28 กรกฎาคม 2549 21:52 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
อากาศบางวันร้อนอบอ้าว บางวันฝนตก สายลมพัดเอื่อยๆ ณ.สนามบินผู้โดยสารขาออก ภายในประเทศ บรรยากาศ สับสน ทุกครั้งที่ฉันเห็นชีวิตฉันเริ่มผูกพันธ์กับสนามบินดอนเมืองเมื่อไรไม่รู้ได้เพียงแต่ว่าเราสองคนรู้จักกันที่สนามบิน จึงทำให้ฉันเห็นสนามบินจะรู้สึกเจ็บปวดกับบางเรื่องราว รู้สึกคิดถึงและเจ็บร้าวในการจากไปของใครบางคน
ฉันทำงานต่างจังหวัดเขาทำงานกรุงเทพฯ ด้วยวัยที่ห่างกัน เขาเป็นนักธุรกิจ โอกาสที่เราจะเจอกันน้อยมาก แต่ระยะทางไม่กี่ร้อยกิโลเมตรไม่สามารถกั้นความรักเราได้เลย กลับคิดถึงและรักกันมากขึ้นทุกครั้ง
สถานที่ที่เราพบกันครั้งแรกก็คือสนามบินและทุกครั้งที่พบกันที่สนามบินจะเห็นรอยยิ้มปนขำเอ็นดูจากเขาเสมอ แม้ว่าด้วยงานเราจะเจอกันช่วงที่ฉันว่างจากการประชุมมีเวลาแค่ชั่วโมงสองชั่วโมง เขาเจียดเวลาให้ฉันเสมอ ไม่มารับก็คอยมาส่ง เป็นอย่างนี้ตลอดเวลา บอกรักฉันทุกวัน โทรศัพท์คุยทุกวัน
เขาทำได้ดีเสมอต้นเสมอปลาย จนฉันใจอ่อน จากที่เคยเล่นตัว เป็นตัวของตัวเองสูง หยิ่ง ฉันกลับบอกรักเขาทุกวันทั้งที่เมื่อก่อนไม่เคยสนใจความรู้สึกเขา
เขาคงงงและอมยิ้มทุกครั้งที่ฉันบอกรัก
กรุงเทพฯ ไม่เคยอยู่ในสมองฉันที่คิดอยากอยู่ ฉันเกลียดความวุ่นวาย และรักในงานที่ทำ เขาก็เช่นกัน คนเรารักกันนานๆย่อมวางแผนที่จะแต่งงานใช้ชีวิตร่วมกัน ความรักย่อมมีปัญหาถกเถียงกันบ้าง เขามักเรียกฉัน เด็กบ้านนอก ด้วยคำพูดที่เอ็นดู แต่จะต่อท้ายด้วยคำว่า ที่รักเสมอ ด้วยความที่เรารักงานและไม่ยอมทิ้งความฝันของกันและกัน จึงมีใยบางๆมากั้นความรักทุกครั้ง
ความรู้รักเราสองคนไม่พอรึไงน่ะ จึงไม่เคยมีใครยอมใครในเรื่องนี้ การที่คนสองคนอยากใช้ชีวิตร่วมกันเป็นสิ่งดี แต่ถ้าต้องให้ทิ้งความฝันไปอยู่ในสถานที่ไม่ชอบ ฉันไม่ทำ เขาเคยบอกว่า คุณมีผม จะกลัวอะไร ความรักที่ผมมีให้ไม่เพียงพอกระนั้นเหรอ
งานของเราเริ่มเยอะขึ้นเวลาเจอกันก็น้อยลงแต่เค้ายังโทรคุยทุกวัน วันพิเศษเขายังคงส่งของมาให้ฉันเสมอต้นเสมอปลายเสมอ เขาต้องการสร้างครอบครัว
แต่ฉันยังไม่พร้อม ฉันไม่เคยคิดว่า เราจะต้องจากกันทั้งที่รักกัน การพลัดพราก การสูญเสีย ช่างโหดร้าย ความรักมีมากแค่ไหนแต่ไม่สามารถเรียกอะไรกลับคืนมาได้
คงจะเหลือเพียงลมหายใจของฉันคนเดียวที่ต้องประคับประคองต่อไปทั้งที่รู้สึกเจ็บปวดทรมาน ภายในใจฉัน ไม่เคยที่จะหยุดคิดถึงเขาแม้สักเสี้ยววินาที
เขายังอยู่กับฉันเสมอ ฉันรับรู้และสัมผัสมันได้ และทุกครั้งที่ฉันอยู่สนามบิน
มองไปที่เก้าอี้ที่จัดไว้สำหรับผู้โดยสารที่มานั่งรอ ฉันมักเเห็นภาพเงาและรอยยิ้มของเขาทุกครั้ง ที่ที่เราสองคนพบกันฉันคิดเสมอ เราสองคนห่างกันแค่....ลมหายใจเดียว....
