19 สิงหาคม 2551 02:45 น.
กฤตศิลป์ ชินบุตร
โค้งฟ้าระวีส่อง...........ขณะต้องกระแสน้ำ
วิบวับพยับงาม.........รุจิรุ่งอโณทัย
ชีวิตสิดำเนิน.............จรเดินณแดนไกล
ข้ามภพอสงไขย.........บ่มิวางคะนึงหา
กรุ่นหมอกสะพานข้าม...ระเกะน้ำสุวรรณทา
เหยียดยาวมนุษย์พา....มนะมุ่งจะข้ามไป
เก่าโทรมสะพานพัง.......พละรั้งพยุงไม้
โคลงเคลงระเบงใจ........ทิวะใหม่ณดวงตา
ต่อแนวมิหวาดหวั่น.......ดนุมั่นจะป่ายฟ้า
ยินเสียงอหังการ์..........จิตะกล้ามโนธรรม
เหลียวมองสะพานเก่า....ผิจะเศร้าฤควรทำ
รอยทางก็แน่วนำ.............บ่มิขลาดณโมงยาม
อีกฟากสะพานฝัน............ดนุมั่นจะข้ามน้ำ
เก็บฝันประเสริฐงาม.........รสะรื่นระรวยใจ
18 สิงหาคม 2551 20:20 น.
กฤตศิลป์ ชินบุตร
๑
เมื่อโลกเรากลับกลายเป็นโลกร้าย
มากทำลายมวลมนุษย์ให้สูญสิ้น
เสียงสะอื้นภัยพิบัติก้องธานิน
น้ำตารินดินยิ้มอย่างยินดี
โลกร้ายนักจักต้องฟ้องสวรรค์
ให้ลงทัณฑ์สาสมความบัดสี
ช่างปั่นป่วนรวนรานการคดี
คร่าชีวีย่ำยีมนุษย์ชน
ทั้งฝนแล้งแห้งผากฉากเกษตร
มากอาเพศน้ำป่าห่าเม็ดฝน
ด้วยวายุดุร้ายกลายลมบน
เป็นงวงกลฟาดกระหน่ำมิปราณี
ใต้พิภพสงบมาช้านาน
ป่วนบาดาลคุ้มคั่งทั้งเมืองผี
กระเทือนถึงผิวพื้นธรณี
โหมเกลียวคลื่นวารีมหึมา
๒
อาจโทษโลกโหดร้ายได้เสมอ
แต่อย่าเพ้อว่าตนนั้นสูงค่า
ชั่วชีวิตแต่ละคนในเวลา
ประทับตราราคินแผ่นดินใด
พลังงานผลาญเพิ่มเติมภัยพิษ
เป็นเนื่องนิจหาคิดพิศสงสัย
บริโภคสนองตัวสราญใจ
ยิ้มละไมในเทคโนโลยี
ทรัพยากรนำมาทำประโยชน์
ไม่หวั่นโทษจากการกระทำนี้
ทำลายสมดุลพนาลี
จึงมากมีวิบัติอุบัติภัย
เหมือนโลกป่วยอายร้อนซ่อนแอบแฝง
เพื่อสำแดงพิษสงอีกสมัย
ยิ่งโลกร้อนโลกร้ายทำอย่างไร
ความปลอดภัยคลับคล้ายเพียงนิยาย
๓
ยังไม่สายหากเราเฝ้าทำนุ
คอยชุนปุรักษาวันโลกหาย
สองมือน้อยรักษ์โลกพรรณราย
จึงสบายคลายทุกข์ทุกทุกวัน
ด้วยพันธกิจ 10 ประการ
จึงผลงานเราผองร่วมรังสรรค์
เมืองหลวงถึงป่าพนาวัน
ต่างร่วมกันสรรค์โลกให้งดงาม
๔
หนึ่ง ขับรถโปรดเร่งเป็นจังหวะ
อย่าคิดกระชากแรงแซงผลีผลาม
เก้าสิบกิโลเมตรต่อโมงยาม
ปฏิบัติตามย่อมดีไม่มีเปลือง
สอง ลองเปลี่ยนเรียนรู้บรรยากาศ
ขึ้นโดยสารช่วยชาติเฉกเฉลียง
ถึงจุดหมายปลายทางมิเอนเอียง
จึงเป็นเรื่องเสียงพร้องควรต้องทำ
สาม จอดรถซดน้ำมันหาควรไม่
จึงดับไว้เหมาะควรวิสุทธิ์ล้ำ
แม้นเพียงนิดคิดลดซึ่งควันดำ
รูปธรรมประจักษ์รักษาเรา
สี่ ทางเดียวกันจงโปรดไปด้วยกัน
ลดน้ำมันเชื้อเพลิงไม่อับเฉา
สร้างน้ำมิตรอารีดีไม่เบา
จงเลือกเอาเลือกสร้างทางสัญจร
ห้า หลีกเลี่ยงชั่วโมงที่เร่งด่วน
จึงเหมาะควรไปเร็วไม่เดือดร้อน
ฤานัดหมายโมงยามทางสัญจร
กันไว้ก่อนดีกว่าติดในเส้นทาง
หก เทคโนโลยีให้สื่อสาร
ติดต่องานผ่านสายได้สะสาง
ไม่ต้องวุ่นสัญจรเป็นระวาง
แนวคิดช่างบรรเจิดเลิศแท้เทียว
เจ็ด วางแผนเดินทางไว้สักนิด
เลี่ยงรถติดไม่หลงไม่หลายเที่ยว
สะดวกตัวสบายจินต์ปานนั้นเทียว
เพียงนิดเดียวมากคุณนับประการ
แปด เช็ครถลมยางให้พอเหมาะ
จะเลี้ยวเลาะเหมาะมือให้ผสาน
เช็คเครื่องยนต์ให้พร้อมการใช้งาน
และก็อ่านคูมือการบำรุง
เก้า ไม่บรรทุกของเกินจำเป็น
ไม่ใช่เข็นเป็นบรรทุกหาบกระบุง
มีพอใช้ประโยชน์เป็นจรุง
จึ่งคุยฟุ้งว่าตนพลเมืองดี
สิบ เครื่องยนต์รักษาประจำไว้
มีป่วยไข้สึกหรอหย่าหน่ายหนี
พึงสังวรก่อนขับ 10 วิธี
ต่อแต่นี้โลกจักพรรณราย
๕
ร้อยดวงใจน้อยใหญ่ทุกดวงมาน
รวมผสานพันธกิจพิชิตหมาย
รู้รักษ์ประจักษ์มั่นจวบวางวาย
เร่งป้องภัยทำร้ายโลกโสภณ
รักษ์โลกเถอะแล้วโลกจะมอบรักษ์
ป้องโลกเถอะโลกจักชโลมฝน
รักโลกแล้วแพร้วเพริศในกมล
โลกรักษ์คนคนรักษ์นิรันดร์ไป
18 สิงหาคม 2551
18 สิงหาคม 2551 00:30 น.
