13 สิงหาคม 2553 18:00 น.

นิทานเซ็น ตอน องุ่นผลนี้อร่อยจริงหนอ

กระบี่ใบไม้

ชายคนหนึ่งออกเดินทางข้ามท้องทุ่ง

ระหว่างที่มุ่งหน้าเพลินเดินกลับบ้าน

พบเสือใหญ่คอยซุ่มรออยู่ช้านาน

จึงลนลานวิ่งหลบลี้หนีภัยมา


ขณะที่ปีนป่ายอยู่ข้ามภูเขา

เดินสะดุดรากไม้เข้าหล่นภูผา

โชคดีที่สองมือไวรีบไขว่คว้า

เถาวัลย์หนึ่งเส้นหล่นมาให้เกาะกุม


ขณะที่ลอยเคว้งคว้างอย่างโชคร้าย

ก็มีหนูมา...กัดเถาไม้ ที่อ่อนนุ่ม

ตัวหนึ่งดำตัวหนึ่งขาวพากันรุม

กลุ้มแสนกลุ้มเสียวหัวใจทำไงดี


เห็นองุ่นห้อยแขวนพวงอยู่ตรงหน้า

รีบเอื้อมมือเข้าไขว่คว้าอย่างเร็วรี่

บอกช่างหวานหอมชื่นใจอะไรเช่นนี้

สุขในทุกเสี้ยวนาทีที่...ที่ผ่านไป				
13 สิงหาคม 2553 10:59 น.

เหยื่อ

กระบี่ใบไม้

อรุณแย้มแต้มฟ้าเวลาเช้า

ดอกไม้พราวปีกบางน้ำค้างใส

ผีเสื้อน้อยเริงร่าเหนือป่าไพร

แต่งแต้มโลกด้วยหัวใจอันงดงาม


เพราะหัวใจของเด็กน้อยเลิศลอยค่า

ไยจะรู้ว่าไฟป่าน่าเกรงขาม

ดุจแสงทองอันอบอุ่นอรุณยาม

หรืออาจตามทันกระเท่เล่ห์เหลี่ยมคน


หนูน้อยยามปลอดใครไร้พ่อแม่

อ่อนเยาว์แท้ซนซุกไปทุกหน

จิ้งจอกร้ายไร้ศักดิ์ศรีมีเล่ห์กล

พร้อมกับห้วงดวงกมลอันเย็นชา


ด้วยสายตาแห่งปีศาจอันมาดหมาย

ด้วยเชิงกลแมงมุมร้ายเตรียมไล่ล่า

เข้าเด็ดปีกบางใสไร้มารยา

ตาข่ายแห่งการฆ่าแมงมุมมาร


และแล้วมันก็โผล่หน้าออกปรากฏ

เปรียบเด็กน้อยผู้ใสสดภักษาหาร

เพียงวูบหนึ่งตอบสนองความต้องการ

ตามมาด้วยเลือดแดงฉานการย่ำยี


เสียงกรีดร้องก้องไกลในความเงียบ

มาพร้อมกับความได้เปรียบในทุกที่

จากไปเหมือนกับสัตว์ร้ายอเวจี

ฝากรอยช้ำย่ำศักดิ์ศรีราคีคน


ทิ้งไว้เพียงความเงียบงันอันแสนเศร้า

เหลือเพียงความว่างเปล่าอันสับสน

ผีเสื้อน้อยเหลือเพียงซากฝากวังวน

ร่างเด็กน้อยถูกปล้นราคีคาว


..........................................................


ประชาชนคนไทยไร้ที่พึ่ง

หนังสือพิมพ์หน้าหนึ่งพาดหัวข่าว

เหยื่อร่ำไห้เวทนาน้ำตาพราว

เพื่อให้โจรใช้เรื่องราว...เป็นบทเรียน				
12 สิงหาคม 2553 21:59 น.

