20 เมษายน 2549 01:21 น.
กระป๋องสีชมพู
ทุกวันข้าได้เริ่มต้นวันใหม่ ข้าจะเป็นคนใหม่ในทุกๆวัน ข้าจะเป็นคนใหม่ในทุกๆเช้าข้าจะเป็นคนใหม่ในทุกๆ บ่าย ข้าจะเป็นคนใหม่ในทุกๆ ค่ำคืน วันนี้ข้าจะเริ่มต้นทำสิ่งใหม่ เมื่อข้ากระทำสิ่งแปลกใหม่ เพราะสิ่งที่แปลกใหม่นั้นทำให้ข้าได้พบกับสิ่งที่สำคัญที่สุด
ข้าวาดภาพหลายภาพไว้บนท้องฟ้าทุกๆค่ำคืน ทุกๆภาพล้วนแตกต่างกันออกไป ข้าลากเส้นของดวงดาวมาบรรจบกัน ข้าคิดว่าข้ากำลังวาดเส้นชีวิตของข้า ที่ต้องดำเนินต่อไปทุกๆวันเมื่อข้าเห็นดวงดาวดวงใดดับลง ชีวิตมนุษย์นั้นก็เป็นเหมือนดวงดาว ที่ต้องมีวันสูญสลายและมีวันแตกดับมิได้อยู่คงทนยาวนาน ความรักของข้าก็เป็นเหมือนดังเช่นดวงดาว เมื่อฟ้าสว่าง ความรักของของข้าก็หายไป แต่เมื่อฟ้ามืดมิด ดวงดาวเต็มท้องฟ้า ความรักของข้า ก็เป็นดังดวงดาว ที่ส่องแสงระยิบระยับให้ความสุขกับหัวใจของข้า จะเป็นเช่นนี้ทุกๆค่ำคืน เมื่อข้าได้มองท้องฟ้า ความรักก็สว่างไสวในใจข้าเสมอ เธอผู้นั้นคือดวงดาวที่ข้าได้มอบความรักหมดหัวใจของข้า เมื่อเจ้าประดับลงที่ใดบนท้องฟ้า ท้องฟ้าคือที่ที่ของข้าได้มอบความรักให้เจ้าหมดหัวใจ
ข้าคือผู้ที่เกิดมาพร้อมกับศักดิ์ศรีแห่งต้นหญ้า ข้าได้รับการเรียนรู้จากต้นไม้และใบหญ้า เพราะสิ่งนี้เกิดมาพร้อมกับบรรพบุรุษของข้า ชื่อของข้า คือ กัมปนาท ข้าอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ แต่ในหมู่บ้านของข้านั้น ข้าก็เป็นดังเสียงที่มีพลัง เมื่อข้าพูดหรือทำสิ่งใดสิ่งนั้นย่อมศักด์สิทธิ์เสมอ
ข้าเกิดขึ้นมาพร้อมกับ ฐานะ ที่ทุกคนต้องเคารพ และยกย่องนับถือ เพราะ บิดาของข้า คือผู้ที่ปกป้องรักษา ให้หมู่บ้านสงบ และร่มเย็น เมื่อข้าเติบโตขึ้น ข้า ก็ต้องเป็นดังพ่อชองข้า เพราะตระกูลของข้าเป็นที่ยกย่อง และได้ถือเป็นตระกูลที่ศักด์สิทธิ์ ที่ทุกคนให้การยอมรับมาตั้งแต่บรรพบุรุษข้าจึงเติบโตขึ้นมาพร้อมกับความรักที่ทุกคนมอบให้ บัดนี้ข้าได้เติบโตเป็นหนุ่ม ข้าได้เรียนรู้เรื่อราวต่างๆ จากทุกๆสิ่งของชีวิต เพื่อเตรียมตัวเป็นผู้นำหมู่บ้านในอนาคต แต่ข้าก็ไม่เข้าใจสิ่งหนึ่ง คือหัวใจของข้า ว่า มันเหมือนกับหลายๆสิ่งในหัวใจยังว่างเปล่าอยู่ หากข้าพบสิ่งนั้น ข้าจะถามหัวใจข้าให้เข้าใจ มันเหมือนกับขาดสิ่งเติมเต็มในชีวิตข้า หลายๆ วัน หลายเดือนผ่านไป ข้าได้รู้จักกับเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆเข้าใจข้า นางชอบมาเล่นกับข้าทุกๆวัน ข้าได้สัมผัสถึงจิตใจที่บริสุทธ์ของนาง นางชอบถามถึงหลายๆสิ่งในชีวิตของข้า เหมือนกับว่าข้าได้รับบางสิ่ง บางอย่างจากนาง ความอบอุ่นอย่างนั้นหรือ อาจจะเป็นเช่นนั้น ข้าคือไม้ใหญ่ที่แข็งแกร่ง แต่ไม้ใหญ่ก็ไม่อาจจะทานแรงพายุลมแรงได้ ขณะที่นางเป็นดังต้นหญ้าที่ยังยืนหยัดอยู่ได้แม้พายุลมแรงสักเท่าใด นางสอนข้าให้เป็นดังต้นหญ้าที่ยืนหยัดอยู่ได้ แม้อุปสรรคจะผ่านเข้ามาในชีวิต ข้าได้รู้จักกับนางเมื่อนางอายุได้ 10ขวบ เรารู้จักกันมา 5ปี นางชื่อ มณฑา ข้าคิดว่าตลอดเวลาที่ได้รู้จักกัน
ข้า รักนางเข้าแล้ว อาจจะเป็นไปได้ ข้ายอมรับ และไม่อาจปฎิเสธได้เลย เมื่อนางเติบโตขึ้น ข้าจะแต่งงานกับนาง และใช้ชีวิต อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข แต่บัดนี้ นางอายุ 15ข้าได้ทราบข่าวจากพ่อของนางว่า นางมีโรคร้ายที่เป็นเหมือนกับแม่ของนาง ที่ไม่อาจจะรักษาหายได้ อีกไม่นานนางจะตายเหมือนแม่ของนาง แต่ตอนนี้ นางอาจจะอยู่ได้เพียง ปี หรือ2ปี หรืออาจจะมากกว่านั้น ข้าถามพ่อของนางว่า นางได้รู้รึเปล่าว่า นางเป็นโรคที่รักษาไม่หายเหมือนแม่ของนาง พ่อของนางบอกข้าว่า นางไม่รู้เพราะไม่มีใครกล้าที่จะบอกนาง ข้าได้บอกพ่อของนางว่า จงเก็บไว้เป็นความลับตลอดไป ข้าไม่อยากให้นางเสียใจ
เมื่อเวลาผ่านไป ข้ายอมรับว่าข้ารู้สึกปวดใจทุกครั้ง เมื่อข้าพบนาง ข้าอยากร้องไห้ทุกครั้งเมื่อนางส่งยิ้มให้กับข้า รอยยิ้มของนางช่างอบอุ่น แต่แฝงไปด้วยความปวดใจของข้า ข้าทนไม่ได้อีกแล้วที่จะให้เป็นอย่างนี้ หากนางตายจากข้าไป ข้าจะต้องบอกนางให้ได้ว่า ข้ารักนาง และรักสุดหัวใจ ข้าจะแต่งงานกับนาง
