4 มิถุนายน 2553 21:46 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
สายฝนที่ร่วงหล่นจากราวฟ้า ในความคิดของฉัน สวยงามเยือกเย็นมีความอ่อนหวานปนอ่อนไหวในละอองฝนที่ตกลงเบาบางตา
สายฝนเหมือนใยแก้วที่เชื่อมฟ้าเชื่อมดิน เชื่อมความรู้สึกให้หล่อหลอมเป็นหนึ่งเดียว
หนึ่งเม็ดฝนรวมตัวเป็นต้นน้ำ ลำธาร คลอง หนอง ห้วยบึ้ง หยาดละอองของสายฝนจะเกาะกิ่งใบตามต้องแสงแดดอ่อนยามเช้าทาบทอเกล็ดระยิบระยับ
ดุสวยงามจับตาประดุจหนึ่งภาพฝัน
พยับแดดที่ไหวหวาบอยู่เหนือพื้นน้ำ ในความรู้สึก เหมือนบันไดสวรรค์ที่พาด
ทอเชื่อมสายน้ำและแผ่นฟ้า เมฆหมอกเป็นเฉกเช่นขั้นบันได
ที่ป่ายปีนนำละอองน้ำรวมตัวเป็นดอกเมฆเบ่งดอกใบบานสะพรั่งรวมตัวอยู่ในเวิ้งฟ้าก่อนจะรวมตัวกันเป็นเม็ดฝนตกลงสู่ผืนดิน
ร่องรอย ของความรัก ความสุข มิเคยจางหายจางหัวใจ
เราสองคนนั่งมองดูท้องฟ้าดูสายฝนที่ตกลงมาผิวแผ่วกระทบกาย
ไม่มีคำพูดใดๆ จับมือ อิงไหล่กันอย่างมีความสุขดูท้องฟ้า หลังฝนตก
ยิ้มเงียบๆซึมซับความรู้สึกนั้น มองตาก็รู้ใจ
ความรักทำให้ทุกสิ่งสวยงาม ยามที่เราอยู่ด้วยกัน
ความใจดี ความมีเมตตา ความเอ็นดู ที่ฉายผ่านส่องประกายสายตามาทำให้รู้สึกได้
ในสายฝน ในความรัก ไม่ว่าเวลาผ่านไปเนิ่นนานเพียงใด คนของหัวใจยังมั่นคงเสมอ
ในสายฝนของความทรงจำ ความรู้สึกของฉันช่างสวยงามยิ่งนัก
4 มิถุนายน 2553 21:09 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
เรื่องที่ ๒๑ บุรุษ คนใดคนหนึ่ง
มีเรื่องเลากันว่า ในมหรสพวันหนึ่ง พระเจ้าปเสนทิ โกศลทรงกระทำทักษิณพระนคร ทรงช้างเผือกล้วนเชือกหนึ่ง ทอดพระเนตรเห็นภรรยาของบุรุษเข็ญใจคนหนึ่ง ซึ่งมองดูพระองค์ที่ปราสาทเจ็ดชั้น พอพระองค์ทอดพระเนตรเห็น นางก็หลบพระองค์ ภาพของนางเหมือนพระจันทร์หายเข้ากลีบเมฆ
พระเจ้าปเสนทิโกศลทรงเสียดายเป็นกำลัง อำนาจความรักทำให้พระองค์เป็นประหนึ่งว่าจะตกจากหลังช้าง รีบกระทำปทักษิณพระนครแล้วรับสั่งให้อำมาตย์ไปสืบ พอได้ความว่า เธอผู้นั้นเป็นภรรยาของบุรุษเข็ญใจคนหนึ่ง จึงสั่งให้บุรุษคนนั้นเข้ามาเฝ้า บอกกับเขาว่า ให้ปฏิบัติพระองค์อยู่ใกล้ชิดพระองค์ การที่พระองค์ทรงกระทำเช่นนั้น ก็เพื่อจะหาโอกาสฆ่าเขาเสีย แล้วริบเอาภรรยาของเขามาสมความปรารถนาของพระองค์
