13 พฤษภาคม 2551 20:27 น.
กชมนวรรณ
มาบรรจบครบวันแห่งฟ้าฟื้น
สายฝนชื่นคืนสุขไร้ทุกข์หมอง
ก้าวที่เดินถูกต้องตามครรลอง
สิ่งใดพ้องต้องธรรมารักษากาย
สายลมโอบบรรเลงเพลงตามฝัน
แสงแห่งจันทร์สาดส่องเป็นปล่องสาย
ส่งให้ฟ้าเพริศแพร้วพรรณราย
ถึงจุดหมายปลายทางสร้างเชิดชู
เป็นดวงดาวพราวแสงแห่งฟากฟ้า
มองเจิดจ้าทอประกายสายงามหรู
มากมวลมิตรโอบเอื้อเกื้อเอ็นดู
ให้เรียนรู้สู้เพียรแม้นอยากเย็น
อันพรใดไหนประเสริฐบังเกิดเถิด
ส่งบรรเจิดเลิศล้ำนำให้เห็น
ให้ผ่านเหงา...เศร้า...ร้าว...ลำเค็ญ
เป็นเดือนเด่นฟื้นฟ้าทอประกาย
ส่งของขวัญชิ้นใหญ่เป็นโลกกว้าง
ให้เจ้าสร้างฟื้นฟูก่อนจะสาย
อยู่กับสิ่งที่รักสลักลาย
ไว้ที่ปลายสูงเสียด..เกียรตินิยม.
4 พฤษภาคม 2551 16:49 น.
กชมนวรรณ
ฉันเห็นเธอด้วยใจในส่วนลึก
จิตสำนึกทดท้อคล้ายรอหวัง
มโนภาพตกตื่นเจอคลื่นชัง
ด้วยตรรกะประดังเซซังซวน
ฉันเห็นเธอด้วยใจในส่วนลึก
เหมือนเก็บงำ.. มิตรึก..ผนึกหวน
ดั่งคนโศกเหว่ว้าพารัญจวน
แต่มิครวญโอยโอดหมายโทษใคร
ฉันเห็นเธอด้วยใจในส่วนลึก
ตกผลึกรอยยิ้มพริ้มพรายใส
ยามเอื้อนเอ่ยเปรยคำระกำใจ
ไม่เหมือนวัยในคราวราวเพื่อนเธอ
ฉันเห็นเธอด้วยใจในส่วนลึก
คล้ายรู้สึกมากมายเรื่องเสนอ
มิอาจกล่าวเศร้าแฝงระแวงเกลอ
หรือได้เจอเรื่องราวปวดร้าวใด?
ฟังนะเออ...
หากพบเจอเรื่องทุกข์รุกหวั่นไหว
ยากหยั่งถึงซึ้งโลกด้วยเยาว์วัย
อย่าหันหนีลี้ไกลคิดไฝ่กลัว
แม้นหากหวังคิดเอื้อมเดือนดาวสูง
แม้นหมายฝูงยูงทองท่องใส่หัว
อย่าลดเกียรติศักศรีมีในตัว
คิดหามจั่วหรือเสาเฝ้าตรองดู
จะฟื้นฟ้า... ป่าใหญ่ ...หรือสิขร
เบื่ออมรจรห่างสิ่งกร่างหรู
หมั่นเติมฝันวันสวยช่วยเชิดชู
แต่อย่าอยู่อย่างคนสิ้นรี่ยวแรง
ฟังสิเออ...
เสียงป่าเพ้อลมครวญล้วนมีแฝง
เสียงต้นน้ำร่ำไห้คล้ายระแวง
เสียงหวาดกลัวเมืองแปลงเปล่งทั่วไพร
เสียงวิตกสัตว์ป่าดังระงม
เสียงขื่นขมรำพันชลาศัย
เสียงหวาดหวั่นเคว้งคว้างยากพึ่งใคร
เสียงมโนก้องไกลปลุกใจชวน
หากสายเลือดมีสายใจไว้ทอฝัน
อย่านึกพรั่นหวั่นเกรงเสียงโหยหวน
รู้ฝึกจิตคิดดีอย่าเรรวน
เบิกเสียงสรวลเริงร่าพนาไพร
27 เมษายน 2551 18:40 น.
