๏.. ๑. อดีตกาล มองท้องฟ้ามืดสลัวดูมัวหม่น มีเมฆฝนลอยคว้างบดบังแสง และสายลมโบยโบกกรรโชกแรง ฝุ่นสีแดงพวยพุ่งฟุ้งกระจาย จะก้าวเดินก็ท้อแท้มิแลเห็น ดูยากเย็นพะวงคิดทิศทางไหน อนาคตมืดมน...สู่หนใด สิ่งวาดไว้วาดหวังพังทลาย ๏.. ๒. ปัจจุบัน พลันเมฆฝนคล้อยเคลื่อนเลื่อนลงต่ำ ละอองน้ำซ่านกระเซ็นเป็นเส้นสาย เสียงฟ้าฟาดดุจพายุที่ดุร้าย จนร่างกายหวาดหวั่นพรั่นวิญญาณ ขอยืนรอสายฝนรอจนกว่า หากฝนซาฟ้าสวยช่วยสมาน แผลในใจทุกข์ระทมต้องซมซาน เพื่อก้าวผ่านความช้ำสุดกล้ำกลืน ๏.. ๓. อนาคต เพราะชีวิตดิ้นรนทนลำบาก ความทุกข์ยากถาโถมสุดขมขื่น ถึงวันนี้เลิกท้อขอหยัดยืน เพื่อพลิกฟื้นเศร้าโศกเปลี่ยนโชคชะตา จะเดินสู่อรุณรุ่งวันพรุ่งนี้ ขอสุขีเสพสุขสันต์ด้วยหรรษา เดินไปตามความฝันมั่นศรัทธา ก้าวที่กล้าหวังวันนี้ดีกว่าเดิม
16 สิงหาคม 2551 00:06 น. - comment id 886123
กาแฟซักแก้ว มั้ยคะ หรือจะรับน้ำปานะ ดี อิอิ มาซะดึกเชียวพี่ต่อ
16 สิงหาคม 2551 06:39 น. - comment id 886151
คนแท้ย่อมไม่ท้อ วันพรุ่งต่อค่อยก่อเสริม ไม่หวั่นพรั่นเรื่องเดิม จะฮึกเหิมสู้ต่อไป สวัสดีตอนเช้าค่ะ
16 สิงหาคม 2551 06:40 น. - comment id 886152
16 สิงหาคม 2551 06:49 น. - comment id 886156
ลมหายใจยังมี..ย่อมมีหวัง อ่อนพลังก็เติมใหม้ได้อีกหน ท้อทำไมแพ้ทำไมให้ทุกข์ทน ปลุกกมล...ต่อสู้....ดูอีกครา... สู้ว้อย..หุหุ
16 สิงหาคม 2551 09:08 น. - comment id 886176
แล้วยังปากแข็งอีกนะว่าไม่เหนื่อย เฮ้อๆๆคนรูปหล่อเลือกได้กก็งี้แระ..อิอิ
16 สิงหาคม 2551 10:05 น. - comment id 886185
อ่านกลอนนี้แล้ว ทำให้คิดถึงใครคนหนึ่ง แล้วก็เพลงเพลงหนึ่ง .. เปลี่ยนจากคิดถึง เป็น นึกถึง ท่าจะนุ่มนวลกว่า พี่ว่ามั๊ย ...................... สบายดีนะคะพี่ต่อ วันฝนซา - พลพล
16 สิงหาคม 2551 12:01 น. - comment id 886206
....ยามสายฝนหล่นมาดั่งฟ้าร่วง ฤทัยห่วงหวั่งหวดหวั่นภาพฝันหลอน หนีฝนตกซุกดัวกลัวเปียกปอน เดินนั่งนอนมิมีสุขแสนทุกข์ครัน คอยนอนรออรุณรุ่งในพรุ่งนี้ แต่สายฝนชลธีมีแปรผัน มันยังคงตกต่อผู้รอวัน อรุณรุ่งทิวานั้นเมื่อไหร่มี...