แต่ว่า พระเจ้าไม่ได้เข้าคนผิด พระองค์ไม่ได้โอกาสสักที แม้ว่า พระองค์จะกระทำวางแผนใด ๆ กับเขา ก็ไม่สามารถทำให้เขาเป็นผู้มีความผิด พอที่พระองค์จะสั่งประหารได้ จนกระทั่งครั้งสุดท้าย พระองค์ได้ทรงสั่งให้เขาไปเอาดินสี่อรุณกับดอกโกมุทและดอกอุบล ซึ่งอยู่ในใต้บาดาลมาแต่ว่าโชคก็คงเข้าข้างเขาอีก โดยเขาได้บริจาคข้าวเป็นทานแก่ปลาในน้ำ แล้วประกาศให้ส่วนบุญแก่พระยานาค พระยานาคได้นำมาให้เขา
พระเจ้าปเสนทิโกศลคิดกลัวว่า จะไม่สำเร็จ จึงสั่งให้ปิดประตูเสียแต่วัน เพื่อมิให้เขาเข้าเมืองได้คิดว่า รุ่งขึ้นก็จักจับเขามาประหารเสีย แล้วริบเอาภรรยาของเขามาถึงประตูพระนครแต่วันแต่ไม่ทัน ประตูพระนครปิดเสียก่อนเขาจึงปาดินและดอกโกมุท ดอกอุบล เหล่านั้นเข้าไปในประตูพระนครพร้อมทั้งประกาศว่า เขาได้นำสิ่งที่พระราชาต้องการมาให้แล้ว แล้วนอนอยู่ที่ศาลาภายนอกพระนคร
คืนนั้น พระเจ้าปเสนทิโกศลบรรทมไม่หลับ ด้วยทรงคิดถึงหญิงนั้นเป็นกำลัง ตกดึกทรงได้ยินเสียงเปรตจากอเวจีร้องว่า ทุ ส น โส พระองค์ทรงตกพระทัยเป็นกำลังรุ่งเช้ารีบให้หาโหรมาดำรัสถาม ฝ่ายโหรเองไม่รู้ไม่ชี้ก็ทูลพระองค์ว่า เป็นพระเคราะห์ของพระองค์ ขอให้พระองค์รีบบูชายัญญ์ โดยให้จับช้าง ม้า โค แม่โคนม แพะ แกะ ไก่ สุกร เด็กชาย เด็กหญิง อย่างละร้อย มาฆ่าบูชายัญญ์ซึ่งพระองค์ก็ทรงสั่งให้ราชบุรุษจับคนและสัตว์เหล่านั้นมาขังไว้เพื่อจะได้จัดการฆ่าบูชายัญญ์ในวันรุ่งขึ้น
ฝ่ายเหล่าชนที่เป็นญาติของเด็กชายเด็กหญิงเหล่านั้นต่างก็ร้องไห้คร่ำครวญมาหาพระนางมัลลิกาเทวี พระนางได้เข้าไปทูลพระเจ้าปเสนทิโกศล ทรงเตือนให้พระองค์ทรงระลึกถึงพระศาสดา แล้วได้พาพระองค์ไปเฝ้าพระศาสดา ทูลเรื่องนั้นให้พระศาสดาทรงทราบ
พระศาสดาทรงทราบเรื่อง ก็ตรัสว่า มิใช่เคราะห์กรรมอะไรของพระองค์ดอก แต่หากเสียงที่พระองค์ได้ยินนั้นเป็นเสียงเปรตจากอเวจี ซึ่งจมลงในโลหกุมภีถึง ๓ หมื่นปีจึงได้ขึ้นมาบนปากหม้อครั้งหนึ่ง และเขาจะกล่าวคาถา แต่ว่าไม่สามารถจะกล่าวได้ กล่าวคนละอักษรแล้ว ก็หมุนกลับเข้าไปสู่หม้ออย่างเดิมอีก แล้วทรงตรัสพระคาถาเต็มว่า
พวกเราเมื่อโภคะมีอยู่ ไม่ได้ถวายทาน ไม่ได้ทำที่พึ่งแก่ตน พวกเราจัดว่ามีชีวิตอยู่อย่างชั่วช้าที่สุด
เมื่อเราถูกไฟไหม้อยู่ในนรกครบ ๖ หมื่นปีโดยประการทั้งปวง เมื่อไรที่สุดจักปรากฏ
