นองเลือด (รูปแบบการเขียน ได้แรงบันดาลใจจากบทกวี ลิเกยังไม่เลิก ของ อาจารย์สุธี พุ่มกุมาร ในหนังสือ ระบำใบหญ้า ครับผม) กลอนลิเก ได้ยินการขานกล่าวเป็นเรื่องราวข้องเกี่ยว ดูร้ายกาจฉกาจเกรี้ยวขนลุกเกรียวกรูกรู ผองพวกโหรพวกห้อยทำให้พลอยฮือฮา ฉวัดฉิวชิวหาแจ้วเจรจาเข้าหู ว่าแผ่นดินต้องกินเลือดโลหิตเดือดรินไหล จะลือลั่นความบรรลัยขออย่าได้ลบหลู่ อ้างเอะอะปะปนพูดเสียจนป่นปี้ พล่ามตั้งแต่ต้นปีกางคัมภีร์ขึ้นมาปู ดาวนั่นโยน โน่นย้าย พาผีร้ายมาย่ำ ให้เย็นเยียบเฉียบย้ำความระยำจะมาอยู่ พอเลยผ่านวารผันพอคืนวันล่วงพ้น ประจักษ์, ดู รู้ผลทั่วทุกคนทุกผู้ ว่าถ้อยคำสำรอกล้วนเล่ห์หลอกพวกเรา ให้กลัดกลุ้มรุมเร้าและร้อนเร่าเมื่อได้รู้ ช่างคิดค้นกลสำคัญเที่ยวผกผันเผ่นคว้าง กลิ้งขลุกขลุกเป็นลูกข่างเอ่ยข้างข้างคูคู ว่ารู้เจนเห็นแจ้งตามตำแหน่งที่จ้อง อันตรายหมายจองมันมุ่งปองโจมจู่ นี่ก็ออกมาพร่ำพูดซ้ำซ้ำพล่อยพล่อย ว่าเลือดไทยจะไหลพร้อยคนทยอยตายพรู หนอย! ช่างขุดช่างคุ้ยแคล่วคล่องคุยขานไข บอกแต่เรื่องเคืองไข้คล้ายจงใจข่มขู่ เถอะ เลือดถ้าหลั่งพลั่งหลาก ก็เลือดจากปากหมอดู (๒ มิถุนายน ๒๕๕๐)
2 มิถุนายน 2550 14:21 น. - comment id 704537
สวัสดีค่ะคุณตราชู แวะมาอ่าน คิดว่านองเลือดซะจน ตัดแขน ขา ซะอีก
2 มิถุนายน 2550 15:32 น. - comment id 704590
ไม่รู้ว่าหมอดู ได้ดูดวงตัวเองหรือยัง ว่าถึงฆาตรึป่าว อิอิ เบื่อพวกคาดการณ์ไปในทางร้ายๆค่ะ
2 มิถุนายน 2550 17:36 น. - comment id 704651
2 มิถุนายน 2550 20:18 น. - comment id 704691
อืมมมม.....อ่านแล้วเลือดออกเลย
2 มิถุนายน 2550 23:44 น. - comment id 704759
เฮ้อ ไม่รู้เป็นไง เคยต่อกลอนกับคนอื่นบ้างเล็กน้อย ก็พอไปรอด แต่มาต่อกลอนกับใครไม่รู้ เล่นเอาจนแต้ม แหะๆ แต่สนุกจังเลย
6 มิถุนายน 2550 08:40 น. - comment id 706058
สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน ผมเขียนงานชิ้นนี้ขึ้น ก็เพราะรำคาญพวกหมอดูเต็มทนแล้วครับ ออกมาทายแต่เรื่องร้ายๆ แล้วเป็นอย่างไร แม่นเสียที่ไหน วันๆใช้ปาก หรือไม่ก็ปากกา ขู่คนให้ตระหนกเล่น สนุกนักหรือ? ผมมิได้ลบหลู่วิชาโหราศาสตร์แต่ประการใดทั้งสิ้น ทว่า ได้ยินบ่อยๆแบบพล่อยพล่าม ก็ชักจะเดือดเหมือนกันครับผม