เมื่อค่ำคืนแห่งรัตติกาลมาเยือน ข้าได้เรียกนางให้มาพบข้าในค่ำคืนนี้ มณฑา หญิงสาวยอดดวงใจของข้ามาอยู่ตรงหน้าข้าแล้ว ท่านเรียกข้ามาพบ มีสิ่งใดหรือท่าน หญิงสาวเอ่ย ใช่ข้าต้องการพบเจ้า และข้ามีสิ่งหนึ่งที่ข้าต้องการบอกกับเจ้า ชายหนุ่มเอ่ย เจ้าจะมายืนเคียงข้างข้าตลอดไปได้ไหม หากเป็นเพราะ ข้ารักเจ้า หากเพียงเจ้ารักข้า ข้าจะขอมอบดวงใจทั้งหมดให้แก่เจ้า ในคืนที่ดวงดาวเต็มท้องฟ้า ข้าขอให้ดวงดาวนับพันเป็นพยานแทนหัวใจของข้า
แต่ว่าข้าเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดา มิอาจะคู่ควรกับท่าน หญิงสาวเอ่ย หากใจเจ้ารักข้าไม่มีสิ่งใดที่เจ้าต้องกังวล ชายหนุ่มเอ่ย พร้อมกับจับไหล่หญิงสาวให้หันหน้ามาหาชายหนุ่ม ให้นางได้มองดวงตาของชายหนุ่ม เพื่อให้นางรับรู้ถึงความรู้สึกผ่านดวงตา และเพื่อให้ชายหนุ่มค้นหาคำตอบจากดวงตาของหญิงสาว ข้าคิดว่าเจ้ารักข้า หากเป็นเช่นนั้น ชายหนุ่มเอ่ย ชายหนุ่มค่อยๆประทับ
ริมฝีปากลงบนดวงตาของนาง และบรรจงจูบบนริมฝีปากอันบอบางของนาง มันช่างเป็นความรู้สึกที่อบอุ่นผ่านเข้ามาถึงหัวใจของชายหนุ่ม หากนางจะตาย ข้าขอมอบดวงใจที่ข้ามีให้นางได้เก็บรักษาไว้ ชายหนุ่มคิดในใจ ช่างเป็นจูบที่เนินนานและยาวนาน ในค่ำคืนแห่งรัตติกาลมีดวงจันทร์สาดแสงและมีดวงดาวระยิบระยับ เป็นท่วงทำนองและเป็นจังหวะของความรู้สึกของคนสองคน
หญิงสาวกอดชายหนุ่มในความรู้สึกที่อบอุ่นและผูกพัน หญิงสาวได้รับรู้ถึงความรู้สึกเช่นนั้น ข้าคิดว่า เจ้าตกลง ชายหนุ่มเอ่ยขึ้น ข้าถือว่า กอดนี้คือคำตอบของเจ้า เจ้าจะไม่ปฎิเสธ หากคำพูดที่ข้าพูดไปเป็นคำพูดที่ศักดิ์สิทธ์ในใจของเจ้า
งานแต่งงานได้ถูกจัดขึ้นของลูกชายเจ้าหัวหน้าผู้นำ กับหญิงสาว หากทางผู้ใหญ่ไม่ยินยอม งานแต่งงานนี้ก็ต้องถูกจัดขึ้นอยู่ดี ในวันแห่งความสุขของเข้าทั้งสองคน มีสักขีพยานคือคนในหมู่บ้านที่มารับฟัง และร่วมแสกงความยินดีให้กับคนทั้งสอง มีคำถามที่ถามขึ้นขณะที่จะมอบดอกไม้ให้กัน ข้าตอบด้วยแรงของหัวใจว่า ข้าจะรัก นางหมดหัวใจและจะอยู่กับนางตลอดไป
และเจ้า มณฑา เจ้าจะรับชายผู้นี้ที่ยืนอยู่ข้างเจ้ามาเป็นคู่ชีวิตตลอดไปหรือไม่ รับคะ และจะรักตลอดไป ข้าและนางได้มอบดอกไม้ให้กัน และมอบจุมพิตที่เป็นสัญญาณว่า คน ทั้ง2 ได้แต่งงานกันแล้ว และจะมั่นคงให้แก่กันตลอดไป
แต่เพียงเวลาเท่าใด เมื่อเราทั้ง2 จะพรากจากกัน ใจทั้ง2 ได้ห่างไกล เมื่อใดเท่านั้น
ชายหนุ่มคิด
ข้าอุ้มเจ้าสาวของข้าเข้าห้อง และคืนนี้เป็นคืนแรก หรืออาจจะเป็นคืนสุดท้าย ข้าจะมอบความรักที่มีอยู่ในใจข้าในร่างกายข้า ให้เจ้าสาวที่ข้ารัก ทั้งร่างกายข้า และหัวใจข้า จะเป็นของนาง
มณฑา เจ้ากลัวหรือ หากเจ้ากลัว เจ้าจงหลับตา และความรักทั้งหมดในตัวข้าจะไปอยู่กับเจ้า นางหลับตาลง ตัวสั่นระริก ข้ามิกลัว หญิงสาวเอ่ย งั้นหรือ แต่เจ้าหลับตา เจ้าอย่าโกหกข้า
หากเจ้ามิกลัวเจ้าจงลืมตาขึ้น ลืมตามองมายังข้า แล้วชายหนุ่มค่อยๆ จุมพิตลงบนเปลือกตาของนาง แล้วค่อยๆ บรรจบริมฝีปากไปยังริมฝีปากอันบอบบางของนาง เหมือนคืนแห่งรัตติกาลคืนนั้นหญิงสาวกอดชายหนุ่ม เมื่อค่อยค่อยๆ ถอนริมฝีปากออกจากปากอันบอบบางของนาง เขาค่อยๆอุ้มตัวนางขึ้น แล้ววางนางลงบนเตียง แล้วสร้างความสุขของกันและกันน่ำคืนอันมืดมิด มีเพียงเขาทั้ง2 ที่จะรักกันตลอดไป
หากนั้นเป็นคืนที่ข้าจะจดจำเอาไว้ในความทรงจำที่ข้าได้มีนางที่ ชื่อ มณฑา หากตอนนี้นางได้จากข้าไปแล้ว เราได้ใช้ชีวิตร่วมกัน มา2 ปี แล้วนางก็ได้มอบพยานรักระหว่างเรา 2 คน พยานรัก คือ เด็กชายตัวน้อยๆ ที่ข้าจะทุ่มเทความรักทั้งหมดของข้ามอบให้แก่เขา และจะมอบความรักของเจ้าให้เขาเช่นกัน
ข้าจะสอนให้เด็กชายตัวน้อยคนนี้ ให้เติบโตขึ้น ให้เขาได้เรียนรู้ที่จะอยู่คู่กับทุกสิ่ง และมอบความรักให้กับทุกสิ่งในโลก
ข้าจะยืนอยู่ตรงนี้ เฝ้ามองดูเจ้า สัมผัสลอยยิ้มจากหมู่ดาวมากมายบนท้องฟ้า หากเจ้ายังไม่ลืมข้า ขอให้เจ้าเฝ้าดูข้า และลูกชายตัวน้อยของเรา ทั้งลอยยิ้มและน้ำตา ข้าจะมอบให้แด่เจ้าเพียงผู้เดียว และหากเจ้าห่างไกล เพียงใด เพียงเจ้าหันหลังกลับมามอง เจ้าจะพบคน คนนี้ กัมปนาท ชายผู้นี้จะอยู่มองดูเจ้าที่เดิมตลอดไป
จบบริบูรณ์
16 กรกฎาคม 2548 16:55 น.