ท่านผู้นิรทุกข์ทั้งหลาย ที่สุดย่อมไม่มี ที่สุดจักมีแต่ที่ไหน ที่สุดจักปรากฏ เพราะว่ากรรมชั่วที่เราและท่านได้กระทำไปแล้วในกาลนั้น เรานั้นไปจากที่นี้แล้ว ได้กำเนิดเป็นมนุษย์จักเป็นผู้รู้ถ้อยคำที่ยาจกกล่าว ถึงพร้อมด้วยศีล ทำกุศลให้มากแน่
พระศาสดาตรัสเช่นนั้นแล้ว ตรัสว่า มหาบพิตรเปรตทั้ง ๔ นั้น ปรารถนาจะกล่าวคาถาคนละคาถา แต่ไม่สามารถจะกล่าวได้ กล่าวได้เพียงคนละอักษรเดียวเท่านั้นแล้วเข้าไปสู่โลหะกุมภีนั้นอีกด้วยประการฉะนี้แล
ฝ่ายพระราชา เกิดความสังเวช เพราะได้สดับเทศนานั้น ทรงดำริว่า ชื่อว่าปรทาริกกรรมนี้หนักหนอ ทราบว่าชนทั้ง ๔ นี้ไหม้ในอเวจีนรก ตลอดพุทธันดรหนึ่ง จุติจากอเวจีนั้นแล้วเกิดในโลหกุมภี อีกถึง ๖ หมื่นปี แม้อย่างนี้ยังไม่ทราบว่า เมื่อไรจักพ้นทุกข์ เราทำความเยื่อใยในภรรยาของคนอื่น ไม่ได้หลับตลอดคืนยังรุ่ง บัดนี้ ตั้งแต่นี้ไป เราจักไม่ผูกความไม่พอใจในภรรยาของชายอื่นละ แล้วจึงกราบทูลพระศาสดาว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ทราบความที่ราตรีนานไนวันนี้เอง
บุรุษนั้น นั่งอยู่ในที่นั้น ฟังถ้อยคำนั้น คิดว่า เราได้ปัจจัยมีกำลัง จึงกราบทูลพระศาสดาว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระราชาทรงทราบว่าราตรีนั้นนาน ในวันนี้ก่อนข้าส่วนพระองค์เองได้ทราบว่าโยชน์ไกลในวันวาน
พระศาสดาทรงเทียบเคียงถ้อยคำ ของคนทั้งสองแล้วตรัสว่า ราตรีของคนบางคนย่อมเป็นเวลานาน โยชน์ของคนบางคนเป็นของไกล ส่วนสงสารของคนพาลย่อมเป็นสิ่งที่ยาว แล้วตรัสพระคาถานี้ว่า
ราตรีของผู้ตื่นอยู่ นาน โยชน์ของคนเดินทางไกล เมื่อยล้า ไกล สงสารของคนพาลทั้งหลายผู้ไม่รู้สัทธรรม ย่อมยาว
ในเวลาจบเทศนา บุรุษนั้นบรรลุโสดาปัตติผล ฝ่ายพระราชาถวายบังคมพระศาสดาแล้ว เสด็จกลับไปรับสั่งให้ปล่อยสัตว์เหล่านั้นจากเครื่องจองจำ ทั้งหญิงทั้งชายต่างดีอกดีใจ กล่าวสรรเสริญพระคุณของพระนางมัลลิกาเป็นอันมาก
ตกเย็น พวกภิกษุสนทนาในโรงธรรมว่า น่าสรรเสริญ พระนางมัลลิกานี้ฉลาดมาก ทรงอาศัยพระปัญญาของพระองค์ ได้ประทานชีวิตแก่ชนเป็นอันมากได้
พระศาสดาเสด็จมาทรงตรัสถามพวกเธอ เมื่อทรงทราบเรื่องนั้นแล้ว จึงตรัสอดีตนิทานว่า
นานมาแล้ว โอรสของพระเจ้าพาราณสีองค์หนึ่ง เข้าไปบนบานศาลกล่าวกับเทพเจ้าที่สถิตอยู่ที่ต้นไทร ขอให้ได้ราชสมบัติ เมื่อพระราชบิดาทรงสวรรคตแล้ว จะจับพระราชาในชมพูทวิปทั้งสิ้นพร้อมด้วยพระอัครมเหสี ๑๐๑ พระองค์มาเชือดคอสังเวย
