22 ตุลาคม 2553 11:40 น.
กระบี่ใบไม้
จิตรกรผู้หนึ่งแสนเก่งกาจ
ออกดั้นด้นค้นแบบวาดทุกสถาน
หวังจะวาดรูป พระ กับรูป มาร
ค้นพบแบบตามต้องการเป็นพระงาม
พำนักอยู่ ณ ไม่ไกลในวัดหนึ่ง
บุคลิกช่างดูดดึงหน้าเกรงขาม
ทั้งสูงส่งแสนสง่าน่าติดตาม
ทุกผู้คนได้ยินนามล้วนศรัทธา
ได้มาพบแบบอย่างนี้แสนดียิ่ง
ข้าจะวาดพระแท้จริงดังปรารถนา
พูดเสร็จแล้วก็อัญเชิญแบบนั้นมา
เนรมิตสิ่งล้ำค่า - ผืนผ้าใบ
กลายเป็นภาพลายเส้นสีที่ลือเลื่อง
ประชาชนทั่วทั้งเมืองล้วนขานไข
ภาพนั้นถูกคนเอ่ยขานทั้งใกล้ไกล
กลายเป็นจิตรกรใหญ่แต่นั้นมา
เพียงไม่กี่วันวารผันผ่านพ้น
จิตรกรเดิมดั้นด้นดำริว่า
หวังจะวาดรูปยักษ์มารแห่งมายา
ข้าจะไปค้นหาแบบที่ใด
หลังจากที่เสาะระเหิน...บังเอิญพบ
คุกแห่งหนึ่งซึ่งสงบกลางเมืองใหญ่
เห็นนักโทษหน้าเหี้ยมหาญสะท้านใจ
นี่แหละรูปที่ฝันไว้ของหมู่มาร
พอนักโทษรู้ข่าวนั้นพลันร้องไห้
ใยท่านมาหาข้าได้...ไม่สงสาร
ท่านได้ข้าเป็นแบบพระดังต้องการ
ใยวันนี้มาเลือก...มาร...ข้าคนเดิม
ท่านเคยวาดภาพข้าไว้จนสูงส่ง
ทำเอาจิตข้าลุ่มหลงจนฮึกเหิม
ติดในลาภ,ยศ,สรรเสริญเพลินเหิมเกริม
ผิดที่ท่านแท้มาเติมความมัวเมา
ขณะลาภ,ยศ,สรรเสริญ...บังเอิญหมด
แต่ว่าใจข้าไม่ลดความโง่เขลา
เปลี่ยนเป็นโจรฆ่าเจ้าทรัพย์ - จึงนับเอา
เปลี่ยนจากพระเป็นมารเข้า...น่าละอาย
......................................
...จิตของคนช่างอ่อนแอแท้แท้หนอ
กิเลสโลกคอยลากคอมิขาดสาย...
จิตรำพึง ถึงโลกนั้น,อันวุ่นวาย
พระอาจเปลี่ยนเป็นมารได้...ในพริบตา
20 ตุลาคม 2553 21:54 น.
กระบี่ใบไม้
พระอาจารย์นั่งหลับตาในร่มไม้
มีลูกศิษย์ทั้งหลายรายล้อมอยู่
ทุกคนต่างหวังฟังธรรมล้ำเลิศดู
แล้วอยู่อยู่อาจารย์ก็กล่าวขึ้นมา
...ทำอย่างไรจะกำจัดหญ้ารกร้าง...
อาจารย์กล่าวพร้อมชี้ทางกลางทุ่งหญ้า
ศิษย์ทุกคนฟังคำขานอาจารย์ชรา
หลังครุ่นคิดแล้วก็พากันเอ่ยคำ
บางคนบอกเอามีดฟันให้มันหมด
บางคนบอกเอาปูนรดแล้วเหยียบย่ำ
บางคนบอกขุดรากโคนเป็นประจำ
บางคนบอกว่าต้องนำไปเผาไฟ
อาจารย์จึงบอกจงแบ่งเป็นส่วนส่วน
ทำวิธีของตนล้วนที่กล่าวไว้
นับเวลาอีกหนึ่งปีแต่นี้ไป
ทุกคนค่อยย้อนมาใหม่...ดูเหตุการณ์
วันเวลาหมุนเวียนปรับเปลี่ยนผัน
ทุกคนกลับมารวมกันตามคำขาน
กลางท้องทุ่งหญ้า...เหลืองทองอร่ามบาน
ปกคลุมด้วยธัญญาหารเต็มท้องนา
หลังจากที่ไปตรึกตรองทดลองคิด
เรียนรู้ทุกการถูกผิดจึงรู้ว่า
นอกจากการหว่านให้เต็มซึ่งธัญญา
วิธีอื่นปราบต้นหญ้าไม่อับจน
ท่านอาจารย์จากโลกนั้นไปก่อนนี้
เหลือทิ้งไว้เพียงวิถีแห่งเหตุผล
ว่าเธอจงสนองตอบต่อผู้คน
ปลูกรักไว้ในกมล...ดังทุ่งทอง
19 ตุลาคม 2553 19:41 น.