กระป๋องสีชมพู
ฉันหยิบไดอารีเล่มหนึ่งขึ้นมาดู ไดอารีเล่มนี้หน้าปกเป็นรูปดอกกุหลาบสีชมพู .. แต่เอ้ ..ไดอารีเล่มนี้บันทึกตั้งแต่เมื่อไรเนี้ย ทำไมจำไม่ได้เลยนะ ฉันค่อยๆพลิกไปทีละหน้าทีละหน้า ฉันก็ต้องสะดุดกับเรื่องราวเรื่องหนึ่ง .....
สวัสดีคะ วันนี้ก็เป็นวันธรรมดาเหมือนทุกวันนั้นแหละคะ ทำไมหรอคะ ก็เพราะว่ามีใครคนหนึ่งชอบ
เดินตามฉันตลอดเวลา ฉันจะทำอะไรก็ชอบมาอยู่ใกล้ๆ แล้วทำไมก็คนมันเบื่อ เดินตามกันอยู่ได้ เอมานั่งนี้มะ
เอไปกินข้าวกันมะ ฉันละเบื่อ ไม่ใช้แฟนกันซะหน่อย ก็ถึงจะไม่ใช้แฟน ฉันก็คิดไว้แล้วว่า ฉันจะไม่มีแฟน
วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะคะ จะไปกินข้าวแล้วคะ บาย ฉันค่อยๆพลิกไปหน้าต่อไป เพราะว่าสมุดมันเก่ามาก
สวัสดีคะ มาเล่าต่อคะ ทำไมฉันจะไม่มีแฟน ไม่อยากมีคนรักรู้รึเปล่าคะ ก็เพราะว่า ฉันได้ตั้งปฎิญาณไว้แต่เด็กๆแล้วว่า โตขึ้นฉันจะไม่แต่งงาน ฉันจะไม่มีแฟน ฉันก็บอกให้นายฝุ่นเพื่อนข้างบ้าน ว่า โตขึ้นฉันจะไม่แต่งงานละ นายฝุ่นก็หัวเราะเยาะใหญ่เลย. จนเป็นเรื่องให้ฉันรำคาญจนถึงทุกวันนี้ไงค่ะ นายฝุ่นตัวเจ้าปัญหา ก็คนนี้แหละคะ ชอบเดินตามฉันตลอดเวลา จนคนอื่นคิดว่าฉันกับฝุ่นเป็นแฟนกัน ก็ดีหรอกคะเป็นการป้องกันตัวเอง จากคนอื่น แต่นายยฝุ่นนี่สิค่ะ ชอบคิดว่าเราเป็นแฟนกัน พยายามจีบฉันตลอดเลย ตั้งแต่เด็กๆ มาแล้ว สงสัยไม่อยากให้ฉันทำตามปฎิญาณที่ตังใจไว้ เหอะๆ ไม่มีทางเสียหรอกคะ ตั้งใจเอาไว้แล้วนี่นา นายฝุ่นนายนั้นน่ะใช่ว่าจะไม่ใช่คนหล่อน่ะ หล่อบาดใจเลย
หล่ะ เป็นถึงดาวมหาลัยเชียวนะค่ะ โดนพวกสาวๆจีบกันตรึมเลย แต่เขาก็ปฎิเสธกับสาวๆ พวกนั้นว่า เขามีแฟนแล้วชื่อเอ เอใครกันล่ะคะ ก็ฉันเองแหละคะ โดนสาวๆพวกนั้นหวีดกันตรึม จนฉันนอนไม่หลับไปหลายคืนวันนี้พอแค่นี้ก่อนนะค่ะเดี๋ยวไปกินข้าวก่อน บาย.... ฉันก็ค่อยๆพลิกไปอีก สอง สาม หน้า จนมาถึงเรื่องราวตอนหนึ่ง
เอ. ทำไมมารับโทรศัพท์ฝุ่นช้าจัง..ลืมไปแล้วหรอ ว่าวันนี้วันอะไร เย็นนี้..เลี้ยงฉลองจบการศึกษานะ
. เอ..เรานัดกันไว้แล้วนะ อย่าลืมสิ..เอ.แต่งตัวสวยๆด้วยนะ วันนี้ฉันเขียนการสนทนาทางโทรศัพท์ ระหว่างฝุ่นกับฉัน หลังจากที่ฝุ่นโทรมาหาเมื่อกี้นี้ บอกว่าให้แต่งตัวสวยๆ แต่งธรรมดาไม่ได้รึไง งงจริงๆ... เอ๋อ..แคนี้ก่อนนะคะเดี่ยวมาเขียนต่อ ไปแต่งตัวก่อนคะ อิอิ.. (20นาทีผ่านไป) กลับมาแล้วคะ เอ้ย .ฝุ่นมาพอดีเลยไปก่อนนะคะ บาย...
