้อนางใจ....ฯ ** สายฝนหยดหยาดเคล้า กายา รินหลั่งดังธารา..................ท่วมท้น พิรุณหมดนภา................. ใดเปรียบ เทียบ..แฮ หยาดรักจักนองล้น...........หนึ่งน้องนวลนาง....ฯ ** ขอเธอเพียรมั่นไว้..........เคียงครอง ฤารักจักสมปอง..................คู่สร้าง ดวงใจไป่เราสอง................เคยพัก พิงแฮ คงมิแรมราร้าง...................ห่างให้ใจถวิล....ฯ โคลงงาม..ภาพสวย...มาร่วมแจมโคลงด้วยค่ะ....แวะมาดูแลสุขภาพนะคะ...
25 สิงหาคม 2552 08:51 น. - comment id 1031296
เห็นสายฝนแล้วชื่นใจดีจังนะคะ อยากเล่นน้ำฝน
25 สิงหาคม 2552 09:08 น. - comment id 1031305
แวะมาฟังเสียงฝนในวันเหงาครับ
25 สิงหาคม 2552 10:34 น. - comment id 1031367
สิ้นแสงสีผ่องแผ้ว ชวนชม เปรียบดั่งพี่ระทม ขุ่นข้อง หัวอกร่ำระบม หมองหม่น ดวงแด อยากกู่ตะโกนก้อง ผ่านฟ้า ธานีฯ .................................................... โคลงอาจจะมีผิดเพี้ยนบ้างลองหัดแต่ง เหมือนกันจ้า ........... แวะมาทักทายสายฝนแห่งความห่วงใยค่ะ
25 สิงหาคม 2552 13:02 น. - comment id 1031423
อยากหัดแต่งโคลงแต่แต่งแล้ว ไม่เป็นโคลง สักที ขออ่านงานลุงไปก่อนนะค่ะ ใจปลายทาง """""""""""""""""""""" อ้าวนึกว่าหลานอ้อม จะมาฝึกแต่งด้วยกัน ซะอีก นะครับ โคลงของลุงก็เข้าประเภทโคลงเคลง นะครับ
25 สิงหาคม 2552 14:09 น. - comment id 1031441
** หยาดฝนบนฟากฟ้า......บรรเทา คอยดับความโศกเศร้า......แห่งน้อง หยาดรักจักเคียงเรา .........คงอยู่ คู่นา อกพี่คอยปกป้อง................นิ่มเนื้อนางใจ....ฯ ** สายฝนหยดหยาดเคล้า กายา รินหลั่งดังธารา..................ท่วมท้น พิรุณหมดนภา................. ใดเปรียบ เทียบ..แฮ หยาดรักจักนองล้น...........หนึ่งน้องนวลนาง....ฯ ** ขอเธอเพียรมั่นไว้..........เคียงครอง ฤารักจักสมปอง..................คู่สร้าง ดวงใจไป่เราสอง................เคยพัก พิงแฮ คงมิแรมราร้าง...................ห่างให้ใจถวิล....ฯ โคลงงาม..ภาพสวย...มาร่วมแจมโคลงด้วยค่ะ....แวะมาดูแลสุขภาพนะคะ... ราชิกา """"""""""""""""""""" ๏ เมฆมัวฝนกลั่นแล้ว พราวพราย รินลงเหมือนเป็นสาย ใส่สร้อย สาดพรำร่ำระบาย งามกว่า ใดนา ม่านฟ้าดุจดังร้อย ห่มด้วยสังวาลย์ ฯ ๏ สายฝนรินสู่หล้า คราใด น้องเอย มวลส่ำสัตว์พฤกษ์ไพร ชุ่มชื้น ชาวนาท่าฟากไกล สุขทุ่ง นองแฮ ใยแต่เราตารื้น พร่างน้ำนัยตา ๏ นภาดังยั่วเย้า คอยเตือน ใจที่พรางลางเลือน กว่าแสร้ง คอยโฉมแม่คืนเรือน มาสู่ ใจนา ฤๅว่าคัคนางค์แกล้ง พี่ให้ยอกหทัย คุณ ตุ้ม ขอบคุณที่มาเยี่ยม และแวะมาดูแลสุขภาพกัน สมกับเป็นพยาบาล จริงๆเลย นะครับ โคลงแจม เพราะมากจริงๆครับ ผมขอตอบเป็นโคลงเคลง ดังว่านะครับ แสนคำนึง
25 สิงหาคม 2552 14:16 น. - comment id 1031443
