๏ เป็นกวี.. ดีอย่างไรหัวใจคิด อภิสิทธิ์แค่ไหนอยากไถ่ถาม เด่นปราดเปรื่องเลื่องลือระบือนาม เกียรติ์ล้นหลามหรือไรนัยยะ"กวี" เมื่อชาวชนธรรมดาค่าต่ำต้อย เทียบเท่าถ่อยไร้ตรรกต่ำศักดิ์ศรี คิดประดับศัพท์แสงแต่งพาที โน่น ! สวรรค์ฉิมพลีมากมีคำ กวีเอย.. เผยพจน์ปรากฏวิญญ์ อาจเสื่อมสิ้นเกียรติยศเพราะบทพร่ำ กวีเอย.. แม้นเลิศประเสริฐกรรม ย่อมเลอล้ำศิลป์สนองเพื่อผองชน โอ้กวี.. ดีอย่างไรชวนให้คิด ถ้าถือสิทธิ์เที่ยวกร่างเบ่งบางหน เมื่อต่างรู้ร้อนหนาวคราวทุรน ล้วนชาวชนเเสมอกันแบ่งชั้นไย ๚ะ๛
23 สิงหาคม 2551 03:18 น. - comment id 864647
ยังดีที่ได้อ่านเขียนเรียนหนังสือ ได้ฝึกปรือฝึกฝนเรื่องภาษา ได้เรียนรู้เรื่องงานการวิชา มีครูมาสอนหนังสือที่โรงเรียน บางคนไม่ได้เขียนเรียนหนังสือ ยังพยายามฝึกฝนพากเพียร ยังไม่มีแม้แต่หนึ่งโรงเรียน ที่ให้เขียนเรียนรู้วิชาการ ถ้าเขาเกิดอยากเขียนตัวหนังสือ จากความคิดสร้างสรรค์จินตนาการ ได้เรียนรู้จริงจากประสบการณ์ คงไม่ผ่านการเป็นนักกวี
22 สิงหาคม 2551 23:14 น. - comment id 888959
ศิลปะในการ......โอหัง โจโฉได้กล่าวอย่างลับ ๆ ไว้ว่า.. "คนเราต้องมีความโอหังบังอาจ ถึงจะทำการใหญ่ได้ !" กล่าวไว้เมื่อไรไม่มีใครทราบ เพราะกล่าวลับ ๆ ความโอหังก็คือความถือดี เมื่อถือดี ก็คือมีดี เมื่อมีดีก็มีความมั่นใจ เมื่อมีความมั่นใจ จะทำอะไรก็ไม่ลังเลคิดลึกนึกนาน จะกล้าได้กล้าเสีย แต่โอหังยังไง ไม่ต้องกลับมากลืนเสลดตัวเอง อันนี้ต้องโอหังอย่างมีศิลป์ การจะโอหังอย่างมีศิลป์ได้ต้องมีปัจจัยดังนี้ 1.กำลังทรัพย์ดี 2.กำลังปัญญาดี 3.กำลังกายดี 4.กำลังใจดี เมื่อมีสี่กำลังนี้ ก็สามารถยะโสโอหังได้โดยไม่ผิดพลาด หาไม่แล้วอย่าริโอหัง แต่ต้องให้เข้าใจว่า ...โอหังกับปากดี คนละส่วนกัน ปากดี หรือพูดจาอวดดี กับความโอหังไม่มีความจำเป็นต้องเกี่ยวเนื่องกัน การโอหังอย่างมีศิลป์ ต้องโอหังอย่างเงียบ ๆ ปฏิเสธอย่างนอบน้อม พึ่งพาตนเองได้โดยไม่สร้างความน่ารังเกียจในสายตาผู้อื่น มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า
22 สิงหาคม 2551 23:32 น. - comment id 888962
โห รูปจ๊าบจริงๆ หาได้เหมาะเหม๋ง กลอนก็บาดใจโก๋จริงๆ
22 สิงหาคม 2551 23:45 น. - comment id 888965
บางกวี เฉพาะบางกวี
23 สิงหาคม 2551 00:10 น. - comment id 888971
สำนวนกลอนดีมากเลยครับ
23 สิงหาคม 2551 00:20 น. - comment id 888975
มาแอบอ่าน กวี(กำมะละกอ) เอ๊ยๆ กวี กำมะลอคะ .. แหะ..แหะ.. แหย่เล่นนะคะ
23 สิงหาคม 2551 00:55 น. - comment id 888978
คุณ อัลมิตรา ที่เคารพ คุณเป็นกวีที่หนึ่งในใจของเรา เราได้เฝ้าติดตามผลงานของคุณมานานพอควรแล้ว ทั้งที่เราม่ายมีความรู้เรื่องบทกลอน แต่พอได้อ่านบทกลอนของคุณแล้ว รู้สึกว่าช่างแสนไพเราะจับใจ
23 สิงหาคม 2551 05:37 น. - comment id 888980
ผู้ประเสริฐมิแบ่งชนชั้น มิเหยียดคน คือผู้เจริญ... กำลังจะออกเดินทางเน้อ..แล้วจะดูอัสนี วสันต์เผื่อนะ..