ต่อมาไม่นาน พระองค์ได้ราชสมบัติ ทรงระลึกถึงปฏิญญาณที่ตนได้ให้ไว้ต่อเทพเจ้าที่ต้นไทรต้นนั้น จึงทรงพาเสนาหมู่ใหญ่ ไปจับพระราชาทั้ง ๑๐๑ พระองค์ นำมา ณ ที่นั้น ฝ่ายเทพดาเห็นดังนั้นก็ตกใจ ไม่ทราบว่าจะทำอย่างไร กลัวว่าพระราชาในชมพูทวิปเหล่านั้นจะต้องสิ้นพระชนม์เพราะตนคนเดียว จึงเข้าไปขอความช่วยเหลือจากเทพดาองค์อื่น ก็ไม่มีใครสามารถจึงเขาไปหาท้าวสักกะ ท้าวเธอได้ทรงตรัสบอกอุบายให้ว่า จงแสดงตนให้พระราชาเห็น นุ่งผ้าแดง แสดงอาการดุจออกไปจากต้นไม้ของตน เมื่อเป็นเช่นนี้ พระราชาจะคิดว่า เทวดาของเราไปเสียแล้ว เราจักให้เทวดากลับมาแล้วจักอ้อนวอนท่านด้วยประการต่าง ๆ ท่านบนต่อเราไว้ว่าจักนำพระราชา ๑๐๑ กับพระอัครมเหสีทั้งหลาย มาทำพลีด้วยโลหิตในพระศอของพระราชาเหล่านั้น แต่ท่านทิ้งเทวีของพระเจ้าอุคคเสนไว้ เราจักไม่รับพลีของคนผู้มักพูดเท็จเช่นกับพระองค์ เมื่อท่านพูดเช่นนี้ พระราชาก็จักให้นำพระเทวีนั้นมา พระเทวีนั้นแสดงธรรมแก่พระราชาให้ชีวิตทานแก่พระราชาทั้งหมดได้ เทวดาได้กระทำเช่นนั้นทุกประการพระราชาได้รับสั่งให้นำพระเทวีนั้นมาแล้ว
ฝ่ายพระเทวี มาถวายบังคมพระราชาผู้สามีของตนเท่านั้น แม้ประทับนั่ง ณ ที่สุดของพระราชาเหล่านั้น พระราชากริ้ว ตรัสว่า
เธอไม้ไหว้เราที่เป็นใหญ่กว่าพระราชาทั้งหมด ไหว้สามีของเธอ ซึ่งเป็นผู้น้อยกว่าพระราชาทั้งหมด
เรื่องอะไรของหม่อมฉันต้องเกี่ยวข้องกับพระองค์เล่าพระราชาองค์นี้เป็นสามีผู้ให้ความเป็นใหญ่แก่หม่อมฉัน ไม่ไหว้พระราชาพระองค์นี้ แล้วจักไหว้พระองค์ทำไม
เทวดากล่าวว่า ถูกแล้ว พระเทวีผู้เจริญ แล้วบูชาพระเทวีด้วยดอกไม้กำหนึ่ง
ฝ่ายพระราชาตรัสต่อไป ถ้าเธอไม่ไหว้เรา ทำไมจึงไม่ไหว้เทวดาของเราผู้มีอานุภาพมากอย่างนี้ ผู้ให้สิริราชสมบัติแก่เราเล่า
ข้าแต่มหาราช พระราชาทั้งหมด พระองค์ทรงตั้งอยู่ในบุญของพระองค์ จึงจับได้ ไม่ใช่เทวดาจับถวาย
ขณะนั้น เทวดาได้บุชาพระนางด้วยดอกไม้อีกกำหนึ่ง
พระองค์ตรัสว่า พระราชาทั้งหมดนี้ เทวดาจับให้เรา พระเทวีตรัสต่อไป บัดนี้ต้นไม้ถูกไฟไหม้ ณ ข้างซ้ายในเบื้องบนเทวดา เทวดาของพระองค์ ทำไมเทวดานั้นจึงไม่สามารถจะดับไฟนั้นได้ ถ้าเทวดามีอานุภาพมากอย่างนั้น
เทวดาได้บูชาเธออีก