โคลงแต่งไม่ชำนาญค่ะ เฌอมาลย์ """"""""""""""""""""""""" ไม่เป็นไรครับ มาเยี่ยมเยียนกันก็ขอขอบคุณมากแล้ว ครับ
25 สิงหาคม 2552 17:05 น. - comment id 1031560
เห็นสายฝนแล้วชื่นใจดีจังนะคะ อยากเล่นน้ำฝน เพียงพลิ้ว """""""""""""""""""" ดีครับ เชิญตามสบายนะครับ
25 สิงหาคม 2552 17:07 น. - comment id 1031562
แวะมาฟังเสียงฝนในวันเหงาครับ บพิตร """""""""""""""""""""" ขอบคุณที่มาเยี่ยมเยียน ฟังเสียงฝนด้วยกันครับ
25 สิงหาคม 2552 17:25 น. - comment id 1031569
อะแฮ่ม....มาอ่านโคลงเกี่ยวกับฝนค่ะ... สบายดีมั๊ยคะ
25 สิงหาคม 2552 17:32 น. - comment id 1031583
สิ้นแสงสีผ่องแผ้ว ชวนชม เปรียบดั่งพี่ระทม ขุ่นข้อง หัวอกร่ำระบม หมองหม่น ดวงแด อยากกู่ตะโกนก้อง ผ่านฟ้า ธานีฯ .................................................... โคลงอาจจะมีผิดเพี้ยนบ้างลองหัดแต่ง เหมือนกันจ้า ........... แวะมาทักทายสายฝนแห่งความห่วงใยค่ะ เทียนหยด """""""""""""""""""""""""""" ๏ หลังสายฝนหลั่งล้น โลมดิน แลนา นภาผ่องปานยุพิน แน่งน้อง ยามใครใคร่ยลยิน งามแน่ นางเอย ใจพี่หวังฟังร้อง บ่อนฟ้าเบิกสรวงฯ ดีแล้วครับที่มาหัดแต่งด้วยกัน ขอบคุณครับ ที่มาทักทายสายฝนด้วยกัน
25 สิงหาคม 2552 18:04 น. - comment id 1031602
อะแฮ่ม....มาอ่านโคลงเกี่ยวกับฝนค่ะ... สบายดีมั๊ยคะ โคลอน """""""""""""""" ว่าจะฝึกแต่งนะครับ พอดีเมื่อวานฝนตก เลยพยายามแกะมาได้แค่นี้แหละครับ ผมสบายดีครับ คุณโคลอน ละครับ เป็นไงบ้าง
25 สิงหาคม 2552 18:06 น. - comment id 1031604
สบายดีเช่นกันค่ะ ขอบคุณนะคะ ฝนแต่งโคลงยาวๆยังไม่เป็นอ่ะค่ะ แต่งทีไรมันไม่ค่อยจะพ้องเรื่องราวกันเท่าไหร่เลย...
25 สิงหาคม 2552 18:19 น. - comment id 1031616
ฝนร่ำคร่ำครวญชวนให้ช้ำ ย้ำบางคำคอยทวนหวลคืนให้ ยามฝนหลั่งลงมาแห่งป่าใจ คล้ายอาลัยครวญเหงาให้เศร้าซึม ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมค่ะ
25 สิงหาคม 2552 18:32 น. - comment id 1031621
สายธารจากฟากฟ้า สู่ดิน ครืนครืนครั่งหลากริน ล่มแล้ว กระแทกเซาะแก่งหิน สาดซัด เรือนนอน ลมเกรี้ยวกราดทั่วแนว แมกไม้ ทลายลง หอบลูกจูงหลานพล่าน ลมฝน ไม้ไร่โค่นกิ่งต้น เรียงราย กระท่อมไร้แรงทน กองทับกับดิน สั่นหนาวทั้งใจกาย ใต้สายน้ำตา ฯ
25 สิงหาคม 2552 19:13 น. - comment id 1031647
มาอ่านงาน ท่านอาจารย์น่ะครับ พอดี ลืมเม้นท์มะวาน (สายตา ชักเลือนลาง อิอิ) งานท่านอาจารย์เพราะมากครับ สำหรับผม ใช้คำได้สละสลวย อ่านแล้วไม่เครียดน่ะครับ อ่านง่าย ด้วยเคารพรัก ท่านอาจารย์ คุณน้า คนกุลา ที่แสนใจดีต่อผมเสมอมา...
