28 ตุลาคม 2553 23:43 น.

น้ำตาฝนปนลมหนาว

กระต่ายใต้เงาจันทร์



สายฝนพร่ำเหมือนลำนำเริ่มร่ำไห้
หยาดน้ำใสหล่นเรียงเพียงเพราะว่า
แค่ดอกฝนปนเปื้อนคราบน้ำตา
คง...ไม่ใช่หลั่งออกมาจากข้างใน


ค่ำคืนนี้เย็นเหยียบจนหนาวเหน็บ
ใจแสนเจ็บหม่นคว้างทิศทางไหน
เพราะ..น้ำฝน...หรือ...น้ำตา...ออกจากใจ...
ฝนในใจปนเปื้อนคราบน้ำตา



ยิ่งดึกดื่นลมฝนปนลมหนาว
ปนเส้นทางทอดยาวคอยมองหา
หลงผลัดถิ่นแดนดินไม่ชินตา
ทุกข์ทรมาอับหม่นจนหนทาง



สายฝนพรูลมกรูกราวรวดร้าวนัก
คนเคยรักกลับเลือนหายลับกลายห่าง
เหลือความเหงากลางสายฝนปนอ้างว้าง
รักของเราไกลห่างเริ่มร้างลา



น้ำตาฝนปนลมหนาวทุกเช้าค่ำ
ตาแดงช้ำรอคอยละห้อยหา
กี่ปีเคลื่อนเดือนคล้อยคอยเรื่อยมา
กับคำที่พี่สัญญาจากหัวใจ


ตอนนี้หัวใจแหลกเริ่มแยกยับ
เหมือนถูกเฆี่ยนย่อยยับจนหมองไหม้
กลางสายฝนลมหนาวร้าวเกินใคร
กลั้นสะอื้นหยาดน้ำใสเริ่มไหลริน



				
22 ตุลาคม 2553 23:30 น.

ธรรมชาติคือผู้ให้

กระต่ายใต้เงาจันทร์



ไหววังเวงเงียบงันที่เวิ้งฟ้า
เดือนดารามอบรักทายทักถาม
ละอองฝนไอเย็นใต้ฟ้างาม
กลางดื่นดึกท่ามนิยามสงบงัน

หอมเอ๋ยหอมละอองฝนปนไอหมอก
ความหนาวเยือนมาบอกเจ้าจอมขวัญ
กลิ่นราตรีหอมเย้ายวนชวนชมจันทร์
กาลเวลาาแปรเปลี่ยนผันไฟฝันจาง


ใกล้รุ่งสางละอองฝนปนไอหมอก
ผีเสื้อเหย้าหยอก-ดอกไม้ ไม่คลายห่าง
หอมกลิ่นดินกลิ่นใบไม้ใต้ใบบาง
มีความรักแทรกระหว่างขึ้นกลางใจ

ธรรมชาติไม่เคยทิ้งมวลมนุษย์
มอบอากาศที่บริสุทธิ์สุขสดใส
ให้ร่มเงาแผ่กิ่งก้านมอบผลใบ
ธรรมชาติคือผู้ให้อย่างแท้จริง


แล้วมนุษย์ทำไมไยฉุดคร่า
ทำลายป่าให้สูญหายไปหลายสิ่ง
ธรรมชาติเกื้อการุนณ์หนุนเอื้ออิง
แต่มนุษย์กลับละทิ้งด้วยเมตตา
				
17 ตุลาคม 2553 15:20 น.

ละมุนหอมจากอ้อมฝัน

กระต่ายใต้เงาจันทร์



ละมุนหอมจากอ้อมฝัน

 

ราวพลิ้วไหวในสำเนียงเสียงกระซิบ                        

จากฟ้าขลิบทองใสไล้ความฝัน

กลางทุ่งดอกไม้บานทานตะวัน                              

ลมฝากคำจำนรรจ์จากฟ้าไกล

 

 

ดึงดวงใจดิ่งสู่ประตูรัก                                         

เบิกวิมานอาณาจักรพักอาศัย

อณูอนุภาคกอปรก่อใจ                                         

เป็นห้วงยามงดงามนัยน์หน่วยเนื้อตา

 

 

ในอ้อมแห่งอบอุ่นคุ้นสัมผัส                                  

ฤดีกาลแจ่มชัดปรารถนา

เหนือภาวะโครงข่ายกาลเวลา                                

เพียงหัวใจนำพาตรึงตราการณ์

 

 

แล้วบางถ้อยคำสารภาพ                                      

ก็เอ่ออาบกรุ่นพร้อมความหอมหวาน

รัญจวนบรรเจิดจรัสเกินประมาณ                           

เพียงหัวใจรายงานผ่านความรัก

 

 

การเดินทางกลางวิถีใจมีปีก                                  

สะพานรุ้งเชื่อมซีกใจร้อยถัก

เป็นดวงใจหนึ่งดวงห้วงพำนัก                               

ละมุนหอมอุ่นตักพักใจตน

 

 

ราวตกอยู่ในกลิ่นหอมจากอ้อมกอด
 ถ้อยน้ำผึ้งพร่ำพรอดออดอ้อนหล่น
กระทบถึงก้นบึ้งลึกซึ้งจน
ละเมอบ่นฝากถ้อยลอยตามลม		





         

                                         				
11 ตุลาคม 2553 00:25 น.