ขณะที่พระเทวีตรัสอยู่นั้น พระองค์ทั้งทรงกันแสงทั้งทรงพระสรวล พระราชาจึงตรัสถามว่า เธอบ้าหรือดีนี่
ขอเดชะ ทำไมพระองค์จึงเหมาคนอย่างหม่อมฉันว่าเป็นบ้า พระเทวีย้อนถาม
เธอทั้งร้องไห้ ทั้งหัวเราะ ก็จะไม่ให้ฉันว่าเป็นบ้าได้อย่างไร
พระองค์จงสดับเถิด พระเทวีตรัสตอบ นานมาแล้ว หม่อมฉันได้ฆ่าแพะตัวหนึ่งไหม้ในนรก ด้วยเศษผลห่างกรรม จึงได้ถูกตัดศีรษะด้วยการนับขนแม่แพะตัวนั้น แต่ว่าพระองค์ฆ่าคนถึงขนาดนี้เมื่อไรจึงจะพ้นจากทุกข์ได้ หม่อมฉันเห็นเหตุนี้ จึงได้ร้องไห้
แล้วทำไมเธอจึงหัวเราะเล่า พระราชาตรัสถามต่อไป
หม่อมฉันยินดีว่า หม่อมฉันพ้นทุกข์แล้ว จึงได้หัวเราะ
คำพูดของพระเทวีทำให้พระราชาทรงสลดพระทัยยิ่งจึงได้สั่งให้ปล่อย พระราชาเหล่านั้นกลับไปยังพระนครของตนโดยอาการขอขมาทั่วทุกพระองค์ ดังนี้แล ฯ
คติจากเรื่องนี้
การฆ่าคนอื่นเพื่อความสุขของตนเองนั้น มิใช่การกระทำของคนที่ฉลาดเลย หากเป็นการกระทำของคนที่โง่บัดซบนั้นมากกว่า
31 พฤษภาคม 2553 01:37 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
ไหนๆ เขากับเราก็ไปกันไม่ได้แล้ว จะมามัวนั่งร้องห่มร้องไห้ เสียใจอย่างสุดซึ้งก็เสียเวลาเปล่า ได้กลับมามีชีวิตอิสระเสรีทั้งทีก็ต้องแฮปปี้กระดี๊กระด๊า ไม่ใช่ว่ามีแต่ น้ำตา เป็นเพื่อน . . . สำหรับใครที่อยากจะเอาคืนประเภทที่ว่าให้เขา เจ็บ เข้าไปถึงทรวงก็ต้องใช้วิธีแบบนี้
ทำตัวสวยสะเด็ด..จากที่เคยสวยอยู่แล้วก็ทำตัวเองให้สวยเข้าไปอีก แต่คนเราจะสวยไม่สวยมันไม่ใช่แค่เรื่องของการแต่งตัว เสริมหน้าหรือร่างกายภายนอก สาวเจ้าทั้งหลายต้องลบล้างความรู้สึก เหงา เศร้าสร้อยทิ้งลงแม่น้ำไปซะ แล้วทำให้หัวจิตหัวใจกระชุ่มกระชวย รับรองว่าใบหน้าจะเปล่งปลั่งเต่งตึงอย่างที่เรียกได้ ว่า สวยจนเขาต้องเหลียวหลังมองซ้ำยังงั้นเลยเชียว
ทำตัวโสด..คนโสดน่ะมีข้อดีที่จะทำตาเจ้าชู้ เล่นหูเล่นตากับใครๆ ก็ได้ ไม่มีใครว่า แต่อย่าให้เกินลิมิตกับคนที่เขามีเจ้าของอยู่แล้วก็เท่านั้น ถ้าคุณคิดอยากเอาคืนแบบที่ทำให้เขาหัวเสีย ก็แค่ทำตัวแบบไม่มีพันธะ เฮฮาปาร์ตี้กับเพื่อนฝูง ไปด๊งไปแดนซ์ตามประสาคนไม่มีห่วง เรื่องถึงหูเขาเมื่อไรรับรองว่า อาจมีเซอร์ไพรส์ประเภทโทร.มาถามว่า รู้ตัวหรือเปล่าว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่ แต่เรื่องของเรื่องน่ะ หวงก้าง!!!