23 สิงหาคม 2551 07:51 น. - comment id 888990
ลานเทวา เป็นกวี ขี้เรื้อน
23 สิงหาคม 2551 09:10 น. - comment id 889012
แวะมาทักทายนะคร้าบ
23 สิงหาคม 2551 10:57 น. - comment id 889023
จริงเนาะ.. โอหัง กับ ปากดี ไปกันไม่ได้ สุขอย่าได้สร่าง
23 สิงหาคม 2551 11:15 น. - comment id 889028
ไยต้องแบ่งชั้น เห็นด้วยค่ะ ได้ข้อคิดดีๆเสมอค่ะคุณอัลมิตรา
23 สิงหาคม 2551 11:33 น. - comment id 889034
อหังการแห่งกวี...เบ่งบานได้ทุกที่..แม้บนดิน..ถิ่นป่าเถื่อน... อุ้ยป่อเอี้ยง..แห่งกระปี่ไร้เทียบทานกล่าวว่า...คมกระปี่รึจะเทียบคมปากคน...
23 สิงหาคม 2551 17:17 น. - comment id 889060
คำ..... สื่อนำความหมายได้รู้ ส่ง-รับ ภาษา ไพร่-วิญญู อ้อ...สิ่งเอ่ยอ้างพอรู้พอเข้าใจ กลอน..... บท บาท วรรค ตอนแถลงไข สื่อสารสัมผัสรัดหทัย ไพเราะเสนาะไนวิญญาณ กวี.... รื่นฤดีเพลิดพริ้งสนาน แฝงธรรมลงในกาพย์โคลงกานท์ สุนทรีย์ญาณทั้งผู้สื่อผู้ฟัง
23 สิงหาคม 2551 19:06 น. - comment id 889077
ความสามารถเฉพาะตัวแต่ละคน ทุกอาชีพชั้นชนปะปนเห็น ห้ามลอกแบบอาจเสียหายทำไม่เป็น คงใจเย็นเวรใครทำกรรมตามเร็ว
23 สิงหาคม 2551 22:54 น. - comment id 889085
โดน...โดน.... เดี๋ยวขอตัวไปถามคุณอภิสิทธิ์ก่อนนะ ฮ่า "อภิสิทธิ์แค่ไหนอยากไถ่ถาม" ไม่โดนไม้หน้าสามก็โดนคมแฝกล่ะยัยตั๊กเอ๋ย
23 สิงหาคม 2551 23:01 น. - comment id 889086
:+: สามก๊ก โจโฉ แตกทัพเรือ The Battle of red cliff :+: หลายวันก่อนได้ชม "โจโฉแตกทัพเรือ".. ซึ่งภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่ ที่สร้างจากวรรณกรรม "สามก๊ก" ทัพเรือนับหมื่น อาชานับแสน ไพร่พลนับล้าน มหาสงคราม นัยว่าจีนและฮ่องกงต้องการให้เป็นประวัติศาสตร์เลยทีเดียว และเพื่อต้อนรับมหกรรมกีฬาโอลิมปิค 2008 ที่จีนเป็นเจ้าภาพ คิดว่าหลายต่อหลายคนคงเคยได้อ่านหนังสือสามก๊กมากันบ้าง ว่าแต่ว่าอ่านกันกี่รอบ เขาว่ากันว่า อ่านสามก๊กเกินสามรอบ..คบไม่ได้ เหตุที่คบไม่ได้ก็เนื่องจาก เกรงจะรอบรู้เหลี่ยมจัดจนเกินไป (ซะกระมัง) "โจโฉแตกทัพเรือ".. ชื่อเรื่องก็บอกอยู่แล้วว่ากล่าวถึงโจโฉเป็นหลัก "ข้ายอมทรยศคนทั้งโลก แต่ไม่ยอมให้ใครทรยศข้า" เอาเป็นว่าเรื่องราวของสามก๊กเป็นอย่างไร คงต้องให้ไปติดตามกันเอง เพราะเรื่องยาวมากและลึกลับซับซ้อน เกินความสามารถที่จะอธิบาย