จากบทเพลงปลายดอยมาเป็นมิวสิควีโอเพลงเพลงปลายดอย

กระต่ายใต้เงาจันทร์


จากบทเพลงปลายดอยมาเป็นมิวสิควีโอเพลงเพลงปลายดอย 
โดย กระต่ายใต้เงาจันทร์  

ชมมิวสิควีดีโอ ได้ที่นี่ค่ะ

                http://www.youtube.com/watch?v=qHmf8NR9FUw 


บทเพลงจากปลายดอย
ประพันธ์คำร้องโดย "กระต่ายใต้เงาจันทร์"
ทำนอง-เรียบเรียง-สร้างดนตรี-และขับร้องโดยหน่อง(ธนกฤต จงจิตต์)
บันทึกเสียงที่ ห้องบันทึกเสียง Yellowstudio จ.อุบลราชธานี
www.yellowstudio.us
เดือนตุลาคม 2553

.....เงียบวังเวง เพลงปลายดอย ณ.เวิ้งฟ้า
ส่งข้ามมา กระซิบแผ่ว แว่วเพียงเสียง
เริ่มลำนำ ขานขับ รับร้อยเรียง
กลางดื่นดึก แว่วเสียง  สงบงัน

.....ใต้แสงจันทร์ เหลืองนวล งดงามยิ่ง
ท่ามสายลมอ้อยอิ่งทักมอบคอยปลอบขวัญ
มาอิงแอบ แนบซบ ภิรมย์จันทร์
แม้หวาดหวั่น วางลง ที่ตรงใจ
        
*..... เริ่มบรรเลง ผ่านเส้นสาย เพลงปลายดอย
กระชับร้อย ตราตรึงแว่วคล้ายแก้วใส
เริ่มบรรเลงหวานเพราะเสนาะใน
เพื่อรักษา หัวใจ ให้ทุกคน
         
**.....มอบบทเพลง ปลายดอย ผ่านเวิ้งฟ้า
จะพบว่า ความสุขไม่ไปไหน
จิตเป็นสุข ใจเป็นสุข อยู่ที่ใจ
ใช้ชีวิตพอเพียง...พอใจ..ง่ายและงาม....
-- ดนตรี --
( ย้อน *-** จบ )

				
3 ตุลาคม 2553 20:15 น.

เพลงไผ่ใต้เงาจันทร์

กระต่ายใต้เงาจันทร์



เพลงขลุ่ยครวญเคล้าคลอรอผิวแผ่ว
ท่วงทำนองเจื้อยแจ้วแว่วอ่อนหวาน
ในบทเพลงบทเก่าที่ยาวนาน
เห่ขับกล่อมท่ามรัตติกาลให้ฝันดี



แต่วันนี้เหลือเพียงขลุ่ยในลำเก่า
กับร่องรอยความเศร้าอยากหลีกหนี
ชะลอนิ้วพลิ้วบรรเลงเพลงดนตรี
โอดสะอื้นร้าวฤดีท่วงทำนอง



พลิ้วพัดไหวกระไรหนอใต้คืนค่ำ
ความคิดถึงช่างลึกล้ำจนหม่นหมอง
มอบบทเพลงเปื้อนน้ำตาจนพร่านอง
บอกร่ำร้องผ่านฟากฟ้าว่า...เดียวดาย...




ผ่านรัตติกาลน้ำค้างพรมลมอ้างว้าง
ความไกลห่างทำเจ็บจนใจสลาย
เพลงไผ่พรมลมน้ำค้างแทบวางวาย
ยังคิดถึงมิจางหาย..ใจเจ็บนัก......




เสียงขลุ่ยผิวลิ่วลมพรมใบไผ่
ใต้ห้วงเหวรอบางใครใจเหน็บหนัก
ใต้บทเพลงมีน้ำตาคำว่ารัก
ความทรงจำความรักจึงเดินทาง




กลางแสงจันทร์เงียบเหงาเฝ้าหวาดหวั่น
อยากให้กลับมารับขวัญอยู่เคียงข้าง
อ้อมกอดอุ่นคุ้นอยู่มิรู้จาง
กลับเลือนหายไกลห่างอ้างว้างครวญ





ใจเอ๋ยใจจึงเคว้งคว้างอ้างว้างนัก
เหมือนไร้หลักสิ้นไร้ไม่คืนหวน
ฝากบทเพลงข้ามขอบฟ้าน้ำตานวล
แผ่วรัญจวนบทเพลงเก่าเราเคยฟัง
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกระต่ายใต้เงาจันทร์
Lovings  กระต่ายใต้เงาจันทร์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกระต่ายใต้เงาจันทร์
Lovings  กระต่ายใต้เงาจันทร์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกระต่ายใต้เงาจันทร์
Lovings  กระต่ายใต้เงาจันทร์ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงกระต่ายใต้เงาจันทร์