มีผ้าเหลืองเพียงห่มห่อต่อชีวิต บรรพชิตเพศนี้มีมนต์ขลัง เหมือนดังว่าข้านี้มีพลัง มีคนนั่งกราบไว้ใคร่บูชา ก่อนนั้นเป็นพระสงฆ์องค์น้อยน้อย แล้วค่อยค่อยสั่งสมบ่มพรรษา เป็นพระใหญ่คนกราบไว้ใจศรัทธา สาธุชนมากหน้ามาไหว้เวียน การกินดีอยู่ดีมีกำหนัด หลังจำวัดยามตื่นหื่นกระเหียน ยามอยู่ใกล้สีกาวาจาเพียร เกิดความเสี้ยนอ้อนออกไปใคร่กามา หาโอกาสอยู่ตามลำพังคู่ เริ่มเจ้าชู้ลวนลามทำงามหน้า ด้วยนับถือคนกราบไหว้หลายศรัทธา สาวมิกล้าเอื้อนเอ่ยเผยบอกคน หลงได้ใจต่อไปนี้ไม่มีห่วง โอกาสลวงหลอกล่อต่อหลายหน กำลังทรัพย์มีปิดปากหากได้ยล อีกหลายคนดูลาดเลาเฝ้าหมายปอง มันช่างน่าสมเพชทุเรศนัก ไอ้ระยำมันทำหนักศาสน์มัวหมอง หากมึงใคร่อยากลิ้มชิมประลอง ใยจึงต้องอาศัยวัดขัดวินัย ธรรมชาติ ธรรมดา มาจากปาก ชั่งมักมากพูดออกมาหน้าใสใส แค่เพียงคิดสักนิดก็จัญไร แต่นี่ใช่ทั้งพูดทำระยำคน.......ฯ ** ขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๓ ** สามนาฬิกา ๙ กุมพ์ ๒๕๔๘
9 กุมภาพันธ์ 2548 12:51 น. - comment id 422535
ดูข่าวแล้วให้นึกสังเวช ปนทุเรศ และอุบาทว์ค่ะ กลอนแต่งได้ดีมากๆค่ะได้ใจความทั้งหมดเลยค่ะ
9 กุมภาพันธ์ 2548 16:29 น. - comment id 422657
*คุณเมืองลิง เรื่องแบบนี้มีมากครับทุกวันนี้ ไม่รู้จักหมดสิ้นซะที ยังมีอีกเยอะที่ยังไม่โดนแฉ...... และมีอะไรๆ หลายอย่างกว่านี้เยอะ เฮ้อ.....
9 กุมภาพันธ์ 2548 22:40 น. - comment id 422824
เคยได้ยินเรื่องนี้บ่อย ๆ ถึงบ่อยมาก ก็ได้แต่เศร้าใจ แต่สิ่งหนึ่งที่เคยสงสัยและถามจากเพื่อนร่วมงานด้วยกัน ซึ่งเป็นคำถามที่อยู่ในเนื้อกลอนพอดี ว่าทำไมเขาไม่สึกออกมาให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย จะมาบวชอยู่ทำไม คำตอบสั้นนิดเดียว แต่กินใจมาก เดี๋ยวนี้คนทำบุญเยอะไง แถมคนรับไม่เหนื่อยด้วย
10 กุมภาพันธ์ 2548 02:39 น. - comment id 422945
...ถ้าเป็นไปได้ไม่อยากให้เกิดค่ะ.. เสียทั้งศรัทธาและความเลื่อมใสต่อศาสนา เฮ้อ
10 กุมภาพันธ์ 2548 08:55 น. - comment id 422993
หนูไม่รู้ หนูลืม ที่ดีๆก็มีค่ะ (หายากนิดนึง) อิอิ
10 กุมภาพันธ์ 2548 09:25 น. - comment id 423000
** ก็คงประมาณนั้นครับ คุณผู้หญิงไร้เงา คนทำบุญเยอะ คนรับไม่เหนื่อย จะมีงานไหนสบายกว่านี้ล่ะครับ ** มันอยู่ที่คนครับคุณ =_+ VeNuS +_= ในทุกสังคมย่อมมีคนเลว ต้องช่วยกันตรวจสอบครับ เพื่อขจัดเหลือบเหล่านี้ให้หมดไป ** ใช่แล้วครับ คุณเพียงพลิ้ว ดีๆ ก็ยังมีอีกเยอะครับ ต้องพิจารณาดีๆครับ เห็นแต่เบื้องหน้า เบื้องหลังเราก็ไม่รู้............
