ขำ ฝนยลเห็นเป็นฝอยลอยร่วงสรวง ลิ่วพลิ้วล่วงหน่วงเย็นเด่นพรายสาย โปรยโรยคล้อยย้อยหยดรดรายปราย รวมท่วมถั่งหลั่งกลายหมายไหลไป ฝนยลเห็นเป็นสาวพราวน้อยน้อย ฝนยลผาดหยาดย้อยพลอยใสใส ฝนดลจิตผิดชายหมายใครใคร ฝนทนไห้ใคร่ครวญป่วนพานพาล เห็นคนครวญป่วนใจดุจใบ้บ้า อนิจจามาเศร้าหลงเผาผลาญ รักอะไรไยร้อนไม่ผ่อนพราง มาพล่านถ้อยร้อยวางอยู่กลางลาน อยู่ยังไงให้ร้อนเข้าย้อนอก ที่เคยพล่ามงามยกพกคำหาญ สะอิดเอียนเวียนว่านารีจาร น้ำลายกลืนคืนบานไม่นานเลย อะหาโอ้อะโหเว้ยพอเงยเห็น พล่ามกระเซ็นเหม็นน้ำลายคลับคล้ายเหวย เป็นเด็กรุ่นขุ่นริษย์จริตเคย หางงอกเงยเผยขาดด้วนชวนว่างาม
29 ตุลาคม 2545 08:11 น. - comment id 92082
ต่อมจี้เส้น เป็นอาราย หือ ? .. เห็นแล้วขำนำต่อก่อกลอนด้น ให้ฉงนคิดอะไรในใจขำ ชายชาตรีแม้นารีลี้กลับคำ น้ำลายย้ำพร่ำบูดพูดเพ้อไป ...ก๊ากๆๆ ขำด้วย แบบไม่รู้สาเหตุอ่ะ
29 ตุลาคม 2545 08:32 น. - comment id 92094
ไม่มีอะไรหรอก...นึกหยอกเด็กเล่น...ฮิๆๆๆ
29 ตุลาคม 2545 09:00 น. - comment id 92104
ไปดูลุงหยอกปู่กันมั๊ย หรือเราจะแกล้งผู้เฒ่ากัน
29 ตุลาคม 2545 10:44 น. - comment id 92131
^J^ เฮ้อ.....ไปซะแล้วเพื่อนเรา...!!!???
29 ตุลาคม 2545 11:54 น. - comment id 92162
หิว.. ก็โทโส ขำ.. ป้าเลย หิว.. แหะๆ มาอ่านตอนใกล้เที่ยงนี่นา ~^_^~
29 ตุลาคม 2545 12:43 น. - comment id 92171
ฮากลิ้งเลยป้าส้ม..อ่านของป้าแล้วจี้เส้นอ่ะ
29 ตุลาคม 2545 15:05 น. - comment id 92198
ขึ้นต้นมังกร ลงท้ายมังกือ ขึ้นต้นด้วยกลบท แล้วไมไม่แต่งให้จบกระบวนกลอนเล่าคุณพี่
29 ตุลาคม 2545 15:24 น. - comment id 92206
ขี้เกียจแต่งต่อน่ะคุณน้อง....จริงๆแล้วไม่ตั้งใจให้เป็นกลบทอะไรหรอก....บรรทัดแรกบังเอิญ...สัมผัสเป็นคู่ๆ....ก็เลยยาว....ความมันไม่เดินไอ้พวกกลบทนี่เราไม่นิยมหรอก....ฮิๆๆ...ไม่ได้คุยกันเลยนะพ่อหนุ่ม....ซำบายดีเหรอ
29 ตุลาคม 2545 17:19 น. - comment id 92239
อะมึนตึบเยยยยยยยย
29 ตุลาคม 2545 19:33 น. - comment id 92284
นั่งเรียนกลบทเดก่า ขำด้วยคนจิ อิอิ
30 ตุลาคม 2545 23:01 น. - comment id 92666
การแต่งร้อยกรองถ้อยคำเป็น โคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน นอกจากเป็นประโยชน์แก่ตัวผู้แต่ง เอง โดยอาการอันกล่าวมาแล้วนั้น ยังนับว่า ผู้แต่ง ทำความพอใจให้แก่เพื่อนมนุษย์ได้อีก เป็นอันมาก ... ตามความเห็นของข้าพเจ้ามีอยู่ว่า ผู้แต่ง โคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน ควรจะคิดถึงผู้อ่าน มาก กว่าตัวเอง คือควรเพ่งเล็งให้ผู้อ่าน เข้าใจ และฟัง เพราะ มากกว่าที่จะอวดความเก่ง ของ ตนเอง เพราะฉะนั้นข้าพเจ้า ขออนุญาตแนะนำ แก่ผู้ตั้งใจจะเป็นจินตกวี ให้ละเว้นของบางอย่าง ดัง ต่อไปนี้คือ ๑) ควรละเว้นวิธีแต่งอุตริสบัดสบิ้ง ๒) ควรละเว้นวิธีแต่ง อุตริใช้คำ ที่ไม่ใช่ภาษาไทย ๓) ควรละเว้นการ ใช้คำซึ่งใช้กันอยู่ในวง แคบ ๆ ๔) ควรละเว้นเรื่องซึ่งไม่เป็นคติหรือ ซึ่งเรื่องหยาบและโลน เพราะของ เหล่านี้ทำให้เสื่อมเสียวิชาเปล่า ๆ มื่อได้แสดงมาซึ่งข้อควรเว้นแล้ว ก็ควร แสดง ข้อควรประพฤติต่อไป ๑) ก่อนที่จะจับแต่งอะไรต้องดูแบบ โคลง ฉันท์ กาพย์กลอน เสียก่อนดูแบบให้เจนตา เป็นดี ๒) ควนอ่านจินตกวีนิพนธ์ที่ท่านแต่งมาไว้แล้ว อ่านจนเข้าใจ และได้จังหวะแม่นยำ ๓) เลือกหาเรื่องที่เป็นแก่นสาร ๔) ใช้สมองตรองดูเรื่องนั้นเสียก่อน จนความคิด แตกแล้วคิดตั้งโครงขึ้นเป็นคำพูด โดยปกติ ก่อน แล้วจึงแปลงไปเป็น โคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน ตามอัธยาศัย หนังสือนี้ข้าพเจ้าได้ตั้งใจแต่งให้แก่โรงเรียน มหาดเล็กหลวง เพื่อบำรุงวิชากวีในโรงเรียนนั้น เพราะ ฉะนั้นข้าพเจ้าขอให้หนังสือนี้ไว้เป็นกรรมสิทธิ์ แก่ โรงเรียนมหาดเล็กหลวงสืบไป เพื่อให้นักเรียนทั้ง เก่าและใหม่จะได้มีสิ่งซึ่งเตือนใจ ให้รำลึกถึงข้าพเจ้า ผู้มุ่งดีต่อเขาทั้งหลายนั้น ชั่วกาลนานฯ พระปรมาภิไธย วชิราวุธ ปร. (ตัดตอนจากหนังสือ การประพันธ์ ท๐๔๑ โดย ศจ.ฐะปะนีย์ นาครทรรพ)