หลังจากที่ฉันอ่านเรื่องราวการคุยทางโทรศัพท์ระหว่างฉันกับฝุ่น ฉันก็เริ่มจำเรื่องราว ที่ผ่านมาที่เข้ามาในหัวของฉันได้ ใช่แล้ว นี้เป็นไดอารีเรื่องราวระหว่างฝุ่นกับฉัน ฉันในตอนนั้นที่ทำให้ผู้ชายดีๆคนหนึ่งต้องเสียน้ำตา ในเย็นวันเลี้ยงฉลองจบการศึกษาของเรา 2คน น้ำตาของฉันก็ค่อยๆไหลออกมา ฉันเสียใจก็เพราะว่า.... ที่จริงแล้ว เขาต่างหากที่ต้องทำให้ฉันเป็นฝ่ายเสียใจ แต่ฉันกลับทำให้เขาต้องเสียน้ำตา น้ำตาของลูกผู้ชาย .....
วันนั้นฝุ่นพาฉันไปกินข้าวที่ร้านอาหารที่เราชอบไปทานด้วยกันเป็นประจำ เขายังไม่พูดอะไร เขาได้แต่ยิ้มๆ จนกระทั่งทานอาหารกันเสร็จกลับมาที่ลานจอดรถ ..เขาก็ดึงตัวฉันมาสวมกอดแล้วบอกว่า ..เอ.. รักฝุ่นไหม
ฝุ่นรักเอมาตั้งนานแล้วนะ ตั้งแต่เด็กๆ ก่อนที่เอจะมาบอกกับฝุ่นอีกว่า เอจะไม่แต่งงาน นัยน์ตาของฝุ่นมีน้ำตาไหลออกมา เอ..ฝุ่นรักเอนะ แต่งงานกับฝุ่นนะ ฉันได้แต่อำอึ้ง เพราะเพิ่งได้ยินคำสารภาพรักจากปากของฝุ่น ไม่รู้ว่าฝุ่นจะรักเอจริงๆนะ นึกว่าแค่ฝุ่นพูดเล่นๆกับผู้หญิงที่ชอบมารุมจีบฝุ่นทั่วๆไป ฉันนึกในใจ.. เอ...ทำไมเอเงียบไปไม่ตอบฝุ่น
เอ รักฝุ่นไหม ฝุ่นค่อยๆกอดฉันแน่นขึ้น ฉันพูดอะไรไม่ออก .. ฝุ่น.. คือเอ .. ฉันผลักอกฝุ่น แล้วบอกกับฝุ่นว่า.เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเหมือนเมื่อก่อนดีว่านะ ฉันไม่อยากให้ฝุ่นเจ็บ เจ็บกับผู้หญิงอย่างฉัน..นะฝุ่น..ฉันรักฝุ่นแบบเพื่อน ฉันพูดประโยคนั้นออกมา แต่ทำไมฉันถึงรู้สึกปวดที่ตรงหัวใจนะ ทำไมละเอ กับความรักทำไมเอต้องปฎิเสธด้วย ฉันรีบวิ่งออกมาจากลานจอดรถ ฉันได้ยินแต่เสียงของน้ำตา แต่ฉันก็ไม่ได้หันหลังกลับไปมองผู้ชายที่ยืนอยู่ ณ เบื้องหลัง
ฉันไม่รู้ว่าฉันปิดกั้นตัวเองมากไปหรือเปล่า จาก คำว่า รัก ฉันคิดในใจ นัยน์ตาของฉันก็มีน้ำตารินไหลออกมา
หลังจากวันนั้น ฉันก็เห็นไดอารีของฉันสอดอยู่ตู้จดหมายหน้าบ้าน ฉันคงทำมันตกตอนวิ่งออกมา แล้วฝุ่นคงจะเอามาคืนให้ ฉันเปิดมันออกมา ฉันสังเกตเห็นคาบน้ำตา คงเป็นน้ำตาของ.. ฝุ่น เขาคงอ่านมันแล้ว...หลังจากที่เขาเอาไดอารีมาคืนให้วันนั้น..เขาก็ย้ายไปเรียนต่อต่างประเทศ ........
ฉันคิดมาเสมอว่า เวลาที่คนเราไม่สมหวังกับความรัก ทำไมจึงชอบหนีตัวเองออกไป เรียนต่อต่างประเทศ วันนี้ฉันเพิ่งจะเข้าใจ ก็เพราะว่า อยากออกห่างจากความเจ็บปวด การไม่สมหวังกับความรักถึงแม้ว่า ฉันจะเป็นฝ่าย
หักอกเขาคนนั้นก็ตาม...การจากกันไปยังที่ที่ไกลแสนไกลคือหนทางเดียวที่ออกไปจากความเจ็บปวด....................
ฉันค่อยๆเก็บไดอารีวางไว้ที่เดิม เพราะฉันอยากให้มันเป็นเพียงความทรงจำตลอดไป.........................
(ภาค2)
ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ฝุ่นไม่ได้ติดต่อมาหาอีกเลย ไม่รู้ว่าจะยังจำกันได้อยู่รึเปล่านะ ใช่สินะ เขาคงลืมไปแล้ว จะไปจำมันทำไมกับอดีตที่แสนจะเจ็บปวดกับผู้หญิงที่ไม่ได้รัก ป่านนี้เขาคงโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น คงจะมีแฟนไปแล้ว ตอนนี้เขาก็อายุราวๆ 24สินะ ตอนนี้มันก็ผ่านมา 3ปีแล้ว ฉันครุ่นคิด ...เฮ่ย..มือเจ้ากรรมก็ดันปัดไปโดนเอาสมุด
ไดอารีเล่มที่เพิ่งเก็บไปหล่นลงมาจากชั้นวางหนังสือ ไดอารีหลุดออกมาเป็นชิ้นๆ แต่แล้ว ฉันก็สังเกตเห็นแผ่นกระดาษแผ่นหนึ่งโผล่ออกมาจากไดอารี มีข้อความเขียนไว้ว่า ถึงเอจะไม่รักยังไม่อยากแต่งงานแต่ อยากให้เอรู้ไว้ว่า ฝุ่นรักเอเสมอนะ ฝุ่นก็จะรอเอเสมอ จะรอที่ที่เราจากกัน วันเดิม เวลาเดิม ถึงแม้ว่า พ.ศ. จะเปลี่ยนไปเท่าไรก็ตาม ฝุ่นจะรอ รอจนกว่าเอจะค้นพบตัวเอง รอจนถึงวันที่เราจะได้พบกันอีกครั้ง วันนั้นเราคงได้พบกัน รักเอเสมอ.......
และจะรักตลอดไป...ฝุ่น น้ำตาของฉันเริ่มรินไหลออกมา ฉันร้องไห้ วันนี้นะหรือ ที่ฉันเพิ่งค้นพบหัวใจเจอ
มันสายเกินไปไหม.... ฉันรู้สึกหนาวจับใจ รู้สึกเหงาเหลือเกิน จนถึงบัดนี้ที่ไม่มีเขาอยู่เคียงข้าง..คอยเดินตาม
คอยดูแลห่วงใย..ฉันอาจจะคิดไปเองใช่ไหม เมื่อเธอจากฉันไปแล้ว...........
