31 กรกฎาคม 2550 21:16 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
ขอแค่มีเพียงฉันในใจบ้าง
ยามอ้างว้างสับสนปนหวั่นไหว
อยากได้อ้อมกอดอุ่นละมุนละไม
มาทำให้สดใสได้ทั้งวัน
หรือคุยกันไม่มากไม่มาย
มีความหมายยิ่งใหญ่สำหรับฉัน
หนึ่งรอยยิ้มแววตามาทักกัน
หัวใจสั่นไหวหวั่นเหลือเกินแล้ว
หรือจะมีเหลือไหมอีกบางใคร...
เผยผ่านคำหวานให้ใจผ่องแผ้ว
หัวใจเริ่มบ่งบอกออกวี่แวว
เริ่มเต้นแผ่วกระซิบฝากรอยคำ
ความอาลัยโหยหาจากดวงจิต
รอยลิขิตขีดเส้นแสนงามขำ
จะจดจำรูปรอยทุกถ้อยคำ
จะน้อมนำติดบ่วงห้วงฤดี
28 กรกฎาคม 2550 17:02 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
หยาดน้ำตากี่หยดจะเหือดแห้ง
หัวใจเคยกล้าแกร่งกลับสูญหาย
รอยยิ้มตายหายจากพรากจากกาย
ความเดียวดายไม่พลัดพรากจากอกเรา
เพราะสัมผัสความแพ้ยับนับนานเนิ่น
ความยับเยินยุ่งยากจากมือเขา
เหมือนความทุกข์เป็นเพื่อนตายคล้ายดั่งเงา
ด้วยโง่เขลาหรือเราเบาปัญญา
ความยุติธรรมในโลกมีจริงหรือ
คงจะพังด้วยมือมนุษย์ที่ฉุดฉร่า
แม้เลือดสาดกระเซ็นไม่เห็นแม้น้ำตา
ถึงเข่นฆ่าเย้ยกฎหมายคล้ายไม่กลัว
จะต้องมีผู้เคราะห์ร้ายอีกกี่ครั้ง
เลือดคงหลั่งปฐพีท่วมพื้นทั่ว
เหลิงอำนาจมโนธรรมหายตายจากตัว
เพราะเมามัวกิเลสเกิดเพศภัย
เจ้าเป็นเพียงมนุษย์น้อยที่ด้อยค่า
จะขัดขวางอำนาจเงินตราได้กี่สมัย
ผืนแดนดินในป่าดงอันตารย
ด้วยเพียงวัยน้อยนิดพินิจดู
28 กรกฎาคม 2550 14:24 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
ในหนึ่งปีจะมีสักกี่วัน
ที่ยังคิดถึงกันไม่ขาดสาย
ที่ร้อนหนาวกี่คราวที่เดียวดาย
ฉันยังมีความหมายหรือลืมกัน
ผ่านกี่คราวกี่ทุกข์ทนจนท้อ
กี่วันคืนเฝ้ารอหรือแค่ฝัน
กี่รอคอยหรือเธอลืมความสำคัญ
หรือลืมว่ามีฉันจึงร้างไกล
จะรอคอยกี่ล่วงกาลจะพานพบ
หรือเธอพบใครใหม่แล้วใช่ไหม
ฉันรอคอยทุกคืนค่ำอย่างเดียวดาย
จึงห่างหายทิ้งให้ใครอาวรณ์
ฉันอยู่นี่ ตรงนี้ ณ. ที่เก่า
ยังคงเฝ้าภักดีมิถ่ายถอน
แม้ร่างดับยังคงมั่นนิรันดร์
จะร้าวรอนเดียวดายใจยังรอ
7 กรกฎาคม 2550 14:16 น.
กระต่ายใต้เงาจันทร์
ฉันอ่อนล้าเดินทางมาสายเปลี่ยว
ฉันโดดเดี่ยวเดียวดายคล้ายอ่อนไหว
ฉันหงอยเหงาซึมเศร้าร้าวรานใจ
อยากเดินทางห่างไกลไร้ผู้คน
อยากดั้นดั้นเที่ยวเขาลำเนาป่า
ฟังสำเนียงเสียงสกุณาก้องเวหน
เสียงใบไม้ล้อลมดั่งมีมนต์
ใช้สรรพสิ่งกล่อมตนรักษากาย
อยากฟูมฟักรักษากายไร้ใครคู่
อยากจะอยู่เงียบสงบพบจุดหมาย
ถึงจะอยู่อย่างโดดเดี่ยวเพียงเดียวดาย
จนปั้นปลายช่วงชีวิตมิคิดมี
อยากท่องเที่ยวเดินทางกลางฟ้ากว้าง
วางทุกอย่างได้ลงคงสุขี
จะท่องเที่ยวทั่วเหนือใต้ในธานี
ใช้พื้นฟ้าและปฐพีห่อห้อมใจ