ทำตัวเป็นสาวสุขภาพดี..ประเดี๋ยวก็ไปฟิตเนส พรุ่งนี้เล่นโยคะ อีก 3 วันมีนัดไปว่ายน้ำ โอ๊ย ใช้เวลาหมดไปกับการรักษาสุขภาพขนาดนี้ หุ่นก็สวยเช้งกระเด๊ะในเวลาอันรวดเร็วแล้วยังจะทำให้ สุขภาพดีขึ้นทันตาเห็น ไม่จำเป็นต้องไปแสดงอาการลงแดงตาย ให้ใครต่อใครเขาเยาะว่าถูกทิ้ง
ทำตัวเป็นสาวทำงาน..ไม่ได้บอกให้ก้มหน้าก้มตาเอาเรื่องงานมาเป็นข้ออ้างที่จะลืมเขา วันๆ หัวยุ่งหัวฟูดูไม่ได้ แบบนี้ไม่เอาเด็ดขาด จะให้เขาตาร้อนต้องแสดงให้เห็นว่า ขาดเธอแล้วการงานฉันออกจะรุ่งเรือง ได้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง เพราะไม่ต้องมีคนมากวนใจ สามารถทำงานได้เต็มที่ไม่ต้องนั่งง้อนั่งงอนเวลาที่มีงานเข้ามาแทรกเวลานัด เจ้านายก็ตบรางวัลให้ด้วยตำแหน่ง แถมเงินทองไหลมาเทมา อืมมมท่าทางเขาจะกลับมาชูนิ้วก้อยเร็วๆ นี้แล้ว
ทำตัวเป็นเสือสาว..วิธีนี้รับรองว่าได้ผลชะงัด เพียงแค่แคะมุขเก่าๆ สมัยโบราณมาใช้ ประเภทยืมตัวเพื่อนของเพื่อนของเพื่อนมาเดินควงสัก 2 3 วัน ทันทีที่รู้แน่ว่าถูกทิ้ง ทำไมน่ะเหรอ ก็คนที่ทิ้งคุณไปน่ะคงงงเป็นไก่ตาแตก เพราะเขาเป็นคนบอกเลิก แต่คุณกลับมีคนอื่นเข้ามาดามหัวใจภายในเวลาไม่กี่วัน แล้วมันก็จะกลายเป็นปรัศนีในใจของเขาว่า ใครกันแน่หว่าที่ถูกทิ้ง ???
ทำตัวเป็นเพื่อนที่ดี..เพื่อนที่ดีในที่นี้ก็คือ ส่งเสริมให้เขาไปหาคนใหม่คนนั้น ไม่ต้องสนใจคุณอีกต่อไป คุณสามารถอยู่ได้แม้ว่าเขาจะแสดงอาการเป็นห่วงเป็นใย แต่ขอให้คุณได้แสดงความต้องการที่จะ ขับไล่ไสส่ง เพื่อให้เขาได้อยู่กับคนใหม่อย่างมีความสุข แต่ความจริงแล้วเขาจะรู้สึกได้ทันทีว่า การที่คุณเสือกไสเขาอย่างนั้นเป็นการแสดงอย่างโจ่งแจ้งว่า คุณไม่ได้ต้องการเขาเลยสักนิด โอ๊ยย รับรองว่าเขาจะรู้สึกเจ็บจี๊ด ที่ขั้วหัวใจเลยทีเดียว
ทำตัวเป็นสาวปากหวาน..หากบังเอิญต้องไปเจอเขาในงานใดงานหนึ่งหรือว่าตั้งใจ จะไปให้เจอเขา บอกตัวเองว่า อย่าสั่น อย่าร้องไห้ อย่าหลบ และทักทายเขาด้วยถ้อยคำง่ายๆ แต่ชื่นชมเขาอยู่เสมอ เป็นต้นว่า คุณดูสมาร์ทขึ้นนะคะ เขาก็อาจจะภูมิใจลึกๆ อยู่หรอก แต่คุณต้องแสดงให้เขาเห็นอีกเช่นกันว่า ชมไปงั้นแหละ เพราะคุณก็ชมคนอื่นๆ อย่างนั้นเหมือนกัน อิอิ
ทำตัวเป็นสาวตีท้ายครัว..ข้อนี้เสนอให้กับคนที่รักใคร่กลมเกลียวกันดีกับเพื่อนของเขา เพราะอะไรจะมาเจ็บใจเท่า เพื่อนเราเผาเรือน หรือไม่ก็ญาติพี่น้องของเขาสักคน เอามาเกี่ยวก้อยร้อยรักสัก 23 คืน หรือจะมากกว่านั้นก็ตามแต่คุณกับเขาจะตกลงกัน รับรองได้ว่าจะเห็นดวงตาฉายแววริษยาจากเขาแน่ๆ