หมามวลชน

กระบี่ใบไม้

เป็นหัวหมาหัวหนึ่งถึงค่าน้อย

ดีกว่าร้อยหางทาสราชสีห์

ไล่กัดแขกแปลกด่านต้านไพรี

ก็ยังดีกว่าหมื่นค่ามหาโจร


เป็นหมาไทยต้ององอาจสมชาติหมา

ใช่ด้านหน้าหลอกตัวสวมหัวโขน

ความเป็นไทยทุกขณะถูกจะโคน

ถึงไม่ต้องร้องตะโกนก็เป็น ไท


ประชาชนจ้างเราไว้เห่าหอน

ขุดสันดอนพวกชั่วช้า - ท้าทายสมัย

หมาจะต้องรู้ลีลาว่าหมาใคร

ใช่เห่าใบตองแห้งแสร้งประจาน


เกิดเป็นหมาต้องรู้ดีหน้าที่หมา

ปวงประชาขุนเราไว้เฝ้าบ้าน

เลือดของหมาที่รินหลั่งต้องหลังอาน

พร้อมต่อต้านปรปักษ์หนักแผ่นดิน


หมาต้องไม่โต้ตอบเข้าลอบกัด

ทำตัวเป็นจรจัดหิวทรัพย์สิน

หมาต้องไม่ใช่หมาหมู่รู้จักกิน

แต่ต้องดิ้นรนสู้รู้จักพอ


หมาจะต้ององอาจสมชาติหมา

อย่าให้ใครก่นด่าถึงโคตรพ่อ

ต้องจำจดรสอาหารและการรอ

ซื่อสัตย์ต่ออุดมการณ์งานของตัว


แผ่นดินนี้ชื่อว่าไทยให้ที่เกิด

ภูมิใจเถิดแม้นไพรีจะมีทั่ว

คุ้มเจ้าของป้องผองภัยไยต้องกลัว

ดีกว่าชั่วราชสีห์...วิถีโจร






5 มีนาคม 2541
ที่ระลึกวันนักข่าวและสื่อมวลชน
ลพบุรีสาร


.................................................


หวัดดีครับ
วันนี้กระบี่ใบไม้ขอเอาบทกลอนเก่า ๆ สมัยเรียนปี 1 ในรั้ววิทยาลัยมาฝาก บังเอิญไปรื้อตู้หนังสือมา แล้วดันไปเจองานเขียนของตัวเองสมัยที่ยังเป็นวัยรุ่นอยู่ (ซึ่งงานเขียนเหล่านี้ ผมลืมไปหมดแล้วว่าตัวเองเคยแต่งมา) บอกตรง ๆ พออ่านปุ๊บแล้วขนลุกเลย ที่ขนลุกนี่ไม่ใช่เพราะเก่ง หรือแต่งไพเราะอะไรนะ แต่ขนลุกเพราะว่าในช่วงหนึ่งของชีวิตเราเคยมีความคิดรุนแรงขนาดนี้เลยเหรอ บางบทประพันธ์นะ ผมอ่านไปได้ไม่กี่บรรทัดแล้วผมๆต้องรีบผ่านไปเลย และที่น่าอับอายกว่านั้นก็คือผลงานเหล่านี้เป็นผลงานที่ผมรวมเป็นเล่มไว้เรียบร้อยเพื่อนำเสนอสำนักพิมพ์และถูกตีกลับมาเรียบร้อยแล้วด้วย.....
ตอนนี้ผมจำไม่ได้แล้วล่ะ ว่าสำนักพิมพ์และบรรณาธิการที่ตรวจงานเหล่านี้ของผมชื่ออะไร แต่มีรอยดินสอแก้ไขมาถี่ยิบเลย(ซึ่งแสดงถึงความเป็นมืออาชีพ และความกรุณากับผมมาก)แต่จำได้ว่าผมเองในขณะนั้น(ยังเป็นเด็กอยู่)กลับคิดไปว่า ทำไมนะ งานของเราก็ดีแล้วนี่(หว่า) ทำไมถึงไม่รับผลงานของเราเข้าตีพิมพ์ด้วยล่ะ...
แต่พอวันนี้กลับมาอ่านผลงานเหล่านี้อีกครั้งเข้า ผมก็ต้องกลับไปเสียใจอีกเช่นกัน ว่าทำไมเราถึงจำชื่อบรรณาธิการท่านนี้ไม่ได้ บรรณาธิการ ที่อ่านผลงานของเด็กไม่รู้ความคนหนึ่งทุกตัวอักษร พร้อมส่งพัสดุตีกลับต้นฉบับพร้อมข้อคอมเม้นต์ทั้งหมดมาให้ทบทวนดู...
ที่ผมนำบทกลอนเก่าบทนี้มาลงก็เพราะว่าเผื่อบังเอิญท่านมาอ่านและเกิดจำได้(ซึ่งโอกาสเป็นไปได้น้อยมาก) ผมอยากจะขอบอกกับท่านว่าผมขอโทษที่เคยคิดอวดดีในขณะนั้น และขอบคุณในความกรุณาของท่านที่มีต่อเด็กไม่รู้ความคนนี้ เป็นอย่างมากด้วย(ในขณะนั้นส่งให้พิจารณาในนามปากกาอื่น) ตอนนี้ผมเข้าใจแล้วล่ะว่าทำไมท่านไม่พิจารณางานของผม(เพราะถ้าผมเป็นท่านผมก็จะไม่รับพิจารณาเหมือนกัน)
ยังไงก็ขอส่งใจให้ท่าน โชคดี และเจริญรุ่งเรืองยิ่ง ๆ ขึ้นไปนะครับ