แต่ถ้าถามถึงมุมมอง เมื่อได้อ่านสามก๊กจบไปแล้ว โจโฉในมโนภาพเป็นดังนี้ โจโฉเป็นคนที่ชอบคนเก่ง,มีความสามารถ แต่โจโฉก็มีความหวาดระแวงยิ่ง เรื่องราวของโจโฉเริ่มต้นด้วยจากการที่เขาถูกหักหลังจนต้องเกือบตาย นั่นคือแผล หลายคนที่เข้าไปสวามิภักดิ์โจโฉโดยการหักหลังนายเก่า ท้ายสุด โดนประหารสิ้น สิ่งที่ยืนยันว่า โจโฉนิยมแต่ผู้ที่เก่งกล้าสามารถนั่นคือ ประกาศสองฉบับ ฉบับแรก.. "คำสั่งแสวงหานักปราชญ์" ฉับบสอง.. บัณฑิตที่มีความประพฤติดีใช่ว่าจักใช้ได้ ผู้ที่ใช้ได้ไม่แน่ว่าจะประพฤติดี สรุปง่าย ๆ ก็คือว่า โจโฉเอาคนเก่งอย่างเดียว ส่วนคุณธรรมจะมีหรือไม่มีก็ได้ ตัวของโจโฉเองก็มีความสามารถยิ่งในการปกครอง มีไหวพริบดีเลิศ ชำนาญพิชัยสงคราม เชี่ยวชาญเชิงกวี นับได้ว่า..ไม่ว่าจะเป็นบู๊ บุ๋น โจโฉเพรียบพร้อมความสามารถทุกประการ ขณะเดียวกัน โจโฉก็เปี่ยมไปด้วยเล่ห์ หนำซ้ำยังเหี้ยมโหดอำมหิต ใฝ่สูงทะเยอทะยานด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น โจโฉมักคิดว่าตนเองเป็นผู้มีคุณธรรม กระทำในสิ่งที่สมควรถูกต้องแล้ว โดยพยายามให้ผู้อื่นเข้าใจเช่นนั้น ประมาณว่าหลอกผู้อื่นได้ แต่แล้วหลอกตนเองไม่เป็นผล ท้ายสุดโจโฉแทนที่จะมีจุดจบในบั้นปลายเยี่ยงนักรบ กลับตายด้วยอาการของโรคประสาท อ่านสามก๊ก แล้วอดไม่ได้ที่จะคิดถึง thaipoem.com สำหรับที่นี่ .. ในแวดวงของผู้ที่นิยมการเขียน,การอ่าน คงไม่ถึงกับต้องมีการแบ่งเป็นก๊กเป็นเหล่าให้วุ่นวาย ดังนั้นคิดว่า ไม่น่าจะมีผู้ที่สวมบทโจโฉ ซึ่งมีบุคคลิกอุปนิสัยดังกล่าว จะคิดแบ่งแยกกันไปทำไมกัน กลุ่มนั้น ก้อนนี้ ทั้งที่ล้วนชาวชนเดียวกันแท้ ๆ ทำไปทำมา ทำให้นึกถึงโศลกต้มถั่ว .. ที่บุตรคนหนึ่งของโจโฉร่ายไว้ เพื่อมิให้ตนเองต้องโทษประหารจากพระเชษฐา ผู้เกิดจากหน่อเนื้อเดียวกัน They were boiling beans on a bean stalk fire, Came a plaintive voice from the pot "Oh! Why, since we sprang from the self same root ?" "Should you kill me with anger hot ?" ข้าพเจ้าขอถอดความเป็นโคลงบทหนึ่งว่า .. ๏ เถาถั่วต้มถั่วตั้ง................ปานไฟ ดาลเดือดธารเดือดไอ..........แผดห้าม ถามความเคียดความไย.......ตรึงเครียด ตามฆ่าจนข้าฯคร้าม.............จักสิ้นพงศ์สูญ ฯ มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า .