23 กรกฎาคม 2549 23:26 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
ความเชื่อคนเรามีหลายอย่าง คนไทยเชื่อว่าเลขเก้าเป็นเลขที่มีศิริมงคลมาก
ฝรั่งเชื่อว่าเลขสิบสาม เป็นเลขที่จะคิดแล้ว มีอะไรประหลาดเกิดขึ้นเสมอ
ความเชื่อคนเรามีหลายอย่างโดยเฉพาะความเชื่อ บรรพบุรุษ ตามหลักโหราศาสร์อัญมณีที่เรยก แก้วเก้าประการ ได้แก่
1. เพชร แท้มีสีใสสะอาดวาววับ เพชรแท้มักไม่มีสี ส่องกับแสงไฟฟ้าจะสวยงาม แต่ถ้าเพชรสีน้ำเงิน จะแพงและหายากมาก
2. ทับทิม สีแดง ของไทยมีเชื่อเสียงมากรู้จักกันทั่วโลกว่า ทับทิมสยาม บางคนเรียกว่า พลอยจันทร์ก็มี
3. มรกตสีเขียวสดใส นิยมไปแกะเป็นพระพุทธรูปบูชา พระเครื่อง หรือทำเป็นเครื่องลางไว้บูชา
4. บุษราคัม พลอยมีสีเหลืองทอง ประกายสดใสแวววาว
5. โกเมน สีแดง เข้มทึบ เป็นพลอยเหมือนบางทีมีสีดำ แตกต่างจากทับทิมที่มีสีอ่อนกว่าโกเมน สีเข้มของโกเมน ดูขรึม หาไม่อยากราคาไม่แพงมากนัก
6. นิล คือ สีดำสนิท บางชนิด ก็สีขาม คือไม่ดำนัก มีมากที่ ราชบุรี และกาญจบุรีซึ่งราคาไม่แพงเท่าไร
7. เพทาย เป็นพลอยสีแดงสลัว ขุ่นมัวชอบกล ไม่สดใส
9. ไพฑูรย์ มีสีเขียว แต่ไม่เขียว เหมือนมรกต มีสีกลอกไปกลอกมาอย่างประหลาด เป็นน้ำกลิ้งอยู่ภายในกระทบการหักเหของแสง
ความเหมาะสมที่จะสวมใส่อัญมณีควรใช้ประดับเรือนกายให้ถูกต้องกับราศรีตัวเอง ความเป็นศีริมงคลในทุกด้านจะบังเกิดแก่ตัวเอง
บุคคลที่เกิดวันอาทิตย์ จะต้องประดับเรือนกาย ด้วย โกเมน หรือเพทาย
บุคคลที่เกิดวันจันทร์ ประดับด้วย มุกดา หรือ เพชร
บุคลที่เกิดวันอังคาร ประดับด้วย บุษราคัม
บุคคลที่เกิดวันพุธ ประดับด้วย มรกต
บุคลคลที่เกิดวันพฤหัส ประดับด้วย ไพฑูรย์
บุคคลที่เกิดวันศุกร์ ประดับด้วย มุกดา และเพชร
บุคคลที่เกิดวันเสาร์ ประดับด้วย ทับทิม หรือ นิล
หลักการปฎิบัติคือ เอาประดับเรือนกายไว้เสมอ ทำเป็นแหวน สร้อยข้อมือ
สร้อย กำไล หรือเก็บเอาไว้ที่บ้านเรือนตัวเอง ก็ได้
อัญมณีที่เสริมเกี่ยวกับเดือนเกิด
เดือนห้า มรกต
เดือนหก เพชร
เดือนเจ็ด นิล
เดือนแปด มรกต
เดือนเก้า โกเมน
เดือนสิบ ไพฑูรย์
เดือนสิบเอ็ด บุษราครัม
