เขาว่าดาว เมืองกรุง จรุงแสง เพราะแต้มแต่ง รัศมี ให้สีสัน แสงนีออน กระทบ บรรจบกัน จึงงามมั่น เด่นดวง ดึงทรวงชาย ดาวเมืองกรุง ดาวบ้านนา ค่าคงต่าง รัศมีจาง ไร้ไฟเติม เพิ่มแสงฉาย พี่อยู่กรุง ดูดาวกรุง ยุ่งเพียงกาย ขออย่างหมาย เฝ้าปอง ครองหัวใจ ดาวบ้านนอก พี่เคยดู ยังคู่ฟ้า ดาวบ้านนา ยังคู่ถิ่น ดินสวนไร่ แสงเหลืองนวล ยามรุ่งสาง ช่างอำไพ คอย"คนไกล" มาจ้อง มองคู่กัน
24 ธันวาคม 2550 17:26 น. - comment id 803895
คืนนี้ฟ้า มืดมน ต้องทนหนาว แหงนมองดาว ไร้แสง แต่งแต้มฝัน น้องคิดถึง วินาที ที่พบกัน จิตแสนหวั่น กลัวคนไกล ไร้ไมตรี กลัวคนไกล หมางเมิน เดินหลีกหลบ กลัวต้องจบ ความสัมพันธ์ หันหร้าหนี น้องแค่หญิง ธรรมดา ใช่ว่าดี แค่ใจมี ความคงมั่น ไม่ผันแปร
24 ธันวาคม 2550 17:33 น. - comment id 803898
หากความคิดถึงเหลวดั่งนำ คนทั้งโลกคงจมนำตายแน่
24 ธันวาคม 2550 19:18 น. - comment id 803933
...นั่งนั่ง ณ ริมหาด... ...มนวาด ในผืนฟ้า... ...ดาวเด่น กระจ่างตา... ...ฤจะหา ใดเทียมทัน... ...สายน้ำ สะซัดสาด... ...ปะทะหาด ใช่ความฝัน... ...เสียงคลื่น กระทบกัน... ...ดุจจะบรร เลงดนตรี... ...แสงดาว ระยับฟ้า... ...ระเริงร่า และสดสี... ...กลางหมู่ มวลเมฆี... ...รัตตินี้ ระบำดาว... **************************
24 ธันวาคม 2550 20:53 น. - comment id 803980
ดาวเมืองกรุงอาจสวยรวยแสงสี แต่ดาวดีดาวบ้านนาพาสดใส สีไม่หม่นจนหมองมองครั้งใด สุขสดใสแถมสว่างกระจ่างใจ มานั่งมองดาว มานั่งมองจันทร์กันดีกว่าค่ะ
25 ธันวาคม 2550 13:47 น. - comment id 804140
ดาวเมืองกรุงไม่หมายมุ่งมองไม่เห็น ฟ้าไม่เป็นใจให้อย่าถามหา แม้มีแสงส่องบ้างบางเวลา บนท้องฟ้ามัวหม่นอย่าค้นเลย ดาวบ้านไพรไยเจ้าส่องแสงสุก เหมือนต่างยุคต่างห้วงดวงเฉลย แสงน้อยนิดติดตาน่าชมเชย สว่างเกยท้องนาน่าภิรมย์ ดาวแม้จะดวงเดียวกันแต่มีความต่างอย่างชัดเจนฉะนั้นมันไม่ไม่ยากที่จะเปรียบเทียบ แค่ต่างที่ก็ต่างมุม