26 พฤศจิกายน 2554 21:20 น.
กฤต บรรณาศรม
เอกองค์กษัตรา
จรฟ้าธราดล
หมายมุ่งประดุงชน
นิรทุกข์นิรันดร
จอมราชพระปรีชา
กรุณาประชากร
เบื้องบาท ธ สัญจร
ยุรยาตรชโลมจินต์
ภูสูง บ สะทก
พนรก บ ติฉิน
นาแล้ง บ แสร้งชิน
มนมุ่งผดุงไทย
สองกัณณ์สดับทุกข์
ทุรยุคสิแก้ไข
สองเนตรสว่างไกล
ก็ไสวสว่างเห็น
สองกรประคองราษฎร์
นรชาติลุลำเค็ญ
ผ่าวร้อน ธ ผ่อนเย็น
วรราชพระราชา
เจ็ดรอบพระภูมินทร์
อมรินทร์พระผ่านฟ้า
ยศยิ่งพระเทวา
จุติพ้นพิมานแดน
ชนไทยฤดีซาบ
มนกราบพระเมืองแมน
ปวงชน ณ เขตแคว้น
ศิรกรานและรำพัน
เอกองค์พระทรงศรี
สดุดีพระราชันย์
มิ่งขวัญพระชีวัน
และสถิต ณ ใจชน
26 พฤศจิกายน 2554 21:16 น.
กฤต บรรณาศรม
ชาติชนคนทั่วถิ่น
อยู่และกินในดินเดียว
คมจักรหรือคมเคียว
ยังเกาะเกี่ยวด้วยแรงงาน
ระหว่างว่างทางไพร
ป่าเมืองใหญ่บนดินดาน
ล้วนหมายในต้องการ
บนพื้นฐานของชีวิน
ระหว่างแยกแตกต่าง
กำหนดทาง คำตัดสิน
แบ่งว่างระหว่างดิน
ระหว่างลิ้นประดิษฐ์คำ
กวนห้วยให้ปลาตื่น
แล้วหยิบยื่นความชอกช้ำ
กรีดเนื้อรัวระบำ
แล้วเคี้ยวล้ำคำโอชา
เหลือง-แดงแบ่งข้างคิด
เอาถูกผิดโดยสีผ้า
กรุยทางในมายา
ระหว่างฟ้าและดินไทย
ธารเลือดเซาะฟากฝั่ง
เสียงปืนปังดังหวาดไหว
ศพซากพะเนินไว้
เป็นเขาใหญ่ระหว่างกัน
น้ำตาจากฟากฟ้า
ชโลมหล้ารวมเหวกั้น
ภูใหญ่ระหว่างขั้น
บรรจบพลันเป็นผืนเดียว
ระหว่างแยกแตกต่าง
ระหว่างทางอันคดเคี้ยว
ระหว่างร่องรอยเทียว
ผสานเกลียวให้คงไทย
26 พฤศจิกายน 2554 21:10 น.
กฤต บรรณาศรม
ฟากฟ้าและผืนดิน
พนถิ่นและทุ่งธาร
โอบเอื้อพยาบาล
ดุจแม่พระปราณี
ในน้ำจะเห็นปลา
ระดะมา ณ วารี
ในนาสิเห็นมี
ทิวรองตระกองเคียง
สัตว์น้อยประชุมชื่น
พนรื่นปะเลงเรียง
เวหา ก็ โน้มเอียง
สกุณาระริกบิน
คนอยู่เสมอนั้น
ก็ลุหันแสวงถิ่น
ค่อยคืบขยายกิน
อุระหาญกระหยิ่มใจ
จึ่งหมายจะครองหล้า
ชนะฟ้าและพงไพร
ชูชาติมนุษย์ให้
วรเลิศประเสริฐควร
แล้วโลกก็ทรุดโทรม
ภยโถมฤทัยหวน
โศกศัลย์และรัญจวน
อุระร้าวสิใดปาน
โทษใดก็ใครเล่า
บมิเฝ้าและแผ้วพาล
เรียนผูกก็เรียนการ
ชนะพ้นและบำรุง
อย่าหมายประกาศแจ้ง
และแถลงวิธีฟุ้ง
จงเร่งหทัยมุ่ง
มุพิทักษ์มิเว้นวาย
25 พฤศจิกายน 2554 15:21 น.
กฤต บรรณาศรม
ระหว่างเช้าเข้าชิดสนิทฟ้า
นาฬิกาเจ้าโต้งโก้งคอขัน
ระหว่างตื่นชื่นรับหลับรำพัน
ดวงชีวันศัลย์ล้าจะท้าจร
ไฟไหม้น้ำเคี่ยวน้ำขึ้นจุดไฟ
กระหายอุ่นกรุ่นไอให้ลวงหลอน
เพ่งปุยนกตกช้าคราลับคอน
อังไฟฟอนร้อนไล้ไล่ลมปราณ
เหมือนแสงสางรางมาทุกขณะ
เคลื่อนระยะหยอกเย้าเช้าแสนหวาน
อุษาโยคโลกฟ้าและบาดาล
กำหนดกาลผลาญล่วงปวงวิญญาณ์
ระหว่างเช้าเร้ารัวอยู่ทั่วทิศ
ทุกชีวิตลิขิตเส้นปริศนา
ระหว่างจริงสิ่งลวงปวงมายา
ระหว่างตาดวงใจและหว่างกัน
เช้าเหมือนมีที่เห็นอยู่เช่นเช้า
ระหว่างดาวพราวพร่าก่อนลาฝัน
ระหว่างสูรย์บูรณ์เข้มกำหนดวัน
ระหว่างนั้นฉันจะนั่งระหว่างใจ...เธอ...
9 พฤศจิกายน 2554 14:31 น.
กฤต บรรณาศรม
ในโลกเหงาเก่าแก่ความรู้สึก
ปลุกสำนึกอาวรณ์ถวิลหา
ความรักเก่ายอดหญิงกัลยา
อนิจจารักร้างมาช้านาน
ภาพจางเก่าหมึกซีดแก่แด่ความรัก
คราบน้ำตาสลักลวดลายผสาน
รสความหวานซ่านความโศกทรมาน
เสียงเสนาะพริ้มหวานปานขาดใจ
เหมือน ชะนะ แล้วนะแม่จ้า
พอลมหวนหนาวมาพาหวาดไหว
เหมือนเข้มกล้าท้าทนหนทางไกล
เพียงไม้ใบปลิดร่วงทรวงระทม
ละม้ายรักวาบไหวในม่านมัว
เงาสลัวกลัวหวาดความขลาดขม
อยากเอื้อมไขว้ใจคว้าเอามาชม
ก็ไม่สมรูปบูรณ์ภิรมยา
ฝากลมหนาวผ่านใจนี้ส่งข่าว
พื้นเรื่องราวเราสองปรารถนา
ฝากแสงสรวงลวงเล่ห์กาลเวลา
ผ่านนิทราว่ารักไม่รู้เลือน...