เดือนสิบสอง มุกดา
เดือนอ้าย(1) โกเมน
เดือนยี่(2) มุกดา
เดือนสาม มุกดา
เดือนสี่ เพทาย
อัญมณีที่ควรใส่เป็นเช่นนี้ โดยตามหลักโหราศาสตร์ว่าไว้ เพื่อให้ชีวิตประสบความสำเร็จ รุ่งโรจน์ ที่สุด เป็นศิริมงคลที่สุด เป็นเรื่องที่บุคลเกิดวันอะไรควรใช้อัญมณีชนิดไหน
การใช้อัญมณี ที่เกี่ยวกับปีเกิด
ปีชวด โกเมน
ปีฉลู มุกดา
ปีขาล เพทาย
ปีเถาะ ไพฑูรย์ หรือมรกต
ปีมะโรง ไพฑูรย์
ปีมะเส็ง เพชร
ปีมะเมีย นิล
ปีมะแม มุกดา
ปีวอก บุษราคัม
ปีระกา โกเมน
ปีจอ มรกต
ปีกุล ไพฑูรย์
บุคคลบางคน ไม่สนใจ อัญมณีเลยไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชายก็ตาม ซึ่งทำแต่งานยุ่งแต่ชีวิตประวัน หรือคิดว่าเป็นสิ่งฟุ่มเฟือยแพงเกินจำเป็น
อัญมณีนั้นเราไม่จำเป็นต้องเลือกน้ำหนักมากนัก แค่นำมาประดับหัวแหวนหรือจี้ เพื่อให้ถุกโฉลกและเสริมดวง
สำหรับเพชร เราใช้เพชรเขาพระงาม แทนเพชณแท้ได้ซึ่งแวววาวเป็นประกาย และราคาไม่แพงนัก ความเชื่อไม่เชื่อเป็นเรื่องของบุคคล ไม่สามารถบังคับกันได้ แต่ตามหลักโหราศาสตร์ที่กล่าวไว้
ควรจะมีอัญมณีที่เหมาะสมกับตัวเอง ที่ถูกโฉลก กับวัน เดือน ปี ที่เกิด ติดตัวไว้ เพราะตามหลักโหราศาสตร์เชื่อว่า อัญมณี จะส่งเสริมความเป็นศิริมงคลแก่ชีวิต และหน้าที่ การงาน
19 กรกฎาคม 2549 21:52 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
ดวงตะวัน เปล่งแสงสุดท้าย ระบาย เมฆสีแดงปลั่ง ผสมผสาน เสียงครวญครางของสายลม สะท้อน สะเทือนทั่วทิศ แนวขุนเขา
ม่านราตรี เริ่มเย้าเยือน รอเวลาปกคลุม ตามหุบเขา แนวป่า
พระอาทิย์กำลังจะลับเลือนหาย แต่หัวใจไม่เคยลืมเลือน
ในบางครั้ง อยากลืม ความรู้สึก ที่เหว่ว้า เหงา โดดเดี่ยว อ้างว้างเหลือใจ มีคำถามย้อนกลับมาถาม เสียงร่ำร้อง ที่เถียงกันภายในทุกครั้ง มีชีวิตอยู่เพื่ออะไร ชีวิตคืออะไร คืองานที่ต้องแก้ไข หรือชีวิตคือพรมลิขิต ที่เราต้องเดิน แม้บางครั้งอ่อนล้า ในบางครา เบื่อหน่าย แสงสุดท้ายของชีวิต คงใกล้ดับสิ้นพร้อมความรู้สึก
แต่ในทุกครั้งของวันพรุ่งของตะวัน ท้องฟ้าสีคราม กลิ่นดินหอมกระจายหลังจากถูกละอองฝนชะล้าง ชีวิตเหมือนเริ่มต้นใหม่อีกครั้งพร้อมแสงตะวัน