กระบี่ใบไม้
แม่ชี...รูปหนึ่งสวยโสภา
แม้จะสวมใส่เสื้อผ้าอย่างเรียบง่าย
พระในวัดล้วนลุ่มหลงอย่างงมงาย
พระรูปหนึ่งเขียนจดหมายฝากความนัย
แม่ชีก็ปฏิบัติธรรมอย่างสงบ
ไม่ตอบความการขอพบที่ฝากไว้
หลังจบคำเทศน์อาจารย์ผันผ่านไป
ณ กลางที่ประชุมใหญ่แห่งธรรมมา
แม่ชีจึงลุกขึ้นยืนพร้อมบอกกล่าว
รักแล้วใยไม่เดินก้าวมาต่อหน้า
เมื่อเธอหลงรูปที่เห็นเป็นมายา
ใยไม่กล้ากอดฉันไว้...ให้คนชม
18 ตุลาคม 2553 20:43 น.
กระบี่ใบไม้
ในสมัยญี่ปุ่นยุคโบราณ
พระไม่อาจให้ชาวบ้านนั้นบวชได้
ชายคนหนึ่งจึงขบคิดตัดสินใจ
ปลอมแปลงตนเปลี่ยนจากไพร่เป็น ผู้ดี
กลายเป็นเนื้อนาบุญล้ำแห่งธรรมมะ
ประกาศธรรมแห่งพุทธะในทุกที่
ประชาชนหลากล้นหลามล้วนยินดี
สร้างสรรค์ศิษย์ล้นมากมีใฝ่ศรัทธา
กลายเป็นเจ้าอาวาสใหญ่แห่งวัดหนึ่ง
ขณะซึ่งจัดพิธีทางศาสนา
ใครคนหนึ่งซึ่งรู้ความแต่ก่อนมา
จึงยืนขึ้นชี้หน้าด่าท่านสมภาร
ตัวท่านเกิดจากสถานสันดานไพร่
กลายเป็นพระตำแหน่งใหญ่แผ่ไพศาล
ชนชั้นต่ำหลอกลวงคนมาเนิ่นนาน
ไม่สะทกในสันดานบ้างหรือไร
กลางพิธีเงียบยินเพียงเสียงเข็มตก
พระรูปนั้นไม่สะทกสะท้านไหว
ทั้งประกาศคำสำคัญกว่าคำใด
นี่แหละคือความยิ่งใหญ่...บัวในตม
ปล.เจ้าอาวาสรูปนี้ชื่อ หวูซาน คนที่อยู่ในพิธีทุกคนยอมรับว่าท่านพูดถูกต้อง คนที่ออกมาชี้หน้าก็พูดอะไรไม่ออก พร้อมกับยอมรับและชื่นชมถึงการเข้าถึงธรรมของท่าน พิธีการจึงดำเนินต่อไป
พร้อมกับพระหวูซานได้รับความนับถือและศรัทธาจากผู้คนมากยิ่งขึ้น
17 ตุลาคม 2553 19:34 น.
กระบี่ใบไม้
ชายคนหนึ่งรู้ตัวเองโง่แสนโง่
พบทองคำก้อนโตโตที่หลังบ้าน
จึงรีบไปปรึกษาท่านอาจารย์
จะใช้เงินมหาศาลได้อย่างไร
เจ้าต้องลองใช้เงินซื้อปัญญา
พระที่วัดข้างวัดข้านั้นบอกได้
ชายคนนั้นรีบเดินทางอย่างดีใจ
ไปพบพระนั่นเร็วไว...วัดข้างเคียง
ท่านจะขายปัญญาข้าได้ไหม
ให้ราคาเท่าไหร่ไม่หลีกเลี่ยง
พระรูปนั้นจึงแนะนำถ้อยคำเรียง
พบความเสี่ยงอย่าเพิ่งรีบตัดสินใจ
ท่านจงก้าวเดินหน้าก่อนสามก้าว
แล้วถอยหลังอีกสามก้าวจดจำไว้
ปัญญานี้ดูคลับคล้ายง่ายเกินไป
ท่านหลอกลวงข้าหรือไม่ข้าอยากรู้
ถ้าอย่างนั้นท่านก็จงอย่าเพิ่งจ่าย
ท่านทดลองก่อนดูได้ค่อยจ่ายสู้
เงินซื้อปัญญาได้ไหมลองใช้ดู
ชายผู้นั้นจึงคืนสู่บ้านตนเอง
ค่ำมืดแล้วเดินย่างกรายสู่ชายบ้าน
เดินทางถึงที่นอกชานอย่างรีบเร่ง
มองเห็นเงามืดอยู่ท่ามความวังเวง
นอนข้างเมียเห็นเงาเพ่ง...ก็ตกใจ
ขณะที่ความโกรธขึ้งถึงขีดสุด
กระชับมีดเป็นอาวุธขึ้นถือไว้
เตรียมฆ่าชู้พร้อมกับเมียด้วยเสียใจ
พลันนึกขึ้นอย่างฉับไวถึงปัญญา
ทดลองเดินไปข้างหน้าครบสามก้าว
แล้วถอยหลังย้อนกลับราวกับคนบ้า
ทันใดนั้นได้ยินเสียงของมารดา
ลูกกลับมาใยไม่เดินขึ้นบันได
สะท้อนในหัวใจฉุกขนลุกซู่
ย้อนดวงจิตคิดคิดดูยิ่งหวั่นไหว
ถ้าไม่เสียเงินซื้อหาปัญญาไป
ชีวิตจะเป็นเช่นไร...ไม่อยากนึก