วาดไหว โดยคำ .... !!!
ลานเทวา
( ๑ )
หอมเอย หอมดอกกระดังงา
รัญจวนพากลิ่นชื่นคืนเดือนหงาย
ริมหน้าต่างบางลมพรมแผ่วพราย
ระยิบดอกดารารายระยับฟ้า
ณ มุมเก่าห้องเก่านั่งเล่าเขียน
ผ่องแสงเทียนสาดหนใจค้นหา
ร่องรอยแห่งความฝันวันเวลา
ระลึกมาเขียนจดเป็นบทตอน
ร่ายอารมณ์ตรมตรึงรำพึงผ่าน
ถ้อยไหวหวานกล่อมเห่เสน่ห์อักษร
ว่างามใดไหนเล่าเท่างามกลอน
ที่สะท้อนความรู้สึกอันลึกเร้น
นั่งเขียนบทจดคำมาร่ำร้อย
ประดิษฐ์ถ้อยกานท์โปรดให้โดดเด่น
เขียนทุกอย่างที่มีและที่เป็น
ให้โลกเห็นงานอักษรสะท้อนงาม
( ๒ )
หอมเอย หอมลั่นทม
โชยกลิ่นตรมข่มโศกโลกทั้งสาม
เศร้าอักษรอ่อนไหวในโมงยาม
แทนหนึ่งความหมองหม่นแห่งหนใจ
บางสิ่งสื่ออ้างว้างในบางช่วง
บางสิ่งล่วงทุกข์ทนกังวลไหว
บางบทบ่งตรงช้ำระกำใน
ห้วงหทัยรวดร้าวหนาวรำพึง
บางบทพรากจากจิตพิศวาส
เร่นิราศห่างเหินเกินคิดถึง
บางบทบอกตอกย้ำห้วงคำนึง
บางบทตรึงน้ำตาอุราราน
บ้างร่ายโศกร่ายสุขการปลุกปลอบ
บ้างเขียนมอบกำลังใจไว้ขับขาน
แลบางบทสดชื่นรื่นเบิกบาน
บางบทจารทั้งน้ำตามาเป็นคำ
( ๓ )
หนาวเอย หนาวลมพลิ้วพรมห้วง
บางสุขล่วงจากปลื้มใจดื่มด่ำ
อารมณ์เลือนเคลื่อนคล้อยรอยลำนำ
สุขโศกบทจดจำอยู่เจียนตาย
ณ มุมเก่าห้องเก่านั่งเล่าเขียน
สาดแสงเทียนผ่องผุดไปสุดสาย
สิ้นเรื่องราวหนาวลมอันพรมพราย
ก็สิ้นแสงสุดท้ายจากแรงเทียน
.....................
โดยคำ ลานเทวา