23 กุมภาพันธ์ 2548 22:56 น. - comment id 430096
ท่านรู้จักสังคมพระมากแค่ไหน... เรื่องเหล่านี้มันอยู่ที่ทั้งสองฝ่าย ทั้งฆราวาส และก็เหล่าพระสงฆ์ด้วย พระสงฆ์ทำผิด หรือเห็นว่าผิดก็แจ้งตำรวจพระ หรือไปบอกผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านไปเลย อีกอย่างหนึ่งผู้หญิงอย่าพยายามเข้าไปในกฏิพระ ไม่ว่าจะสนืทกันมากแค่ไหน ในครั้งอดีตกาลสมัยพระพุทธเจ้านั้น แม้แต่แม่ตัวเองยังไม่ให้ถูกต้องตัวกัน ดังนั้นเหล่าผู้หญิงอย่าไปอยู่สองต่อสองหรือ เข้าไปในกุฏิของพระอย่างเด็ดขาด ดังนั้นเราจะต้องเข้าใจกฏระเบียบของพระด้วย เพราะสังคมในปัจจุบันนี้ จะไปโทษแต่สังคมพระอย่างเดียวก็ไม่ได้ ดูสังคมที่เราอยู่เสียก่อน เป็นอย่างไร ... มองไปทางไหนก็มีแต่สายเดียว ส้นตึก นอนดึก ตอแหลทั้งนั้น อีกอย่างหนึ่งพระสงฆ์องค์เณรเหล่านี้นั้น เป็นผู้ชาย ที่ยังมีกิเลสอยู่ หรือความอยากความต้องการอยู่ มองเห็นครั้งแรกยังทนได้ แต่เห็นบ่อย ๆ และบ่อยจนเกินไป มันก็ยากที่จะทนต่อสิ่งยั่วยุได้ นอกจากนี้พระสงฆ์องค์เณรที่ดีนั้นก็มีน้อย คนที่มาบวชก็เป็นพวกที่เหลือเลือกเขามาทั้งนั้น พูดง่าย ๆ ก็คือพวกที่เขาไม่ต้องการ พวกมีปัญหา สอนยาก บอกยาก ค้ายา บ้ากัญชา พวกนักเลง พูดง่ายๆ ก็คือ ศูนย์รวมของปัญหาเลยก็ว่าได้ ดูง่าย ๆ เณรที่บวชเรียน ส่วนมากก็เป็นพวกที่เหลือเดนเขาทั้งนั้น อ่านหนังสือไม่ออก บอกยาก มีปัญหา กำพร้าพ่อแม่ แก่แดด นักเลง หัวไม้ จนพากันคิดว่า คนดี ๆๆๆๆ ๆๆๆๆ กว่านี้ไม่มีใครมาบวชเลยหรือไง แล้วยังงี้จะให้มีพระเณรดี ๆๆๆๆๆ เกิดขึ้นได้ไง
23 กุมภาพันธ์ 2548 23:09 น. - comment id 430105
ถ้าคิดว่า ท่านทำได้ดีกว่านั้น ก็จงไปบวชซะสิ เชอะพวกนักวิจารณ์แต่ไม่ช่วยกันรักษา ดีแต่พูด ว่าแต่เขา ดีเท่าไหร่แล้วที่เขาบวชได้นานขนาดนั้น ช่วยรักษาพระพุทธศาสนาให้ได้นานขนาดนี้ แต่พวกท่านสิ เคยไหม นอกจากทำบุญใส่บาตรแล้ว ท่านรู้จักคำว่า พระพุทธศาสนามากแค่ไหนกันเชียว ไม่อยากจะพูด เจอมานักต่อนักแล้ว ว่า ผมนับถือพุทธๆๆๆๆๆๆ ต่อให้ทั้งโคตร เง่าเหล่าศักราช นับมาให้หมด ผมรู้ว่าท่านนับถือพุทธ แต่ท่านรุ้จักอะไรมากกว่านั้นไหม เกี่ยวกับพระพุทธศาสนาหนะ หลักธรรมคำสอนนั้นมีเยอะ ท่านรู้อะไรบ้าง แม้แต่ครูอาจารย์ก็เหมือนกัน พูดง่าย ๆ บางคนยังไม่รู้เลยว่า พระกันเณรต่างกันอย่างไร ก็เห็นว่าหัวโล้นเหมือนกันหมด ...ยังงี้ก็มี แล้วท่านจะเอาอะไรแน่ บอกตามตรงผมก็ไม่พอใจพระบางรูปเหมือนกัน แต่ทำไงได้เล่า ถ้าคิดว่าจะไห้ท่านลาสิกขา แล้วใครจะมาดูแลวัด ยิ่งในวัดบ้านนอกด้วยแล้ว แทบจะไม่มีพระอยู่จำพรรษาเอาเสียเลย อีกอย่างหนึ่งพวกคนรวยก็อยากที่จะสร้างแต่วัด แต่พระที่จะอยู่ก็แทบจะไม่มี แล้วจะสร้างวัดมาทำไมไม่ทราบ หรือเห็นว่ามีเงิน
8 มีนาคม 2548 10:38 น. - comment id 435648
สาธุๆ ใจเย็นๆ ครับ เพิ่งเข้ามาเห็นข้อความของคุณอ้ายทิด ฯ ไม่รู้ว่าคุณจะได้เข้ามาดูอีกหรือเปล่า ตอบสักหน่อยละกัน ที่คุณพูดมาก็ถูกครับ ผมก็เคยคิดเหมือนคุณ หลายอย่าง สังคมเปลี่ยนอะไรก็เปลี่ยนครับ แม้แต่พระ แต่พระเณรที่ดีๆ ก็ยังมีอีกเยอะครับ ที่ไม่ดีก็แยะเหมือนกัน เรามาช่วยกันสอดส่องดูแลไหมครับ ขอโทษนะครับ ผมไม่ค่อยรู้สังคมพระเท่าไรหรอกครับ เพราะทุกวันนี้ผมนับถือศาสนาพุทธ ที่คำสอน มากกว่าตัวบุคคล........ ขอบคุณมากครับที่มาแสงความคิดเห็น............
26 มิถุนายน 2550 16:08 น. - comment id 715719
พระเณรบางครั้งเขาก็ผิดแต่เขาก็ดีกว่าคนที่ว่า