24 สิงหาคม 2551 01:10 น. - comment id 889099
24 สิงหาคม 2551 13:06 น. - comment id 889142
คุณยาแก้ปวด .. รูปนี้หาจากการ search คำว่า โอหังค่ะ ซึ่งก็ค้นหาได้ไม่ยากเย็นอะไร ชายในภาพที่อยู่ในดงเพลิงระอุ ก็เหมือนบอกนัยยะว่า .. สิ่งที่กระทำนั้นไม่น่าจะเป็นสิ่งที่ดี ค่ะ คุณกวีปกรณ์ .. :) บางกวี นี่หมายถึง บางคน(กวี) ใช่ไหม ก็น่าจะเป็นเช่นนั้นนะคะ เพราะแต่ละหมู่เหล่าก็มีคละเคล้ากันไป มีดีบ้าง พอใช้บ้าง ไม่พอใช้บ้าง กระทั่งเลวบ้าง เป็นไปได้ทั้งนั้นค่ะ คุณอรุโณทัย .. อืมม กลอนชุดนี้ต้องระวัง เพราะอาจถูกแปลให้ผิดเจตนา อันที่จริงเขียนไปนานแล้ว เพียงแต่หาจังหวะในการลงกลอนชุดนี้ไม่ได้ค่ะ คุณฉางน้อย .. อื้อ เที่ยงนี้ ส้มตำมะละกอ ไก่ย่าง ซะด้วยสิ คุณเกม .. ที่เคารพเชียวเหรอ โห... เอาเป็นว่าต้องขอบคุณคุณค่ะที่ให้กำลังใจมา งานเขียนมีหลายระดับค่ะ ซึ่งงานเขียนของอัลมิตรายังห่างไกลกับคำว่า ระดับดี ทว่า อัลมิตราก็พอใจที่จะได้เขียนค่ะ มีความสุขทุกครั้งที่ลงมือ :) คุณกุหลาบ .. อัลมิตรากำลังทำความเข้าใจกับสิ่งที่คุณเขียนมา ประมาณว่า การที่บางคนไม่ได้ผ่านการเรียนตรงมาทางด้านงานเขียนเลย แต่ก็อาศัยพื้นที่ที่จะเรียนรู้ จากนั้นก็พยายามฝึกฝนจนกระทั่งใช้ได้ในระดับหนึ่ง มีจินตนาการเพิ่มมากขึ้น และสามารถรังสรรค์งานได้เอง และจากประสบการณ์นั้นก็ส่งผลให้สิ่งที่ตั้งใจสำเร็จลุล่วง หรือเปล่า หว่า .. ??? *** อัลมิตราอ่านไม่ค่อยแตกฉานค่ะ อาจคิดผิดไปได้ คุณมณีจันทร์ .. เป็นอย่างไรบ้าง อัสนี วสันต์ .. เสียดายเนอะ คุณพูดถูกนะ ผู้ประเสริฐมิแบ่งชนชั้น มิเหยียดคนคือผู้เจริญ อัลมิตราเคยพบปะนักเขียน(กวี) ตัวจริงหลายท่าน ซึ่งก็สมถะ ทุกถ้อยที่คุย ทุกครั้งที่ได้ใกล้ชิด ดูอบอุ่นและอัธยาศัยดี เป็นมิตร ยังไม่เคยเห็นนักเขียน(กวี) ท่านไหน ที่ ฮึ่ม แฮ่ .. แยกเขี้ยวใส่เลยค่ะ คุณลานเทวา .. แบบนี้ ต้องทาซีม่า นะ ถ้าไม่หายต้องพบแพทย์เฉพาะทาง ฮา.. คุณจอมอสูร .. อื้ออออออ คิดถึงอะดิ .. รู้หรอกน่า คุณคอนพูทน .. จริงที่สุดเลยค่ะ โอหังกับปากดี .. คล้ายกัน แต่หนังคนละม้วนค่ะ คุณแจ้น .. นั่นสิ ทำไมต้องแบ่งชั้นด้วย โน่นกวีเทพ นี่กวีขี้เรื้อน นั้นกวีขี้ครอก โน้นกวีถึก ถ้าจะให้คิดเชิงธรรมชาติทั่วไป .. ทั้งหมด ก็ กิน ขี้ อี้ นอน .. เหมือนกันล่ะว๊า .. ฮา คุณเอื้องอังกูร .. คมกระบี่รึเทียบคมปากคน .. คุณเอื้องอังกูรเคยใช้ไม้ไผ่มั๊ย เอาไม้ไผ่ประกับกระบี่ ก็ไม่แน่เสมอไปว่า กระบี่จะฟันฉับจนไม้ไผ่หักท่อนได้ ดีไม่ดี .. อาจตรงข้าม เชียวนา .. เนี่ย