31 มกราคม 2554 17:56 น.
กรกต
อาลัยอาวรณ์คุณแม่กิ่งโศก
อนิจจาคุณแม่เข็มทองเย็นขัน
สร้างข้านั้นลาลับกลับแมนสรวง
ตามลิขิตกำหนดหมดทุกดวง
น้ำตาล่วงแม่จ๋ามาพรากกัน
ก่อนจะกลับเยี่ยมแม่แผ่สิ่งเผย
อย่าละเลยหนอลูกจงสุขสันต์
จงปราดเปรื่องเกียรติยศทุกคืนวัน
ส่วนแม่นั้นสุขสบายคลายกังวล
แม่เข็มทองลับแล้ว แมนสรวง
จริยวัตรแม่ทั้งปวง ผ่องแผ้ว
น้ำตาหยาดทุกดวง ฝากแม่ มากแฮ
ความดีแม่เลิศแพร้ว มอบไว้บุตรถวิลฯ
น้ำตารินหลั่งสิ้น จากใจ มากนา
ทุกขเวทนาใน ยากแพร้ว
อนิจจาสิ่งสุกใส บ่เกิด ป่วนนอ
ข้าแทบใจขาดแล้ว หมดห้วงฤดีหลอนฯ
อาลัยอาวรณ์นัก แม่ฟูมฟักฝากลูกไว้
สู้เฝ้าเป็นห่วงใย คอยลูกกลับคืนเหย้าเรือน
บัดนี้แม่จากแล้ว โอ้ดวงแก้วพรากสู่สรวง
ลูกสั่นกายทั้งปวง น้ำนมแม่แผ่ซ่านใจ
ขอแม่เป็นสุขเถิด สิ่งเลอเลิศบนแดนสวรรค์
ฟากฟ้าวิมานพลัน เป็นที่อยู่สู่เบิกบาน
ลูกแม่ทุกทุกคน จะจรดลสร้างบุญให้
ผลานิสงฆ์เฉิดไสว ผ่านคุณแม่แม้นิพพาน.
กิ่งโศกแสนสุดเศร้า ครวญถวิล มากเฮย
คำแม่กล่อมชีวิน ลูกไว้
น้ำตาล่วงผ่านริน หยดจาก ลูกนา
โอ้แม่ของลูกไซร้ พบห้วงนิพพานฯ
ลูกกอดร่างแม่แล้ว หลั่งริน น้ำตา
หากมีวาสนาถวิล เกิดนี้
ขอเป็นลูกทุกกวิน บรรจบ จริงแฮ
ชาติใหม่มิขอลี้ หลีกเร้นเกิดสนอง.ฯ
สะท้อนห้วงดวงจิตคิดถึงแม่
ที่เผื่อแผ่ความรักมากหนักหนา
ยามแม่อยู่เฝ้าถนอมกล่อมชีวา
แม่มาลาหนีพรากลูกจากจร
ยังมิแทนพระคุณการุณแม่
เคยเผื่อแผ่แก่ลูกปลูกสั่งสอน
ทั้งห่วงใยอบรมบ่มขั้นตอน
ใจสะท้อนแม่จ๋าข้าเศร้าฤดี.
กรกต.
(ส่งแทนให้คุณตา)
28 มกราคม 2554 17:21 น.
กรกต
ดินหรือดาว
อันตะวันจันทราดาวลอยเด่น
ชนจึงเน้นมองฟ้ามาใคร่สนอง
เด่นพรายพร่างมายามาเรืองรอง
ล้วนใฝ่ปองพราวพริ้งอิงไฉไล
จากดินสู่ฟากฟ้าหาแมนสรวง
แม้นตกห้วงโลกีย์ปรีดิ์เปรมไสว
แค่เป็นเพียงดาวเด่นเน้นเกรียงไกร
มากชนหลายยกย่องสนองชื่นชม
ครั้นเป็นดาวลืมดินถิ่นระแหง
ที่แอบแฝงคาวคลุ้งมุ่งสร้างสม
สู่ลอยเคว้งไหวแกว่งแฝงต้องลม
ปวดระทมแห่งไสวโลมไล้จินต์
๐ บ้างวูบวาบนวลแสงแข่งแล้วสลาย
มวลไฉไลพลิกคลายละลายสิ้น
ล่วงจากห้วงม่านฟ้าถลาฝากดิน
สิ่งเคยถวิลครั้งหนึ่งซึ่งเป็นดาว
แล้วมาเป็นกระต่ายหมายฟากฟ้า
คืนเดือนจ้ามองจันทร์สั่นใจเฝ้า
ล้วนชะแง้หมายแลแผ่คลุ้งคาว
สร้างอับฉาวเคล้าไสวใยร่วงริน
ปวงแคว้นถิ่นเกิดเคยเลยลืมเศล้า
ผืนก่อนเก่าพยุงไว้ยากหมายถวิล
แม้นเป็นดาวตกยากยังอยากบิน
เขาคงสิ้นศรัทธาปรารถนาปอง
ทิ้งลูกเต้าผ่านผัวมั่วหมายคลุ้ง
กลับหมายมุ่งโลกีย์เปล่งทวีสนอง
แสนมั่วชายหมายชั่วยั่วเย้าครอง
เห็นบ้านช่องแสนเบื่อเหลือจะทน
เปลี่ยนแปรไว้มากหน้าเพื่อหาฟ้า
เพ่งหมายตามองดินทุกถิ่นหน
ระริกซ่านกามาผ่านหลากชน
ด้วยมากล้นคาวกามเลิศล้ำมา
ยั่วหลากชนมากมายคิดใฝ่สนอง
สู้หมายปองลอยนภาหลงมาหา
ทิ้งดินเก่าคละคลุ้งหมายมุ่งนภา
หล่นจากฟ้าล่วงดินมากสิ้นอาย
พอล่วงฟ้ามาแล้วน้ำตาหลั่ง
สู่คลุ้มคลั่งมองชนบ่นเสียหาย
นั่งตาลอยเหม่อมองผองอาลัย
แสนเสียดายลืมดินถิ่นเก่านอน.