กชมนวรรณ
ราว..น้ำค้างยาวเหยียดเสียดยอดหญ้า
ทั่วแผ่นหล้าคราอรุณสมดุลแฝง
ดารดาษแต้มใบสายใยแซง
โยงทแยงแต่งแต้มแซมประกาย
กลั่นหยาดหยดงดงามยามต้องแสง
เหมือนแสดงศาสตร์ศิลป์ก่อนเร้นหาย
มองสะท้อนดั่งเกล็ดแก้วพรรณราย
คอยทักทายอภิรมย์พรมดวงใจ
เริงระบำน้ำค้างสล้างพิศ
ดั่งประดิษฐ์หยดเรียงเกลื่อนไสว
ริ้วรายพราวคราวเกาะจับยอดใบ
เช้าสดใสไหวระยับประดับวัน
อีกสายไหมใยเกลียวร้อยเกี่ยว...ล้อ
คล้ายพนอขอแต้มแต่งแสร้งรังสรรค์
มองผิวเผินเพลินจิตติดกับพลัน
มิถลันหันหนีพลีชีพวาย
หลากลีลาล่าเหยื่อเพื่อขยุ้ม
เจ้าแมงมุมซุ่มรอก่อนจะสาย
กลบน่าชังหลังม่านน้ำค้างพราย
เหยื่อเคราะห์ร้ายกรายใกล้สายใยลวง
เงาสะท้อนย้อนคิดอายตนะ
โผฏฐัพพะพรั่งพรูรู้ลุล่วง
ฝึกสัมผัสทั้งหกปกแดดวง
อย่าตกบ่วงติดกับเหยื่ออารมณ์
หยดน้ำค้างพรางตาว่าสดใส
หยดน้ำใจใสสดลดรอยขม
หยดปัญญาใช้ถูกผูกนิยม
หยดคารมคมคำทำหยอกทรวง
อันน้ำจิตคิดมอบแค่น้ำค้าง
มักเร็วร้างจางแห้งมิแหนหวง
หากคิดมอบตอบแทนด้วยภาพลวง
รพีช่วงล่วงดับกับไฟฟอน
ธรรมชาติศาตร์สอนจิตมนุษย์
มิสิ้นสุดหยุดหาอุทาหรณ์
จักบ่งบอกออกความทุกบทตอน
เงาสะท้อนย้อนคิดพินิจตรอง
เพียงหนึ่งหยดน้ำใจใคร่ซึมซับ
แต้มประดับอักษราเพื่อคลายหมอง
จารอักษรกลอนกานท์ตามครรลอง
มิผยองสอนใครไฝ่สอนตัว
18 เมษายน 2551 08:47 น.
กชมนวรรณ
จะมีไหม? ใครสักคน
ที่หมายค้นด้นหาความเป็นฉัน
คิดห่วงหาหยุดคอยมิปล่อยกัน
ให้เคว้งคว้างสร้างฝันเพียงลำพัง
จะมีไหม? ใครสักคน
ที่เปลี่ยมล้นศรัทธาแห่งความหวัง
มืออบอุ่นลุ้นฉุดจากภวังค์
ที่แนบฝังกลางจิตสถิตนาน
จะมีไหม? ใครสักคน
วันละหนเอื้อนเอ่ยวาจาหวาน
พออมยิ้มกริ่มละไมใจเบิกบาน
อย่ารำคาญยามกล่าวเล่าเรื่องใด
จะมีไหม? ใครสักคน
ไม่สับสนปนเปความสงสัย
มอบความรักภักดีพลีด้วยใจ
อันสดใสไร้กังขาน่านิยม
จะมีไหม? ใครสักคน
จักอดทนคนอย่างฉันรั้นเสียงขรม
เหมือนเป็นผู้ไร้ซึ่งการอบรม
คอยเพาะบ่มปมทุกข์เข้ารุกตัว
จะมีไหม?ใครสักคน
รับตัวตนคนบ้าคอยท้ายั่ว
คือแบบฉันฝันเพ้อเผลอเมามัว
มีแต่ความน่ากลัวทั่วหัวใจ
14 เมษายน 2551 13:05 น.
กชมนวรรณ
วันสงกรานต์สานใจเราทั้งผอง
ร่วมสนองดำรงคงสืบสาน
ประเพณีสืบทอดมาช้านาน
ล้วนชื่นบานผ่านไมตรีที่ดีงาม
ตั้งขบวนแห่แหนสิ่งศักดิ์สิทธ์
ทำด้วยจิตศรัทธาที่ล้นหลาม
สอนลูกหลานเพื่อรับปฏิบัติตาม
ช่วยกันหามปู่ทวดนำขบวน
ทั้งสาวหนุ่มร่วมจิตคิดสืบสาน
สุขสำราญขานเพลงร่วมเฮสรวล
แต่งชุดไทย..เสื้อดอก..ลอกสิ่งควร
ไม่ผกผวนชวนดูหรูงามตา
ทั้งร้องรำทำเพลงครื้นเครงนัก
ด้วยตระหนักปู่ทวดช่วยรักษา
คอยปกปัก...พักจิต...คิดศรัทธา
สุขหรรษาพาชื่นปลาบปลื้มใจ
แห่สิ้นสุดรุดกราบรับพรพระ
สักการะรับธรรมอันผ่องใส
ถวายเพลเคนภัตตาฯหน้าละไม
ยกธงชัยใจรับ...ชะยันโตฯ
เปลี่ยนเครื่องทรงสรงน้ำสิ่งศักดิ์สิทธิ์
งามพินิจพิศพระครูอาวุโส
นั่งธรรมาสม์..อำนวย..อวยไชโย
เป็นดั่งโล่ป้องภัยใจเมามัว
ขันน้ำใสลอยมะลิหยดน้ำอบ
รักษ์ขนบ..ทบใจจำใส่หัว
น้อมขอพรผู้ใหญ่ไว้กับตัว
รดมือทั่วขอขมาพาสุขใจ
ร่วมสืบสานขานรับเจตนา
ร่วมรักษาประเพณีศรีสมัย
ร่วมเฮฮาพาสนุกมุกคนไทย
ร่วมคงไว้ให้อยู่คู่ถิ่นเรา.
ผู้สูงวัย น่ารักมากค่ะ นั่งด้วยความอดทนให้พรลูกหลาน ที่ต่อแถวยาวเหยียด โดยไม่บ่นกันสักคำ..