ทำให้นึกถึงหนังสือกำลังภายในจัง คุณวชรกานท์ .. ความคิดเมื่อก่อนของอัลมิตรา กวีเป็นผู้สูงส่งจริง ๆ อย่างกะเทวดา แต่แล้วเวลาผ่านมาเรื่อย ๆ ก็มาพบเห็นว่า มันไม่ใช่อย่างนั้นเสมอไป ไม่ใช่ทุกคน (ทุกกวี) ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้ว น่าจะเรียกเสียใหม่ว่า ผู้โอหัง จะยังเหมาะเสียกว่า ค่ะ เพื่อที่ว่า คุณลักษณะของกวีและเกียรติภูมิของกวี จะได้ไม่เสียหายเพราะบางกวี ค่ะ คุณชัยชนะ .. ความสามารถเฉพาะตัว ไม่สามารถเลียนแบบกันได้หรอกค่ะ ถึงแม้ว่า พยายามก็แล้ว มันก็ยังมีข้อแตกต่างอยู่บ้าง เพราะมันเป็นเรื่องธรรมดาของความแตกต่าง ในส่วนรายละเอียด ถ้ายกตัวอย่างคร่าว ๆ คงคล้ายกับลายพิมพ์นิ้วมือกระมังคะ คุณคิดไง ? คุณมัสลิน .. อ้าว ไปถามเขา .. เขาก็ต้องวกมาถามอัลมิตราดิ ดีไม่ดี เขาคิดค่าอ้างชื่อด้วยน๊า .. แต่เหอะน่า คุณอภิสิทธิ์ก็ยังไม่ได้อภิสิทธิ์ในทุกเรื่องเลย :) คุณรัมณีย์ .. :) สามเกลอหัวแข็ง ย่อง ๆ มา ตกใจหมดเลย
24 สิงหาคม 2551 20:59 น. - comment id 889257
คุณ อัลมิตราคับ อย่างที่เราทราบกันดี มนุษย์ทุกๆคนย่อมต้องพบกับการเศร้าโศกเสียใจ มีหัวเราะมีร้องให้ ตัวเกม เองก้อเช่นกันบ่อยครั้งที่ต้องพบกับอุปสรรคปัญหามากมาย จนไม่สามารถที่จะนั่งทำงานของตัวเองได้ จนวันนึงได้เข้ามาพบกับงานเขียนบทกลอนหลายๆบท ที่สุดแสนจะวิเศษ พอลองได้อ่านแล้วอารมณ์นั้นกลับเย็น นิ่ง และหยุดสับสน จนสามารถที่จะนั่งทำงานต่อได้ แล้วแบบนี้จะไม่เรียกว่า คุณ อัลมิตรา ที่เคารพได้อย่างไร สุดท้ายคงต้องขออนุญาต ขอเป็นกำลังใจให้กับงานเขียนของคุณไปจนกว่า ชั่วฟ้าดินสลาย นะ คุณกวีที่หนึ่งในใจของ เกม คิกๆ
24 สิงหาคม 2551 21:49 น. - comment id 889274
คุณเกม ..ลองได้อ่านแล้วอารมณ์นั้นกลับเย็น นิ่ง และหยุดสับสน เชื่อไหมว่า อัลมิตราอ่านทวนตั้งหลายรอบ แบบไม่ค่อยเข้าใจ ยิ่งจบท้ายด้วยคำว่า คิก คิก ... ว่าจะถามโรบิ้นแล้วล่ะ
24 สิงหาคม 2551 22:31 น. - comment id 889302
กวีอ่อนหัดมาอ่านค่ะ
24 สิงหาคม 2551 23:55 น. - comment id 889321
มีคนเคยถามผมนะ....ว่าเก่งด้านไหน??? ...ทุกวันนี้ก็ยังตอบไม่ได้เลยนะ....เพราะ ความเก่งมันหายไปหมด..เหลือแต่ที่ไม่เก่งนะ...เลยต้องหาผู้รู้สอน...และเมื่อรู้ในสิ่งที่รู้แล้ว..ก็ไม่เคยเหยียบ..??. ผู้ไม่รู้นะ..และก็ไม่เคยอ้างตัวเป็น..กูรู..(กูรู้)..หรอก... ...เพราะอะไรรู้ไหม...เราไม่ได้ต้องไปเอา ISO(ไอโซ่)..2000...3000..4000.. ...แต่ขอเป็น...ISO..(ไอโง่)...2008...อยู่ในกะลาดีกว่า..ว่ามะลิง...ไปหละ..นอน...