กฤตศิลป์ ชินบุตร
๏ แว่วสกุณาขับร้อง.........บรรเลง
สังคีตคนธรรพ์เพลง........เพริศแพร้ว
ธารน้ำหลั่งอลเวง.............นาฏ- กรรมนา
เฉกวิมารพัชรแก้ว..........ป่าไม้อารยธรรม
๏ ขุนเขาตระหง่านฟ้า.......ปราการ
แซมวิจิตรไม้บาน............นฤมิตสร้าง
อัมพรฉาบบริวาร..............งามเด่น
อุกฤษฏ์นัยน์เบิกค้าง........เช่นนี้สวรรค์
๏ รวยรินดินกลิ่นเคล้า.....บุหงา
รวยรื่นมวลพฤกษา..........บ่ยั้ง
หยาดเพชรรวีมา..............พราวพร่าง
เวียนภพอีกกี่ครั้ง.............ร่มไม้ชายคา
๏ ชื่นพบวิสุทธิ์ล้ำ.............สัมผัส
เริงรื่นเป็นขนัด...............จับต้อง
ธรรมชาติเด่นประภัส-......สรยิ่ง ตรูนา
ประจักษ์เถิดเพื่อนพร้อง..เรียกร้องรักษา
๏ จากจิตถึงมิตรผู้............คุณากร
สำนึกจากดงดอน.............ร่วมสร้าง
เพรียกจากป่าอารยะวอน...หนุนส่ง
คงป่าอย่ามล้าง...................พร่างแท้อารยธรรม ๚ะ๛
17 สิงหาคม 2551 01:25 น.
กฤตศิลป์ ชินบุตร
๏ เปลวเทียนวูบดับม้อด..........เกรียวควัน ฟุ้งเฮย
เศษแห่งซากความฝัน............หมดเชื้อ
นัยน์หวามหวาดภาพอัน..........สะเทือนจิต
มืดมิดไร้ผู้เกื้อ........................โอบเอื้อส่องทาง
๏ ค่ำคืนวันฟ้าดับ...................ดาวเด่น จรัสนา
บ้านป่าครูจากเร้น.................เด็กน้อย
แม้นดาวนิดฤาเห็น...............ริบหรี่ หวังเฮย
ครูจากคอยละห้อย.................หล่นฟ้าดาวไกล
๏ วาดหวังจากรุ่งเช้า..............คอยครู
อุทิศตนมวลผู้........................ใฝ่รู้
ไพรพฤกษ์แว่วเสียงกู่............ร้องเพรียก
ลมเรียกครูหาญสู้...................มั่นสร้างอุดมการณ์
๏ แม้นเทียนเล่มน้อยนิด.......ห่าฝน
บ้านป่าจักกันชน.....................ปกป้อง
เถิดครูอย่าร้อนรน..................หนีจาก ไกลนา
สร้างป่าให้ชนพร้อง.................เพื่อสร้างผองชน
๏ แสงพร่างทางย่างไซร้...........เลือนราง
เทียนหรี่แสงเบาบาง................โอบไว้
แห่งฟ้าจวบฟ้าสาง....................หวังวาด
ความคาดหวังย่อมได้...............เด็กน้อยคอยรอ ๚ะ๛
15 สิงหาคม 2551 01:14 น.
กฤตศิลป์ ชินบุตร
หนุนฝันนานวันผ่านฝัน
คืนวันฉันสร้างความหมาย
นั่นแหละคือแรงแห่งกาย
จะฉายส่องหล้าชโลม
กำลังใจส่งให้เติมฝัน
แม้นวันจะมีพายุโหม
เมฆม่านบังป้องท้องโพยม
อย่าระทมบ่มเพาะอุดมการณ์
เพื่อเติมเชื้อไฟให้ฝัน
เติมวันฝันไกลขับขาน
นั่นคือแรงแห่งปณิธาน
ของกานต์กลอนกวีรุจีเรือง