โศกนาฏกรรมที่ซ้ำซาก เกิดขึ้นจากชีวิตความคิดเขลา หวังจะช่วยครอบครัวหลงมัวเมา เลยหูเบาติดกับจนยับเยิน มีโครงการประกันให้ฝันชื่น ต่างหยิบยื่นบำบัดไม่ขัดเขิน ช่วยชาวนาตาดำทำจำเริญ แต่บังเอิญคาดเคลื่อนมีเงื่อนงำ เมื่อข้าวเปลือกเลือกหาราคาหด ทั้งยอมอดยอมทนจนถลำ รัฐบาลเห็นด้วยช่วยจำนำ โรงสีทำอุบายซื้อขายแพง เมื่อกฎหมายกำหนดเป็นกฎหมู่ เลยมีผู้ชี้นำทำกำแหง ให้สมมุติทุจริตเข้าพลิกแพลง แล้วสำแดงฉ้อฉลเกิดมลทิน ความคาดหวังที่เห็นเป็นกระดาษ ไม่สามารถเป็นเงินเกินจะดิ้น ในหัวอกชาวนาน้ำตาริน มีหนี้สินทั่วหน้าชะตากรรม มีบ้างไหมในสิทธิ์เสรีภาพ ไม่ต้องอาบความทุกข์รุกกลืนกล้ำ ช่วยเยียวยาตามหายุติธรรม มาชี้นำเป็นหลักพิทักษ์คืน. ..................................
26 พฤศจิกายน 2553 22:26 น. - comment id 1170097
แถวๆบ้านของ บนข.ตอนนี้กลายเป็นสวนยางหมดแล้ว....
26 พฤศจิกายน 2553 23:24 น. - comment id 1170260
ทุกข์ชาวนาคือชาวนาผู้หิวโหย และยังคงดำเนินต่อไป ...อีกนาน เขียนได้ดีมากเลยค่ะ
27 พฤศจิกายน 2553 10:44 น. - comment id 1170768
แซมชอบบทกลอนของคุณพงษ์... มากๆ ค่ะ... ขอบคุรที่แบ่งปันค่ะ แซม
29 พฤศจิกายน 2553 23:28 น. - comment id 1171013
อย่างน้อยคนที่ทำประกันกับรัฐบาลยังพอมีอะไรเหลือบ้าง ภัยพิบัติก็คือภัยพิบัติ ไม่ว่าใครก็คงช่วยอะรัยไม่ได้