16 สิงหาคม 2551 19:55 น. - comment id 886380
สวัสดีครับ แต่อินสวนชอบให้ฝนตกครับ ชอบมองออกไปท่ามสายฝน มองเท่าไหร่ไม่เบื่อครับ
16 สิงหาคม 2551 20:44 น. - comment id 886435
เพราะดีครับ
17 สิงหาคม 2551 07:44 น. - comment id 886653
หวังเช่นกันเลย วันนี้และพรุ่งนี้..ดีกว่าเดิม
17 สิงหาคม 2551 17:10 น. - comment id 886951
ฝนตกกวีตื่น
17 สิงหาคม 2551 20:22 น. - comment id 887018
แต่ฝนที่พิจิตรตกทุกวันเลยท่านนู๊หล่ะเเซ็ง
17 สิงหาคม 2551 21:51 น. - comment id 887065
คุณ แมวแต้ม ขอบคุณคร๊าบบบ กาแฟ 1 น้ำตาล 2 อย่าลืม อิอิอิ คุณ กันนา สวัสดียามค่ำครับ คุณ รัมณย์ คุณ ครูพิม งวดหน้าจะไปชิงแชมป์โลกแล้ว คุณ พิมญดา เลือกได้ก็ดีสิครับ อุ๊ ร้องไงละเพลงนั้น ส่งมาให้ฟังบ้างสิ คุณ เอื้องคำ ทุกอย่างย่อมมีวันสิ้นสุดครับ เมื่อสิ่งหนึ่งสิ่งใดสิ้นสุด อีกสิ่งย่อมเริ่มต้นให่เสมอ ขอบคุณครับ คุณ ช่ออักษราลี ขอบคุณสำหรับรูปครับ คุณ อินสวน ผมก็ชอบสายฝนครับ เย็นชื่นใจ คุณ ฝนทอง มือใม่น่ะครับ ขอบคุณครับ คุณ เฌอมาลย์ หายไปนาน หรือว่าผมหายไป สบายดีน่ะครับ ถ้าคิดได้อย่างนั้น ก็ดีแล้วละครับ คุณ อัสสุ ปลาหมอขึ้นด้วย อย่าลืม ท่านกำนัน อย่ายู่อย่างสิ้นหวังครับ บทกลอนชุดนี้เขียนแบบมองข้ามระเบียบแบบแผนไปบ้าง ขออภัยน่ะครับ แต่ก็ขอขอบคุณทุกท่าน
18 สิงหาคม 2551 16:35 น. - comment id 887277
..
18 สิงหาคม 2551 17:15 น. - comment id 887290
งดงามในความหมาย เหมาะสำหรับเป็นกำลังใจให้คนที่กำลังท้อแท้ได้ดียิ่ง สมควรแล้วที่จะได้ขึ้นหน้าแรกให้ชาวไทยโพเอ็มได้อ่าน บทกลอนชุดนี้เขียนแบบมองข้ามระเบียบแบบแผนไปบ้าง ขออภัยน่ะครับ แต่ก็ขอขอบคุณทุกท่าน ปุจฉา(ด้วยสงสัยว่าเหตุไฉนท่านจึงมองข้าม) ปรมาจารย์ทางด้านกลอนหลายๆท่าน เช่น เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ เขียนไว้ว่า ไม่ควรนำ เสียงสั้น ยาว มาสัมผัสนอกและระหว่างบทกัน และไม่ควรใช้สัมผัสเลือน มองท้องฟ้ามืดสลัวดูมัวหม่น มีเมฆฝนลอยคว้างบดบังแสง และสายลมโบยโบกกรรโชกแรง ฝุ่นสีแดงพวยพุ่งฟุ้งกระ จาย จะก้าวเดินก็ท้อแท้มิแลเห็น ดูยากเย็นพะวงคิดทิศทาง ไหน อนาคตมืดมน...สู่หน ใด สิ่งวาด ไว้ วาดหวังพัง ทลาย ไม่ใช่ลักษณะบังคับ แต่เป็นข้อควรหลีกเลี่ยง อาจจะมีปรากฏบ้างในหนังสือของผู้ได้รับรางวัลซีไรต์ แต่นั่นเขามองที่ภาพรวม ถ้ากลอนที่เขียนสั้นๆ ท่านว่าไว้ไม่ควรมี ท่านเรไรมีความคิดเห็นว่าอย่างไร โดยส่วนตัวเห็นว่า ถ้าไพเราะ ความหมายกินใจ ก็ให้เต็ม 10 ครับ ^ ^ สำหรับคนที่จะเขียนกลอนส่งเข้าประกวด อย่ามองข้ามข้อนี้เทียว
18 สิงหาคม 2551 21:35 น. - comment id 887373