ฉันรีบวิ่งไปดูที่ปฏิทิน.. เอะ..วันนี้ ทำไมน่า ฉันจึงเพิงสังเกตไดอารีเล่มนี้ในเมื่อมันก็ผ่านมา 3ปีกว่าแล้ว
อีกเพียง 20 นาที จะถึงเวลาที่ฉันกับฝุ่น ที่เวลานั้นเป็นเวลาที่จากกัน.ลองไปดูดีกว่า ถ้าไม่พบ ไม่เจอไม่มาก็ไม่เป็นไร
อย่างน้อย ก็ทำให้เราได้นึกถึง..นะ
ฉันค่อยๆขับรถไปที่ร้านอาหารแห่งเดิม ไปจอดยังที่จอดรถ เมื่อฉันจอดรถสนิทแล้ว ความรู้สึกเก่าๆก็ยิ่งหวนกลับมา ยิ่งลึกเข้าไปในจิตใจ..10นาทีผ่านไป ฉันก็สังเกตเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่ข้างรถ ในมือถือดอกกุหลาบสีชมพู ชายคนนั้นหน้าตาดีมาก ผิวขาว แต่งกายสะอาดสะอ้าน ฉันก็สังเกตเห็นอะไรบ้างอย่างตุ๊กตาที่วางอยู่หน้ารถ
ฉันถึงกลับตกใจ ตุ๊กตาหน้ารถของเขาคล้ายกับตุ๊กตาของฉันเปี๊ยบ..เลย ฉันรีบล๊อครถ แล้วเดินเข้าไปดูชายคนนั้นใกล้ๆ ชายหนุ่มคนนั้นสังเกตเห็นฉันเดินตรงไปหาเขา เขาก็ยิ้มให้ฉัน ฉันคุ้นกับรอยยิ้มบนใบหน้านั้นมาก จนฉันเผลอเรียกเขาว่า .. ฝุ่น.. เมื่อกี้คุณว่าอะไรนะครับ ผมได้ยินไม่ชัด ชายหนุ่มถามขึ้น เปล่าคะ ฉันตอบ ในมือของชายหนุ่มยังถือดอกไม้อยู่ เออ..คุณครับ คุณชอบดอกกุหลาบไหมครับ ชายหนุ่มพูดขึ้น คะ..ชอบคะ ถ้างั้นผมยกให้คุณก็แล้วกันนะครับ ไม่เป็นไรหรอกคะ คือว่า ฉันมารอคน คนหนึ่งนะคะ เขาเป็นเพื่อนของฉันเอง แต่ไม่รู้ว่าเขาจะมาหรือเปล่า แล้วเพื่อนของคุณชื่ออะไรละครับ เผื่อผมจะรู้จัก เพราะว่าผมก็มาที่นี้อยู่บ่อยๆ เออ..เขาชื่อ นที นที..คะ
อะไรนะครับ นทีคะ ฉันย้ำ หรือ ชื่อเล่นเขาชื่อฝุ่นคะ ไม่ทราบว่าคุณชื่ออะไรครับ เออ ฉันชื่อ แก้วใสคะ อะไรนะครับ แก้วใสหรอครับ...... เอ ......ชายหนุ่มเปล่งเสียงออกมา คุณรู้จักชื่อเล่นฉันได้ไงคะ เอ ..จำฝุ่นไม่ได้หรอ นี้ฝุ่นไง
ฉันอึ้ง ไม่รู้ว่าเขาจะมา ไม่รู้ว่าจะมาจริงๆ ที่เดิม เวลาเดิม เพียงแต่ต่างกัน ที่ปีเท่านั้น เขานำดอกไม้ที่ฉันชอบมาด้วย
..เอ..ฝุ่นยังรอเอเสมอนะ รอจนถึงวันนี้รอจนถึง วินาทีนี้..ฉันอึ้งอีกครั้งเมื่อฝุ่นพูดประโยคนั้นออกมา ไม่รู้ว่า........
เขาจับแขนฉันแล้วดึงตัวฉันมาโอบกอด เอ เขาเรียก น้ำตาของเขาหลั่งไหลออกมาอีกครั้ง กับผู้หญิงคนเดิม ที่ที่เดิม
เขาค่อยๆกอดฉันแน่นขึ้น ไม่รู้ว่าฝุ่นจะรอเอ ไม่รู้ว่าฝุ่นจะยังรอคอย..ไม่รู้จริงๆ..เอ..ขอโทษ เอไม่ต้องพูดอะไรหรอก ฝุ่นต้องขอโทษเอที่ทำให้ เอต้องเหงา ต้องอยู่คนเดียว เพราะความเห็นแก่ตัวของฝุ่นที่ ฝุ่นต้องการเปลี่ยน
ความเป็นเพื่อนระหว่างเรา..
น้ำตาของฉันกับฝุ่นก็รินไหลออกมา แล้วฝุ่นก็พูดขึ้น เอ ..ถึงแม้ว่าเวลาจะเปลี่ยนไป แต่ฝุ่นก็ยังเป็นฝุ่นคนเดิมนะ.เอ.ก็ยังเป็น.เอ.คนเดิมของฝุ่น ฝุ่นพยายามลืมเอ พยายามหนี แต่ก็ทำไม่ได้ เอ แต่งงานกับฝุ่นนะ แล้วฝุ่นก็ค่อยๆเอามือล้วงเขาไปในกระเป๋ากางเกง เป็นแหวน เอ ถึงแม้ว่าแหวนวงนี้จะเคยเป็นม่าย แต่เอครั้งนี้ละ ให้โอกาสที่จะมอบแหวนวงนี้กับเอจะได้ไหม เอ ครับ แต่งงานกับฝุ่นนะ ฝุ่นไม่ได้รีบเร่งเอ ฝุ่นอยากให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ความรู้สึกของเอให้ เอตัดสินใจอีก..มือของฉันได้แตะบนปากของเขา ฝุ่นไม่ต้องพูดอะไรหรอก ไม่ต้องพูดอีกแล้ว....เอต้อง
ขอโทษที่ปิดกั้นกับความรู้สึก กั้นตัวเองเกินไป ยึดติดกับคำปฎิญาณสมัยเด็ก เอรู้ว่าฝุ่นรักเอ ตอนนี้ เอก็รักฝุ่น รักนะ
ฝุ่นให้โอกาสเอนะ เอ จะแต่งงานกับฝุ่นคะ..............ปากของเอ ก็ประกบลงบนแก้มของฝุ่น ฝุ่นสวมแหวนลงบนนิ้วของเอ แล้วบรรจงกอด ฝุ่นรักเอไม่เคยลืม รักเมื่อก่อน ตอนนี้ และจะรักตลอดไป...