กรกต.
26 มกราคม 2554 16:56 น.
กรกต
สุดซึ้งสิเน่หา
คำหวานใยเท่าปะตะละแม่ สุดจะแม้ซิแนบสรวง
โอ้ตาลมิซ่านวกหาจะปะดวง มิละล่วงฤทธิ์ผ่านใจ
สู่ยิ้มผุดแย้มบงกชจะหอม ชมชิดดอมดุจหลบไป
โฉมผ่านซิกรุ่นวจีลูบไล้ วิไลไสวซิฟังกานท์
วงพักตร์ซิจันทราจะระเด่น ซิมาเห็นเอวองค์ซ่าน
ใฝ่เคล้าปะนวลผกผันละกาล อุระแย้มซิหวั่นไหว
โอ้งามเอ๋ยนางผิวจะอ่อน ดุจหงส์ร่อนมาละไสว
ยิ่งสล้างจะพบสบวิไล ระลึกแล้วมิห่างเจ้า
ม่วนซึ้งปะแม่สุดระแดใจ นิราศไสวซิปวงเฉลา
เผยแผ่อุไรตะละเนาเย้า มิละเล่าสะท้านสรวง
เด่นใฝ่จะคว้าปะมานะไซร้ อุระไว้ชิดเชยทรวง
ครั้งนี้มิคว้าจะพามาล่วง ก็ปะบ่วงคนผ่านเชย
ยิ้มพลางกับแม่วจีฝากแผ่ ตะละแม่จะใคร่เผย
สู่ห้วงจะส่งดนุปนเปรย ซิละเจ้ามาเคียงสวรรค์
รักแท้มิให้อุระผกผวน จะกกนวลมิห่างผัน
เคล้าคู่มิร้างซิมาละกัน สบรักแห่งมิราตรี.
กรกต.
25 มกราคม 2554 15:35 น.
กรกต
ม่านน้ำตา
มอบใจหนึ่งป่วนแล้ว รำพัน
สิ้นสุดรำลึกกัน หมดสิ้น
ซ่านซึ้งสู่จำนรรค์ หดหู่
ยามเอ่ยแค่ปลายลิ้น ลบล้างห้องใจ
เก่าก่อนอ้างฝากไว้ มากมี
คำรักบั่นชีวี ต่อเจ้า
สู้สิเน่หาฤดี สรรก่อ
มิอาจจะยั่วเย้า ยิ่งแท้รักปอง
มิคิดเลยฝากนี้ ป่วนใจ
ถึงกับให้ไฉไล โกรธขึ้ง
ซ่านสิ่งมอบภายใน หวังก่อ
ยากจะหวนสิ่งซึ้ง ฝากน้องเมินหนี
อกหนอเราผิดแล้ว จริงหรือ
ก่อเกิดหวานคำคือ รักแท้
คงหลงกับเสียงลือ ฝากสิ่ง
เจ้ามิเคยฟังแม้ คำซึ้งที่สนอง
ขอพบหลบหลีกลี้ หนีหาย
คิดบั่นหัวใจชาย แน่แล้ว
เริ่มรักจักวอดวาย สุดเอ่ย
นี่หรือคือรักแป้ว ม่านน้ำตานอง
คำเดียวคือบอกไว้ ขอลา
มีรักอยู่วาสนา ต่ำต้อย
จะไม่ยุ่งนำพา เจ้าหรอก
สิ้นสุดรักข้าน้อย ยากแท้ใฝ่ปอง.
กรกต.
25 มกราคม 2554 14:33 น.
กรกต
ห้วงแห่งรัก
ตะวันรอนลาลับระงับโศก
เปรียบดังโยกชีวันสุดฝันผวา
โลมฟ้าหม่นหมองคล้ำย้ำอุรา
หลงเสน่หาผ่านจิตสูญคิดปอง
สู่วันหนึ่งมาหวังครั้งเก่าก่อน
สิ่งยอกย้อนรำพึงใฝ่ถึงสนอง
เคยอ้อนไว้หวังฟ้าจะมาครอง
แห่งเรืองรองหรุบหรู่ผู้มอบใจ
อันสิ่งซึ้งตรึงห้วงช่วงรับขวัญ
ผ่านล้วนวันอวลอบมิพบไสว
รำพึงถึงสายสมรอ่อนล้าไกล
อ้อนฝากไว้ทรวงนี้ซิบอบบาง
ปานสุรีย์แสงทองลอยล่องลับ
มิอาจกลับร่วมเรียงหวังเคียงข้าง
หวานสิ่งเก่าสู้เยือนเฉือนเจือจาง
เปลี่ยวอ้างว้างแสงสุรีย์ที่ลาโรย
งามระยับท้องฟ้าดาราพลิ้ว
ผ่านละลิ่วลอยลับนับบ่มโหย
ดุจที่เฝ้าหวังเคียงเยี่ยงลมโชย
เมฆฝนโปรยละอองต้องลาจร
สนธยาครวญคร่ำย้ำสิ่งพราก
ส่งฤทัยจากเรืองรองดุจต้องศร
เหลือแต่เพียงหัวใจใคร่อาวรณ์
แสนยอกย้อนสิ้นทางสร้างชีวี
หลงสิ่งซากรักเก่ายากเฝ้าหา
สิ้นวาสนาพิลาปฉาบแสงสี
สุริยันต์เลือนลับกลับราตรี
ที่แห่งนี้แผลเก่าสุดเศร้าใจ.
กรกต.