ขอบคุณมากครับครู

กระบี่ใบไม้				
11 สิงหาคม 2553 21:02 น.

นิทานเซ็น ตอน ดอกไม้ที่หายไป

กระบี่ใบไม้

ณ ที่วัดแห่งหนึ่ง,พระอาจารย์ 

เพาะปลูกเบญจมาศบานพริ้งไสว

กลิ่นหอมชื่นติดลมโชยมาแต่ไกล

ทุกผู้คนต่างพร้อมใจกันชื่นชม


หลายคนต่างแย่งชิงกันร้องขอ

ขันแข่งกันคัดแยกกอวัดแทบล่ม

พระอาจารย์ก็สุขใจในอารมณ์

ใครนิยมขอแบ่งไปล้วนให้ฟรี


วันเวลาผันผ่านไปได้ไม่นาน

ดอกไม้ที่เคยเบ่งบานของวัดนี้

จากที่ชูช่อไสว - เป็นไม่มี

วัดที่เคยสวยโสภีก็ไร้งาม


น่าเสียดายดอกไม้ที่หายไป

เสียงลูกศิษย์ถอนหายใจพร้อมไถ่ถาม

กลิ่นดอกไม้เคยหอมฟุ้งทุกชั่วยาม

นานเท่าใดจักล้นหลามงามเท่าเดิม


อย่าเสียดายถึงดอกไม้ที่หายไป...

อีกไม่นานเท่าใดก็จะเพิ่ม

แต่สิ่งหนึ่งที่พวกเจ้าควรต่อเติม

เจ้าได้เริ่มคิดให้ใครแล้วหรือยัง


วันเวลาผ่านไปไม่ถึงปี

ดอกไม้ที่เคยไม่มีก็สะพรั่ง

ทั่วหมู่บ้านทั้งใกล้ไกลสมใจดัง 

ดอกไม้ที่อาจารย์หวัง...ก็เติบโต				
10 สิงหาคม 2553 19:10 น.

นิทานเซ็น ตอน นรกกับสวรรค์ ของอาจารย์ฮาคุอิน....

กระบี่ใบไม้

นายทหารคนหนึ่งถาม...อาจารย์นั้น

ว่า นรกและสวรรค์มีหรือไม่

เสียงอาจารย์ตอบกลับมา เจ้าเป็นใคร

ข้าเป็นซามูไร...ครับอาจารย์


...ที่แท้เจ้าเป็นซามูไร...

หรือเป็นแค่พลไพร่เดนทหาร

ข้าว่าหน้าตาเจ้าเหมือนขอทาน

เจ้านายใดหนอต้องการเลือกเจ้ามา


ด้วยอารมณ์ที่พิโรธแสนโกรธจัด

ก่อนที่แสงดาบตวัดสะท้อนจ้า

เสียงอาจารย์ก็ราบเรียบดังตัดมา

ประตูนรก...เปิดหา...อยู่รำไร


นายทหารสะดุ้งฟื้นตื่นสำนึก

ยามรู้สึกรีบโค้งตอบด้วยหวั่นไหว

เสียงอาจารย์ดังเล็ดลอดมาแต่ไกล

ประตูสวรรค์เปิดนั่นไง...รีบพิศดู				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกระบี่ใบไม้
Lovings  กระบี่ใบไม้ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกระบี่ใบไม้
Lovings  กระบี่ใบไม้ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกระบี่ใบไม้
Lovings  กระบี่ใบไม้ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงกระบี่ใบไม้