ขอโทษที่ปิดกั้นความรู้สึกตลอดมา ขอโทษจริงๆ ขอโทษที่ทำให้ฝุ่นต้องรอคอย เอจะไม่ทำให้ฝุ่นต้องรอคอยอีกต่อไป ขอโทษๆๆๆ เอจะอยู่กับฝุ่นจะเคียงข้างฝุ่นตลอดไป...
รักฝุ่นนะ...
จาก...เอ
30/ 2 /48
30 มิถุนายน 2548 17:19 น.
กระป๋องสีชมพู
บันทึกรัก.....ความทรงจำ (ภาค2)
ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ฝุ่นไม่ได้ติดต่อมาหาอีกเลย ไม่รู้ว่าจะยังจำกันได้อยู่รึเปล่านะ ใช่สินะ เขาคงลืมไปแล้ว จะไปจำมันทำไมกับอดีตที่แสนจะเจ็บปวดกับผู้หญิงที่ไม่ได้รัก ป่านนี้เขาคงโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น คงจะมีแฟนไปแล้ว ตอนนี้เขาก็อายุราวๆ 24สินะ ตอนนี้มันก็ผ่านมา 3ปีแล้ว ฉันครุ่นคิด ...เฮ่ย..มือเจ้ากรรมก็ดันปัดไปโดนเอาสมุด
ไดอารีเล่มที่เพิ่งเก็บไปหล่นลงมาจากชั้นวางหนังสือ ไดอารีหลุดออกมาเป็นชิ้นๆ แต่แล้ว ฉันก็สังเกตเห็นแผ่นกระดาษแผ่นหนึ่งโผล่ออกมาจากไดอารี มีข้อความเขียนไว้ว่า ถึงเอจะไม่รักยังไม่อยากแต่งงานแต่ อยากให้เอรู้ไว้ว่า ฝุ่นรักเอเสมอนะ ฝุ่นก็จะรอเอเสมอ จะรอที่ที่เราจากกัน วันเดิม เวลาเดิม ถึงแม้ว่า พ.ศ. จะเปลี่ยนไปเท่าไรก็ตาม ฝุ่นจะรอ รอจนกว่าเอจะค้นพบตัวเอง รอจนถึงวันที่เราจะได้พบกันอีกครั้ง วันนั้นเราคงได้พบกัน รักเอเสมอ.......
และจะรักตลอดไป...ฝุ่น น้ำตาของฉันเริ่มรินไหลออกมา ฉันร้องไห้ วันนี้นะหรือ ที่ฉันเพิ่งค้นพบหัวใจเจอ
มันสายเกินไปไหม.... ฉันรู้สึกหนาวจับใจ รู้สึกเหงาเหลือเกิน จนถึงบัดนี้ที่ไม่มีเขาอยู่เคียงข้าง..คอยเดินตาม
คอยดูแลห่วงใย..ฉันอาจจะคิดไปเองใช่ไหม เมื่อเธอจากฉันไปแล้ว...........
ฉันรีบวิ่งไปดูที่ปฏิทิน.. เอะ..วันนี้ ทำไมน่า ฉันจึงเพิงสังเกตไดอารีเล่มนี้ในเมื่อมันก็ผ่านมา 3ปีกว่าแล้ว
อีกเพียง 20 นาที จะถึงเวลาที่ฉันกับฝุ่น ที่เวลานั้นเป็นเวลาที่จากกัน.ลองไปดูดีกว่า ถ้าไม่พบ ไม่เจอไม่มาก็ไม่เป็นไร
อย่างน้อย ก็ทำให้เราได้นึกถึง..นะ
ฉันค่อยๆขับรถไปที่ร้านอาหารแห่งเดิม ไปจอดยังที่จอดรถ เมื่อฉันจอดรถสนิทแล้ว ความรู้สึกเก่าๆก็ยิ่งหวนกลับมา ยิ่งลึกเข้าไปในจิตใจ..10นาทีผ่านไป ฉันก็สังเกตเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่ข้างรถ ในมือถือดอกกุหลาบสีชมพู ชายคนนั้นหน้าตาดีมาก ผิวขาว แต่งกายสะอาดสะอ้าน ฉันก็สังเกตเห็นอะไรบ้างอย่างตุ๊กตาที่วางอยู่หน้ารถ
ฉันถึงกลับตกใจ ตุ๊กตาหน้ารถของเขาคล้ายกับตุ๊กตาของฉันเปี๊ยบ..เลย ฉันรีบล๊อครถ แล้วเดินเข้าไปดูชายคนนั้นใกล้ๆ ชายหนุ่มคนนั้นสังเกตเห็นฉันเดินตรงไปหาเขา เขาก็ยิ้มให้ฉัน ฉันคุ้นกับรอยยิ้มบนใบหน้านั้นมาก จนฉันเผลอเรียกเขาว่า .. ฝุ่น.. เมื่อกี้คุณว่าอะไรนะครับ ผมได้ยินไม่ชัด ชายหนุ่มถามขึ้น เปล่าคะ ฉันตอบ ในมือของชายหนุ่มยังถือดอกไม้อยู่ เออ..คุณครับ คุณชอบดอกกุหลาบไหมครับ ชายหนุ่มพูดขึ้น คะ..ชอบคะ ถ้างั้นผมยกให้คุณก็แล้วกันนะครับ ไม่เป็นไรหรอกคะ คือว่า ฉันมารอคน คนหนึ่งนะคะ เขาเป็นเพื่อนของฉันเอง แต่ไม่รู้ว่าเขาจะมาหรือเปล่า แล้วเพื่อนของคุณชื่ออะไรละครับ เผื่อผมจะรู้จัก เพราะว่าผมก็มาที่นี้อยู่บ่อยๆ เออ..เขาชื่อ นที นที..คะ
อะไรนะครับ นทีคะ ฉันย้ำ หรือ ชื่อเล่นเขาชื่อฝุ่นคะ ไม่ทราบว่าคุณชื่ออะไรครับ เออ ฉันชื่อ แก้วใสคะ อะไรนะครับ แก้วใสหรอครับ...... เอ ......ชายหนุ่มเปล่งเสียงออกมา คุณรู้จักชื่อเล่นฉันได้ไงคะ เอ ..จำฝุ่นไม่ได้หรอ นี้ฝุ่นไง
ฉันอึ้ง ไม่รู้ว่าเขาจะมา ไม่รู้ว่าจะมาจริงๆ ที่เดิม เวลาเดิม เพียงแต่ต่างกัน ที่ปีเท่านั้น เขานำดอกไม้ที่ฉันชอบมาด้วย
..เอ..ฝุ่นยังรอเอเสมอนะ รอจนถึงวันนี้รอจนถึง วินาทีนี้..ฉันอึ้งอีกครั้งเมื่อฝุ่นพูดประโยคนั้นออกมา ไม่รู้ว่า........