งดงามในความหมาย เหมาะสำหรับเป็นกำลังใจให้คนที่กำลังท้อแท้ได้ดียิ่ง สมควรแล้วที่จะได้ขึ้นหน้าแรกให้ชาวไทยโพเอ็มได้อ่าน บทกลอนชุดนี้เขียนแบบมองข้ามระเบียบแบบแผนไปบ้าง ขออภัยน่ะครับ แต่ก็ขอขอบคุณทุกท่าน ปุจฉา(ด้วยสงสัยว่าเหตุไฉนท่านจึงมองข้าม) ปรมาจารย์ทางด้านกลอนหลายๆท่าน เช่น เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ เขียนไว้ว่า ไม่ควรนำ เสียงสั้น ยาว มาสัมผัสนอกและระหว่างบทกัน และไม่ควรใช้สัมผัสเลือน มองท้องฟ้ามืดสลัวดูมัวหม่น มีเมฆฝนลอยคว้างบดบังแสง และสายลมโบยโบกกรรโชกแรง ฝุ่นสีแดงพวยพุ่งฟุ้งกระ จาย จะก้าวเดินก็ท้อแท้มิแลเห็น ดูยากเย็นพะวงคิดทิศทาง ไหน อนาคตมืดมน...สู่หน ใด สิ่งวาด ไว้ วาดหวังพัง ทลาย ไม่ใช่ลักษณะบังคับ แต่เป็นข้อควรหลีกเลี่ยง อาจจะมีปรากฏบ้างในหนังสือของผู้ได้รับรางวัลซีไรต์ แต่นั่นเขามองที่ภาพรวม ถ้ากลอนที่เขียนสั้นๆ ท่านว่าไว้ไม่ควรมี ท่านเรไรมีความคิดเห็นว่าอย่างไร โดยส่วนตัวเห็นว่า ถ้าไพเราะ ความหมายกินใจ ก็ให้เต็ม 10 ครับ ^ ^ สำหรับคนที่จะเขียนกลอนส่งเข้าประกวด อย่ามองข้ามข้อนี้เทียว หมึกมรกต 18 ส.ค. 51 - 17:15 IP 125.26.187.37 สวัสดีครับคุณหมึกมรกตหายหน้าไปนานเลย แหมม บอกไว้แล้วเชียว นึกอยู่เหมือนกันว่าจะมีใครสักคนเห็นมันหรือเปล่า ... ออกตัวก่อนเลยครับว่ามองข้ามไป ผมชอบใจประโยคนึงที่ว่า ...อย่าตัดลวดที่ตึง อย่าดึงลวดที่หย่อน... เรื่องกลอนขึ้นหน้าแรก ผมมิได้รู้สึกยินดีเลยด้วยซ้ำ กลับรู้สึกอับอาย อีกต่างหาก ที่ขึ้นไปหน้าแรกเหมือนประจานตัวเอง ...เมื่อใดที่งานของผมข้ามระเบียบแบบแผน กลอนชุดนั้นก็มักโดนจับไปขึ้นเขียง...ประจำ ... ที่ถามว่าเหตุไฉนจึงมองข้าม... ไม่อยากตึงเกินไปมั้งครับ เขียนแบบสบายๆไปตามเรื่องตามราว ...บนเส้นทางกวี ผมยังไม่ได้เดินเข้าไปหรอกครับ แค่เพียงตั้งไข่เตาะแตะ พอเขียนแล้วเป็นกลอนเท่านั้นเอง ... ผมเห็นเส้นทางของ ท่านสุนทรภู่ อาจารย์เนาวรัตน์ ท่านอังคาร ผมคงไม่สามารถเดินไปได้แบบนั้น แบบท่านใดท่านหนึ่งได้ ผมก็แค่เพียรถางทางของผมไว้เดินเองนั่นแหละ บทกวีส่งประกวด ยังหรอกครับ ยังไม่ถึงขั้นนั้น ผมไม่มีพล๊อตเรื่อง ฝีมือยังไม่ถึง แค่เขียนแล้วมีคนอ่านผมก็ดีใจแล้ว เรื่องสัมผัสเลือน การรับสัมผัสกันด้วยสระเสียงสั้นเสียงยาวในบทที่ต่อเนื่องกัน ไม่ผิด แต่ไม่งาม ข้อนั้นทราบดีครับ ผมจึงออกตัวว่าข้ามระเบียบแบบแผนไปบ้างโดยตั้งใจ หากคุณหมึกมรกตมีเวลาลองย้อนกลับไปอ่านงานของผมสิครับ น้อยเรื่องนักที่จะปล่อยผ่าน แต่ก็ต้องขอบคุณ คุณหมึกมรกตมากเลยครับแสดงความเป็นสุภาพบุรุษ มาเป็นกระจกสะท้อนภาพงานของผม อย่างตรงไปตรงมา อย่างกล้าหาญ ไม่หลบๆซ่อนๆ หรือลอบกัดเยี่ยงสุนัข ดีครับผมรู้สึกยินดีอย่างยิ่ง ที่มีใครสักคนคอยดูงานของผม เพื่อผมจะได้รู้ข้อผิดพลาดของตัวผมเอง สักวันครับ วันหนึ่งในอนาคต ผมอาจจะส่งบทกวีเข้าประกวดก็ได้ ใครจะไปรู้ ด้วยความขอบคุณจากใจจริง
18 สิงหาคม 2551 21:36 น. - comment id 887376
แซงควตอบไปก่อนอย่าน้อยใจละ คุณ ผู้หญิงช่างฝัน จะจมน้ำเอาห่วงยางไหมครับ