20 กรกฎาคม 2554 17:04 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
ชีวิตของไอ้เบิ้ม(ภาค1)
จากการที่ต้องมาสอนที่เหนือสุดของประเทศ ทำให้ต้องเจอ คนชนเผ่าต่างๆ มีหลากหลายวัฒนธรรม แฝงไปด้วยความซื่อและรอยยิ้ม
ทุกวันจะมีนิสิตที่เป็นชนเผ่า คนหนึ่งเอากระท้อนมาฝากทุกเช้า จากห้าลูกเป็นสิบลูก หลายวันเข้ากระต่ายรู้สึกเกรงใจ เลยบอกกับนิสิตไปว่า กระท้อนเบิ้มหวานดี อาจารย์ฝากซื้อกระท้อนหน่อยน่ะจะกลับบ้านเอาไปฝากเค้าสักห้าสิบลูกนะคะได้ไหม
เบิ้มตอบกลับมาว่า ไม่ได้ครับ
อ้าว...ทำไมไม่ได้คะแล้วทำไมเอามาฝากได้ทุกวันหล่ะ
เจ็บซ้นตีนครับ,,,,
คะ....?
คือมันอย่างนี้ครับครู ก่อนจะเอามาฝากคุณครูผมต้องกระทืบทุกลูกครับมันถึงหวาน ถ้าสิบลูกผมกระทืบไม่ไหวครับ..เจ็บซ้นตีน....
กระต่าย.....?555555555555 นี่แหละชีวิตไอ้เบิ้ม....ยังมีหลายภาคนะคะถ้าสนใจจะกลับมาเล่ากันฟัง
20 กรกฎาคม 2554 12:58 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
ช่วงในวันเข้าพรรษาที่ผ่านมาพระนิสิตมจร.ห้องเรียนวัดพะแก้วเชียงรายพร้อมใจกันแต่งเทียนจำนำพรรษาไปถวายที่วัดพระแก้วโดยเดินจากศาลากลางหลังเก่าที่ตั้งของมจร.วัดพระแก้วอย่างพร้อมเพียงทุกชั้นปีพร้อมกับคณาจารย์
เมื่อนำเทียนเข้าไปในโบสถ์วัดพระแก้วแล้วนายกองค์กรนิสิตกล่าวนำโดยมีพระธรรมราชานุวัตร เจ้าคณะภาคหกและเป็นผู้อุปถัมภ์ มจร.ห้องเรียนวัดพระแก้วได้รอรับและกล่าวคำให้โอวาท ในคำกล่าวนั้นแฝงความหมายและให้ข้อคิด
หลวงพ่อได้ให้โอวาทในวันนั้นมีความหมายที่ให้ข้อคิดหลายอย่างจนทำให้ข้าพเจ้าอยากเขียนและนำมาถ่ายทอดตามที่ข้าพเจ้าพอจับใจความได้
หลวงพ่อท่านกล่าวว่า ทุกทีเคยเป็นแต่ผู้รับวันนี้ทุกท่านเป็นผู้ให้ นับว่า เป็นเรื่องดี
ก็เหมือนสมัยก่อนที่เราใช้เทียนพรรษาในการศึกษา ปฏิบัติธรรม นับว่าเป็นสิ่งดีเช่นกันจะเห็นได้ว่าแม้โลกปัจจุบันเป็นโลกวิทยาศาสตร์ มีไฟฟ้าใช้ ก็ยังมีคำเรียกว่า แรงเทียน เช่น 40 แรงเทียน จะเห็นว่าเราเอาของเก่ามาใช้ในการดำเนินชีวิต ให้แสงสว่าง ให้ความอบอุ่น ใช้หุงหาอาหาร แต่นั่นคือแสงสว่างภายนอก ซึ่งต้องมีแสงสว่างภายในด้วยนั่นคือปัญญาประกอบไปด้วยกันจึงจะดี ทรัพย์สิน ไร่นา มักมีคนเป็นเจ้าของจับจอง แต่ทรัพย์สินทางปัญญาไม่มีใครเป็นเจ้าของกว้างใหญ่ไพศาล ยิ่งเรียนมากยิ่งรู้มาก ยิ่งได้มากแสงเทียนก็เปรียบประหนึ่งแสงสว่างทางปัญญา คือ ความรู้ เมื่อมีความรู้ย่อมมีความฉลาดมีปัญญาทั้งในเรื่องรู้กันและรู้แก้ รู้กันคือรู้ทันในสิ่งต่างๆความเป็นไปของโลกซึ่งเราจึงต้องรู้ทั้งกันและแก้ไปพร้อมกัน
ในตอนท้ายด้วยความเมตตาและความเป็นผู้ให้ของพระธรรมราชานุวัตร ท่านได้พูดคุยสนทนาแบบเป็นกันเองว่า ใครถวายอะไรก็ได้อย่างนั้น ในซองปัจจัยเยอะมากเยอะจนปิดซองไม่ลง แต่หลวงพ่อรู้สึกว่า จะมีแต่สีเขียวทั้งนั้น มีพระท่านหนึ่งตอบไปว่า เป็นสีแห่งการรักษาสิ่งแวดล้อม หลวงพ่อท่านตอบกลับมาว่า รักษาสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งดี พูดได้ดี ขอให้ได้ดีน่ะ เรียกเสียงหัวเราะและรอยยิ้มจากพระนิสิตและได้ถวายซองปัจจัยที่พระนิสิตพร้อมใจกันถวายรวมเป็นเงินราวสี่พันกว่าๆคืนให้นายกองค์กรนิสิตไปใช้ในกิจการนิสิตต่อไป
ด้วยลักษณะ มีที่มีความเมตตา บารมี และการเป็นผู้ให้ ทำให้เป็นพระที่น่าเลื่อมใส ศรัทธาของประชาชนชาวเชียงรายและคนทั่วไปเมื่อได้พบเห็น
ดูภาพเพิ่มเติมได้ที่นี่
หมวดหมู่บันทึก: เรื่องทั่วไป
คำสำคัญ (keywords): เข้าพรรษาที่มีความหมายภายใต้คำสอนพระธรรมราชานุวัตร
สัญญาอนุญาต: ซีซี: แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกัน
สร้าง: 20 กรกฎาคม 2554 10:07 แก้ไข: 20 กรกฎาคม 2554 10:33 [ แจ้งไม่เหมาะสม ]