25 สิงหาคม 2551 07:20 น. - comment id 889356
คุณช่ออักษราลี .. ขอบคุณค่ะที่แวะมา คุณบินเดี่ยวหมื่นลี้ .. ไม่เคยมีใครถามอัลมิตราว่า เก่งด้านไหน แต่ก็มีนะที่ทิ้งคำถามว่า ถนัดอะไร ชอบอะไร .. ทำนองนี้มากกว่า ในความถนัดและความชอบ มันอาจไม่เกี่ยวข้องกับความเก่ง คนชอบอ่านกลอน ชอบอ่านหนังสือ ก็ใช่ว่าจะเขียนกลอนเขียนหนังสือได้เก่ง อัลมิตราบอกใครต่อใคร (ถ้ามีโอกาส) เสมอว่า .. ทุกสิ่งที่เขียน อัลมิตราหวังผลแค่ตัวอัลมิตราเอง คือ อัลมิตรามีความสุขก็พอ ส่วนผลนั้นจะขยายไปยังผู้อ่านหรือไม่ ส่วนนั้นถือว่ากำไร เพราะอย่างไรก็ไม่ขาดทุน เออ เกือบลืม .. ไม่มีใครถามว่าอิมเก่งด้านไหน .. แต่ก็มีคนสรุปให้ว่า ..เถียงเก่งชะมัด.. ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเป็นข้อดีหรือข้อเสีย ฮา.. เก่งแบบนี้ คงสร้างความระอาให้บางคน
25 สิงหาคม 2551 09:49 น. - comment id 889399
เก็บมาจากกล่องกลอน-กวี ซีม่า โลกแห่งรัก อักษรา ภาษาสวรรค์ ยังมีแบ่ง ชนชั้น กระนั้นหรือ ? ร้อยลำนำ คำของไพร่ ไร้ฝีมือ ภาษาสื่อ สถุลทราม ต่ำวาจา ลิขิตคำ ของไพร่ ไม่เปรื่องปราด กลอนตลาด แพร่หลาย จึงไร้ค่า คำแบ่งคน ชนแบ่งชั้น กั้นชีวา แยกแผ่นดิน ห่างแผ่นฟ้า สุราลัย ขณะโลก จำเริญไกล ไปลิบลับ ยังติดกับ ระบบเก่า เจ้าและไพร่ ยังปิดตน ปิดตัว ปิดหัวใจ ขลุกอยู่ใน รั้วแคบแคบ แบบกังวล หยันเหยียดหยาม ประณามค่า แห่งมานุษย์ ศักดิ์ต่ำสุด เยี่ยงไพร่ ไร้เหตุผล ผู้ดี-ไพร่ อะไรต่าง ระหว่างคน สีเลือดข้น ที่แฝง แดงเหมือนกัน ยุคสมัย ไร้พรมแดน โลกแสนกว้าง อารมณ์ค้าง คลั่งอัตตา ดูน่าขัน กระแสโลก เปลี่ยนไป ไวทุกวัน เลิกแบ่งชั้น กันอยู่ นะผู้ดี ได้สถิต เทวาลัย มไหศวรรย์ เสพสุขสันต์ นั่นเพราะไพร่ ให้ภาษี เย้ยไยไพ ไพร่ฟ้า ประชาชี ย่อมไม่ใช่ เมธี ที่แท้จริง (ลำนำไพร่) 25 พ.ย. 45 17.51 น.
25 สิงหาคม 2551 12:33 น. - comment id 889453
คุณกวี ซีม่า .. ลำนำไพร่เยี่ยมยอดจังค่ะ เมธีที่แท้จริงย่อมไม่เหยียดหยัน ค่ะ
25 สิงหาคม 2551 12:35 น. - comment id 889454
นึกว่ากวีชีกอ...ซะอีก... ก็เหล่ๆ อยู่ว่าจะมีมาทักทายในบ้านนี้สักคนไหม อิอิ
25 สิงหาคม 2551 12:46 น. - comment id 889459
คุณกุ้งหนามแดง .. กวีชีกอเหรอ เพียบบบบบ !! ๕๕๕. ถ้าจับได้จะรวบแขนรวบขามัดเชือกโยงกับไม้คานไปส่งให้น๊า
27 สิงหาคม 2551 19:12 น. - comment id 890274
27 สิงหาคม 2551 21:33 น. - comment id 890320
คุณบุษย์น้ำทอง .. :) ขอบคุณค่ะ