คำจากลายังตราตรึงถึงทรวงอก หวั่นวิตกอกจะสิ้นดินกลบร่าง ห่วงแสนห่วงดวงใจไม่วายวาง ยามเจ้าห่างทางหม่นนองนองน้ำตา เจ้าจากไกลใฝ่ศึกษาหาอาชีพ เป็นประทีปส่องชีวิตคิดใฝ่หา เพื่อสรรสร้างวางรากฐานชาวบ้านหา สู่เมืองฟ้าสัญญาไว้ใจสัมพันธ์ ปีและเดือนเลื่อนไปในห้าฝน เฝ้าเตือนตนให้ทนคอยร้อยความฝัน กับวันหวนเจ้าทวนกลับนับคืนวัน ด้วยหมายมั่นฝันใฝ่หาค่ารอคอย คอยแล้วคอยเล่าไร้เงาน้อง ตาจับจ้องมองทางอยู่ดู่บ่อยบ่อย แต่กลับไร้ในวี่แววแก้วเนื้อกลอย หรือลืมรอยปล่อยรักเก่าทิ้งเราไป สิวิไลย์ ไนเมืองฟ้าพาเจ้าหลง รักมั่นคงตรงนี้ที่หวั่นไหว การศึกษาค่าแรกเริ่มเดิมตั้งใจ บัดนี้ไร้ในข่าวคราวปวดร้าวจริง ยังคงรอต่อไปใจใฝ่หา แม้เวลาค่าจะนานผ่านทุกสิ่ง ศิวิไลย์ใสแสงสีที่พักพิง จนเจ้าทิ้งสิ้งทั้งหลายหมายกลับมา แม้จะผิดคิดพลาดขนาดไหน พี่ก็ให้อภัยไม่เคยว่า แม้เจ้าลืมถ้อยคำย้ำสัญญา ไม่ดุด่าพาซ้ำเติมเสริมเรื่องราว ให้ทุกสิ่งเป็นอดีตที่ขีดพลาด เพราะไม่อาจวาดซ้ำนำคืนก้าว ลืมทุกอย่างสร้างทางใหม่ให้ยืนยาว ความปวดร้าวคราวนี้..... พี่ปลอบใจ
21 เมษายน 2550 13:25 น. - comment id 685516
ความปวดร้าวคราวนี้..... พี่ปลอบใจ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น..................... .........................ก็ขออยู่เคียงข้างเสมอ
21 เมษายน 2550 16:35 น. - comment id 685559
ใจดีจัง ไม่ดุจริงๆน้า อิอิ แวะมาทักทายค่ะ
21 เมษายน 2550 21:15 น. - comment id 685626
กลับมาแล้วค่ะ ไม่ได้หลงเมืองเลยนะคะ เพราะเป็นเด็กบ้านนอก อิอิ สวัสดีค่ะ