เขาจับแขนฉันแล้วดึงตัวฉันมาโอบกอด เอ เขาเรียก น้ำตาของเขาหลั่งไหลออกมาอีกครั้ง กับผู้หญิงคนเดิม ที่ที่เดิม
เขาค่อยๆกอดฉันแน่นขึ้น ไม่รู้ว่าฝุ่นจะรอเอ ไม่รู้ว่าฝุ่นจะยังรอคอย..ไม่รู้จริงๆ..เอ..ขอโทษ เอไม่ต้องพูดอะไรหรอก ฝุ่นต้องขอโทษเอที่ทำให้ เอต้องเหงา ต้องอยู่คนเดียว เพราะความเห็นแก่ตัวของฝุ่นที่ ฝุ่นต้องการเปลี่ยน
ความเป็นเพื่อนระหว่างเรา..
น้ำตาของฉันกับฝุ่นก็รินไหลออกมา แล้วฝุ่นก็พูดขึ้น เอ ..ถึงแม้ว่าเวลาจะเปลี่ยนไป แต่ฝุ่นก็ยังเป็นฝุ่นคนเดิมนะ.เอ.ก็ยังเป็น.เอ.คนเดิมของฝุ่น ฝุ่นพยายามลืมเอ พยายามหนี แต่ก็ทำไม่ได้ เอ แต่งงานกับฝุ่นนะ แล้วฝุ่นก็ค่อยๆเอามือล้วงเขาไปในกระเป๋ากางเกง เป็นแหวน เอ ถึงแม้ว่าแหวนวงนี้จะเคยเป็นม่าย แต่เอครั้งนี้ละ ให้โอกาสที่จะมอบแหวนวงนี้กับเอจะได้ไหม เอ ครับ แต่งงานกับฝุ่นนะ ฝุ่นไม่ได้รีบเร่งเอ ฝุ่นอยากให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ความรู้สึกของเอให้ เอตัดสินใจอีก..มือของฉันได้แตะบนปากของเขา ฝุ่นไม่ต้องพูดอะไรหรอก ไม่ต้องพูดอีกแล้ว....เอต้อง
ขอโทษที่ปิดกั้นกับความรู้สึก กั้นตัวเองเกินไป ยึดติดกับคำปฎิญาณสมัยเด็ก เอรู้ว่าฝุ่นรักเอ ตอนนี้ เอก็รักฝุ่น รักนะ
ฝุ่นให้โอกาสเอนะ เอ จะแต่งงานกับฝุ่นคะ..............ปากของเอ ก็ประกบลงบนแก้มของฝุ่น ฝุ่นสวมแหวนลงบนนิ้วของเอ แล้วบรรจงกอด ฝุ่นรักเอไม่เคยลืม รักเมื่อก่อน ตอนนี้ และจะรักตลอดไป...
ขอโทษที่ปิดกั้นความรู้สึกตลอดมา ขอโทษจริงๆ ขอโทษที่ทำให้ฝุ่นต้องรอคอย เอจะไม่ทำให้ฝุ่นต้องรอคอยอีกต่อไป ขอโทษๆๆๆ เอจะอยู่กับฝุ่นจะเคียงข้างฝุ่นตลอดไป...
รักฝุ่นนะ...
จาก...เอ
30/ 2 /48
30 มิถุนายน 2548 17:15 น.
กระป๋องสีชมพู
บันทึกรัก.....ไดอารี
ฉันหยิบไดอารีเล่มหนึ่งขึ้นมาดู ไดอารีเล่มนี้หน้าปกเป็นรูปดอกกุหลาบสีชมพู .. แต่เอ้ ..ไดอารีเล่มนี้บันทึกตั้งแต่เมื่อไรเนี้ย ทำไมจำไม่ได้เลยนะ ฉันค่อยๆพลิกไปทีละหน้าทีละหน้า ฉันก็ต้องสะดุดกับเรื่องราวเรื่องหนึ่ง .....
สวัสดีคะ วันนี้ก็เป็นวันธรรมดาเหมือนทุกวันนั้นแหละคะ ทำไมหรอคะ ก็เพราะว่ามีใครคนหนึ่งชอบ
เดินตามฉันตลอดเวลา ฉันจะทำอะไรก็ชอบมาอยู่ใกล้ๆ แล้วทำไมก็คนมันเบื่อ เดินตามกันอยู่ได้ เอมานั่งนี้มะ
เอไปกินข้าวกันมะ ฉันละเบื่อ ไม่ใช้แฟนกันซะหน่อย ก็ถึงจะไม่ใช้แฟน ฉันก็คิดไว้แล้วว่า ฉันจะไม่มีแฟน
วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะคะ จะไปกินข้าวแล้วคะ บาย ฉันค่อยๆพลิกไปหน้าต่อไป เพราะว่าสมุดมันเก่ามาก
สวัสดีคะ มาเล่าต่อคะ ทำไมฉันจะไม่มีแฟน ไม่อยากมีคนรักรู้รึเปล่าคะ ก็เพราะว่า ฉันได้ตั้งปฎิญาณไว้แต่เด็กๆแล้วว่า โตขึ้นฉันจะไม่แต่งงาน ฉันจะไม่มีแฟน ฉันก็บอกให้นายฝุ่นเพื่อนข้างบ้าน ว่า โตขึ้นฉันจะไม่แต่งงานละ นายฝุ่นก็หัวเราะเยาะใหญ่เลย. จนเป็นเรื่องให้ฉันรำคาญจนถึงทุกวันนี้ไงค่ะ นายฝุ่นตัวเจ้าปัญหา ก็คนนี้แหละคะ ชอบเดินตามฉันตลอดเวลา จนคนอื่นคิดว่าฉันกับฝุ่นเป็นแฟนกัน ก็ดีหรอกคะเป็นการป้องกันตัวเอง จากคนอื่น แต่นายยฝุ่นนี่สิค่ะ ชอบคิดว่าเราเป็นแฟนกัน พยายามจีบฉันตลอดเลย ตั้งแต่เด็กๆ มาแล้ว สงสัยไม่อยากให้ฉันทำตามปฎิญาณที่ตังใจไว้ เหอะๆ ไม่มีทางเสียหรอกคะ ตั้งใจเอาไว้แล้วนี่นา นายฝุ่นนายนั้นน่ะใช่ว่าจะไม่ใช่คนหล่อน่ะ หล่อบาดใจเลย
หล่ะ เป็นถึงดาวมหาลัยเชียวนะค่ะ โดนพวกสาวๆจีบกันตรึมเลย แต่เขาก็ปฎิเสธกับสาวๆ พวกนั้นว่า เขามีแฟนแล้วชื่อเอ เอใครกันล่ะคะ ก็ฉันเองแหละคะ โดนสาวๆพวกนั้นหวีดกันตรึม จนฉันนอนไม่หลับไปหลายคืนวันนี้พอแค่นี้ก่อนนะค่ะเดี๋ยวไปกินข้าวก่อน บาย.... ฉันก็ค่อยๆพลิกไปอีก สอง สาม หน้า จนมาถึงเรื่องราวตอนหนึ่ง
เอ. ทำไมมารับโทรศัพท์ฝุ่นช้าจัง..ลืมไปแล้วหรอ ว่าวันนี้วันอะไร เย็นนี้..เลี้ยงฉลองจบการศึกษานะ
. เอ..เรานัดกันไว้แล้วนะ อย่าลืมสิ..เอ.แต่งตัวสวยๆด้วยนะ วันนี้ฉันเขียนการสนทนาทางโทรศัพท์ ระหว่างฝุ่นกับฉัน หลังจากที่ฝุ่นโทรมาหาเมื่อกี้นี้ บอกว่าให้แต่งตัวสวยๆ แต่งธรรมดาไม่ได้รึไง งงจริงๆ... เอ๋อ..แคนี้ก่อนนะคะเดี่ยวมาเขียนต่อ ไปแต่งตัวก่อนคะ อิอิ.. (20นาทีผ่านไป) กลับมาแล้วคะ เอ้ย .ฝุ่นมาพอดีเลยไปก่อนนะคะ บาย...