25 สิงหาคม 2552 19:32 น. - comment id 1031657
สบายดีเช่นกันค่ะ ขอบคุณนะคะ ฝนแต่งโคลงยาวๆยังไม่เป็นอ่ะค่ะ แต่งทีไรมันไม่ค่อยจะพ้องเรื่องราวกันเท่าไหร่เลย... โคลอน """"""""""""""" ผมก็พยายามฝึกอยู่ครับ โดยการไปแจมเขาไว้ ได้เป็นบทๆเลยเอามาเขียนต่อให้จบ จะทิ้งไปก็เสียดาย ครับคุณฝน
25 สิงหาคม 2552 21:19 น. - comment id 1031746
ฝนร่ำคร่ำครวญชวนให้ช้ำ ย้ำบางคำคอยทวนหวลคืนให้ ยามฝนหลั่งลงมาแห่งป่าใจ คล้ายอาลัยครวญเหงาให้เศร้าซึม ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมค่ะ ทิพย์โนราห์ พันดาว """"""""""""""""""""""""" ดังฝนครวญคร่ำร้อง ปองนวล นางเอย เหมือนว่าใครเคยชวน ค่ำเช้า หวังหมองหม่นใจควร ไหลสู่ ธารนา เหลือที่คงเริงเร้า กล่อมให้ใจเกษมฯ ขอบคุณที่มาเยี่ยมเยียนกัน เช่นกันครับ
25 สิงหาคม 2552 21:58 น. - comment id 1031765
สายธารจากฟากฟ้า สู่ดิน ครืนครืนครั่งหลากริน ล่มแล้ว กระแทกเซาะแก่งหิน สาดซัด เรือนนอน ลมเกรี้ยวกราดทั่วแนว แมกไม้ ทลายลง หอบลูกจูงหลานพล่าน ลมฝน ไม้ไร่โค่นกิ่งต้น เรียงราย กระท่อมไร้แรงทน กองทับกับดิน สั่นหนาวทั้งใจกาย ใต้สายน้ำตา ฯ ริมธาร """""""""""""""""""" ยามลมฝนหม่นท้อ ใจคน จริงนา ในเมื่อมีบางหน ซึ่งเศร้า ครืนโครมถั่งโถมจน รานแหล่ง อยู่นา พังหมู่ชนเรือนเหย้า ล่มแล้วสาบสูญ ยามลมครวญป่วนไห้ ใจหลง ปวงท่วมจนนางคง วุ่นว้า ไหลลามทั่วไพรพง ธารทุ่ง ทางนา ใจหวั่นเพียงใดอ้า ห่วงคล้ายหามี ผมก็เพิ่งหัดแต่งนะครับโคลงนี่
25 สิงหาคม 2552 22:01 น. - comment id 1031767
มาอ่านงาน ท่านอาจารย์น่ะครับ พอดี ลืมเม้นท์มะวาน (สายตา ชักเลือนลาง อิอิ) งานท่านอาจารย์เพราะมากครับ สำหรับผม ใช้คำได้สละสลวย อ่านแล้วไม่เครียดน่ะครับ อ่านง่าย ด้วยเคารพรัก ท่านอาจารย์ คุณน้า คนกุลา ที่แสนใจดีต่อผมเสมอมา... กวีน้อยเจ้าสำราญครับ ........................ กวีน้อยฯอย่าเอ็ดไป เรื่องโคลงนีผมก็เพิ่งฝึกเหมือนกันครับ เพิ่งจะลงเป็นโคลงแรก เองครับ นี่ อย่าเพิ่งชม เขาจะหมั่นใส้เอา นะครับ