สำหรับสาวๆร่างท้วมอวบอิ่ม นั่นน่ะส่วนมากอารมณ์ผิวพรรณผ่องใส
เป็นข้อดีที่คนอื่นไม่มีคะ มั่นใจเค้าไว้สวยในแบบเรา
สำหรับสาวผอม ร่างเล็ก ยิ่งดีใหญ่ ประหยัด เสื้อผ้า ประหยัดพื้นที่
ในการ นั่ง นอน หาเสื้อผ้าใส่ง่าย
ที่สำคัญ สาวอย่างเรา ตั้งมั่นใจ และ รักตัวเอง สวยเข้าไว้ นิสัยดี
สวยในแบบฉบับ เราคือ เรา
กระดี๊ กระด๊า กลับความโสด กันอีกครั้ง
28 พฤษภาคม 2553 23:58 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
เรื่องที่ ๓ การฟังธรรม
ดังได้สดับมา พวกมนุษย์ที่อยู่ถนนสายเดียวกันในกรุงสาวัตถีเป็นผู้พร้อมเพรียงกัน ถวายทานรวมกันเป็นคณะแล้วก็ได้ทำการฟังธรรมตลอดคืนยังรุ่งแต่ไม่อาจจะฟังธรรมตลอดคืนได้ บางพวกอาศัยความยินดีในกามก็กลับไปเรือนเสียก่อน บางพวกเป็นผู้อาศัยโทสะ บางพวกง่วงงุ่นเต็มที่นั่งสัปหงกอยู่ในที่นั้นนั่นเองไม่สามารถฟังธรรมได้ พวกภิกษุยังถ้อยคำให้ตั้งขึ้นในโรงธรรมเจาะจงเรื่องนั้น
พระศาสดาเสด็จมาแล้ว ตรัสถามว่า ภิกษุทั้งหลายบัดนี้พวกเธอสนทนาเรื่องอะไรกัน เมื่อพวกภิกษุกราบทูลว่าเรื่องนี้พระเจ้าข้า จึงตรัสว่า ภิกษุทั้งหลายธรรมดาสัตว์เหล่านี้อาศัยภพแล้วเลยข้องอยู่ในภพนั้นเอง โดยดาดดื่มชนิดผู้ที่ถึงยังมีจำนวนน้อย ดังนี้แล้วได้ตรัสพระคาถาว่า
บรรดามนุษย์ผู้ที่ถึงฝั่งมีจำนวนน้อย ฝ่ายประชานอกนี้ได้แต่แล่นไปตามริมฝั่งอย่างเดียว ก็ชนใดแลประพฤติสมควรในธรรมที่เรากล่าวชอบแล้ว ชนนั้นล่วงบ่วงมารที่ข้ามได้ยากอย่างเอกแล้วจึงถึงฝั่ง
คติจากเรื่องนี้
คนที่ประพฤติชอบ ย่อมล่วงพ้นความชั่วได้
28 พฤษภาคม 2553 13:57 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
ข้อคิดแบบขำๆ
Sometimes when you cry, บางครั้ง เมื่อคุณร้องไห้
no one sees your tears.. ไม่มีใครได้เห็นน้ำตาของคุณ
Sometimes when you are in pain, บางครั้ง ที่คุณบาดเจ็บ
no one sees your hurt... ไม่มีใครรับรู้ถึงความเจ็บปวดของคุณ
Sometimes when you are worried, บางครั้ง ที่คุณกังวล
no one sees your stress... ไม่มีใครรับรู้ถึงความเครียดของคุณ
Sometimes when you are happy, บางครั้ง เมื่อคุณมีความสุข
no one sees your smile... ไม่มีใครสังเกตเห็น รอยยิ้มของคุณ
But... แต่ทว่า ....
FART Just One Time... ขอเพียงคุณ..ตด..สักครั้ง
Everybody Knows! ha ha ha ha !!! ทุกคนจะรู้ทันที!!!5 5 5 5
ขอบคุณเจ้าของเมลล์ที่ส่งเรื่องขำๆมาให้คะ
(เก็บตกจากเมลล์)