หลังจากที่ฉันอ่านเรื่องราวการคุยทางโทรศัพท์ระหว่างฉันกับฝุ่น ฉันก็เริ่มจำเรื่องราว ที่ผ่านมาที่เข้ามาในหัวของฉันได้ ใช่แล้ว นี้เป็นไดอารีเรื่องราวระหว่างฝุ่นกับฉัน ฉันในตอนนั้นที่ทำให้ผู้ชายดีๆคนหนึ่งต้องเสียน้ำตา ในเย็นวันเลี้ยงฉลองจบการศึกษาของเรา 2คน น้ำตาของฉันก็ค่อยๆไหลออกมา ฉันเสียใจก็เพราะว่า.... ที่จริงแล้ว เขาต่างหากที่ต้องทำให้ฉันเป็นฝ่ายเสียใจ แต่ฉันกลับทำให้เขาต้องเสียน้ำตา น้ำตาของลูกผู้ชาย .....
วันนั้นฝุ่นพาฉันไปกินข้าวที่ร้านอาหารที่เราชอบไปทานด้วยกันเป็นประจำ เขายังไม่พูดอะไร เขาได้แต่ยิ้มๆ จนกระทั่งทานอาหารกันเสร็จกลับมาที่ลานจอดรถ ..เขาก็ดึงตัวฉันมาสวมกอดแล้วบอกว่า ..เอ.. รักฝุ่นไหม
ฝุ่นรักเอมาตั้งนานแล้วนะ ตั้งแต่เด็กๆ ก่อนที่เอจะมาบอกกับฝุ่นอีกว่า เอจะไม่แต่งงาน นัยน์ตาของฝุ่นมีน้ำตาไหลออกมา เอ..ฝุ่นรักเอนะ แต่งงานกับฝุ่นนะ ฉันได้แต่อำอึ้ง เพราะเพิ่งได้ยินคำสารภาพรักจากปากของฝุ่น ไม่รู้ว่าฝุ่นจะรักเอจริงๆนะ นึกว่าแค่ฝุ่นพูดเล่นๆกับผู้หญิงที่ชอบมารุมจีบฝุ่นทั่วๆไป ฉันนึกในใจ.. เอ...ทำไมเอเงียบไปไม่ตอบฝุ่น
เอ รักฝุ่นไหม ฝุ่นค่อยๆกอดฉันแน่นขึ้น ฉันพูดอะไรไม่ออก .. ฝุ่น.. คือเอ .. ฉันผลักอกฝุ่น แล้วบอกกับฝุ่นว่า.เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเหมือนเมื่อก่อนดีว่านะ ฉันไม่อยากให้ฝุ่นเจ็บ เจ็บกับผู้หญิงอย่างฉัน..นะฝุ่น..ฉันรักฝุ่นแบบเพื่อน ฉันพูดประโยคนั้นออกมา แต่ทำไมฉันถึงรู้สึกปวดที่ตรงหัวใจนะ ทำไมละเอ กับความรักทำไมเอต้องปฎิเสธด้วย ฉันรีบวิ่งออกมาจากลานจอดรถ ฉันได้ยินแต่เสียงของน้ำตา แต่ฉันก็ไม่ได้หันหลังกลับไปมองผู้ชายที่ยืนอยู่ ณ เบื้องหลัง
ฉันไม่รู้ว่าฉันปิดกั้นตัวเองมากไปหรือเปล่า จาก คำว่า รัก ฉันคิดในใจ นัยน์ตาของฉันก็มีน้ำตารินไหลออกมา
หลังจากวันนั้น ฉันก็เห็นไดอารีของฉันสอดอยู่ตู้จดหมายหน้าบ้าน ฉันคงทำมันตกตอนวิ่งออกมา แล้วฝุ่นคงจะเอามาคืนให้ ฉันเปิดมันออกมา ฉันสังเกตเห็นคาบน้ำตา คงเป็นน้ำตาของ.. ฝุ่น เขาคงอ่านมันแล้ว...หลังจากที่เขาเอาไดอารีมาคืนให้วันนั้น..เขาก็ย้ายไปเรียนต่อต่างประเทศ ........
ฉันคิดมาเสมอว่า เวลาที่คนเราไม่สมหวังกับความรัก ทำไมจึงชอบหนีตัวเองออกไป เรียนต่อต่างประเทศ วันนี้ฉันเพิ่งจะเข้าใจ ก็เพราะว่า อยากออกห่างจากความเจ็บปวด การไม่สมหวังกับความรักถึงแม้ว่า ฉันจะเป็นฝ่าย
หักอกเขาคนนั้นก็ตาม...การจากกันไปยังที่ที่ไกลแสนไกลคือหนทางเดียวที่ออกไปจากความเจ็บปวด....................
ฉันค่อยๆเก็บไดอารีวางไว้ที่เดิม เพราะฉันอยากให้มันเป็นเพียงความทรงจำตลอดไป.........................