บางครา เหน็บหนาว บางคราว ร้าวลึก ความแข็มแข็งเหมือนเกราะคุ้มครองกาย จะทำได้ทุกครั้ง หรือไงกันน่ะ ความรู้สึกวนเวียน ตามซ้ำๆ
ความอ่อนแอซุกซ่อนอยู่ในใจเสมอ แต่หน้าที่บทบาท ความรับผิดชอบ ภาระที่แสนหนัก กดทับความรู้สึกทุกครั้ง ปรารถนาใด ที่คนคาดหวัง จงทำให้ได้ จนบางครั้งทำให้ใจรู้สึก เหมือนจากจะหยุดลมหายใจ สักครั้ง
แต่สิ่งใดไหนอื่นในสายเลือดนักสู้ เข้มข้นนัก ทุกข์ได้แต่อย่าท้อ โลกนี้มีไว้ให้เหยียบมิได้ไว้แบก คำพูดพ่อวนเวียนอยู่ในใจเสมอ
จงยิ้มรับกับทุกเรื่องราว แม้จะทุกข์ร้าวเพียงใด มีน้ำตาเป็นเพื่อนได้ เหนือคำกล่าวใดจงสู้ฝ่าฟันไป ตราบที่ดวงใจยังส่องฝัน...ดวงตะวันยังส่องแสง...
12 กรกฎาคม 2549 16:15 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
เพื่อน นิยามคำนี้ มีค่า ยิ่งใหญ่ ถ้ารู้จัก ความหมาย ที่แท้จริง มีความจริงใจให้กันอย่างแท้จริง
เพื่อน ไม่ทิ้งเพื่อน เพื่อน หรือก็แค่เพื่อน ไว้เป็นสะพาน ให้เราใช้ สู่ความสำเร็จ
เพื่อน คือทุกอย่าง ในคำว่าเพื่อน คือสิ่งที่มีค่าที่สุด ที่เราควรดูแลรักษาไว้
ในความว่าเพื่อน ต้องมีความจริงใจ ความห่วงใย เอาใจใส่ บางคน อาจจะคิดว่า เป็นเพื่อนกันนาน โตๆกันแล้ว ไม่ต้องดูแล อะไรกันมากมาย แต่ความรู้สึก เคยนึกบ้างไหม มีบางคน คิดว่า จะไปพบ จะสู่มิตรภาพ ได้สิ่งที่ดีกลับมา
กลับตรงกันข้าม เหนือความคาดหมาย อยากบอกกล่าวให้รู้ไว้ ถ้าอยากมีมิตรภาพ ที่ยั่งยืนนาน จงมอบมิตรภาพที่จริงใจให้แก่กันโดยปราศจากสิ่งเคลือบแคลงใดๆ จงดูแล จงรักษา อย่า แสดงความมักง่าย รักสบาย โดยไม่เหลียวแล
ในคำว่าเพื่อน คำว่า ขอโทษกล่าวออกจากปากง่ายดาย แต่ในวาจาที่เคลือบถ้อยคำที่กล่าวนั้น ขอให้มี รู้สึกเช่นนั้นจริงๆ
บางคนมีความเป็นหงษ์อยู่ในตัวเองไม่ต้องสร้าง ขอเพียงแสดงด้วยการกระทำ
คุณค่าของความเป็นคน มีอยู่ในตัวตนทุกคนอย่างแท้จริง
จงใช้ คุณค่า ในคำว่า คน รักษามิตรภาพ พร้อมที่จะดูแลยอมรับ แก้ไข
แต่ถ้าไร้ ซึ่ง จิตสำนึก กาก็คงเป็นได้แค่กา จะสูงส่งเทียมค่าเช่น หงษ์ ได้เช่นใด