๑ ๏ ฉันท์ โคลง กลอน กาพย์ ซ้อง................เสนาะเสียง ฉันสมัครจักจารเรียง..................................รจน์ร้อย ฉันทาค่ากานท์เพียง...................................สุพรรณพร่าง.........พรายนอ ฉันก่อทอสร้อยถ้อย.....................................ถักไว้วรรณศิลป์ ฯ ๒ ๏ วรรณสารสานสืบสร้าง...........................ส่งมา ส่งผ่านกาลเวลา...........................................ล่วงนั้น ล่วงไปใช่เซาซา..........................................ซึมเสื่อม ซึมซ่านกานท์ฤๅกั้น.....................................กีดข้ามเขตสมัย ฯ ๓ ๏ คือเสมือนแม้นเพชรรุ้ง.........................เรืองสวรรค์ พรายพร่างสว่างพรรณ.................................เพริศแพร้ว เพลงพจน์บทบวงบรรณ................................บูรณ์ดั่ง..........เพชรนา เลอค่าเพียงแพรวแก้ว..................................ก่องล้ำเลอสรวง ฯ ๔ ๏ เรียงเสียงเพียงเพชรร้อย......................เรียงราย ประภัสสร์ผ่องเพียงเพชรฉาย........................เฉิดจ้า วรรณศิลป์ไป่สิ้นพราย..................................เพลาพร่า ทรงอยู่คู่แผ่นหล้า..........................................ร่วมสร้างศุภักษร ๚
28 ธันวาคม 2544 21:43 น. - comment id 27777
เพราะจังเลยค่ะ แต่ทำไมใช้ชื่อบทกลอนว่า อหังการของนักกลอนคะ คำว่าอหังการ มีความหมายในทางใด อยากรู้
28 ธันวาคม 2544 21:58 น. - comment id 27785
อหังการ แปลว่า ความเย่อหยิ่ง ทะนงตัว หรือ อวดดี มักใช้ในความหมายทางลบ ... ที่ใช้กับโคลงชุดนี้ ..เพราะในโคลงบรรยายถึงความงดงาม คุณค่าของบทกวี ที่สืบสานมาแต่โบราณ แล้วผม (ฉัน..ในบทที่ ๑) ตั้งใจที่สืบต่อ ทั้ง ๆ ที่เป็นแค่นักกลอนฝึกหัดเท่านั้นเองครับ
28 ธันวาคม 2544 22:03 น. - comment id 27789
เรียกได้ว่า ถึงแม้มือไม่ถึง ..ก็อวดดีที่จะทำ "ฉันก่อทอสร้อยถ้อย...........ถักไว้วรรณศิลป์" และ ทรงอยู่คู่แผ่นหล้า............ร่วมสร้างศุภักษร แหะ ๆ อย่างนี้จึงตั้งชื่อโคลงว่า อหังการ ครับผม
28 ธันวาคม 2544 22:24 น. - comment id 27797
นับถือค่ะ....กลอนเพราะมาก ๆ เลยล่ะ
29 ธันวาคม 2544 03:49 น. - comment id 27844
คาราวะ.. ครูกลอนของผมเลยครับ....