22 สิงหาคม 2552 17:33 น.
กชมนวรรณ
๐ราตรีเยือนเยี่ยมฟ้า............มืดสงัด
ยินหริ่งเรไรนัด...................เร่งร้อง
นภาหม่นลมพัด..................โชยเอื่อย
ใจร่ำแสงดาวต้อง...............ม่านน้ำตานอง๚ะ
เสมือนใจอ่อนล้าแสนว้าวุ่น
สิ่งเคยคุ้นค่อยค่อยเลือนเลื่อนห่างหาย
ซุกหัวใจโดดเดี่ยวอยู่เดียวดาย
ดูคล้ายคล้ายไร้ความคิดประดิดประดอย
มองทางไหนไม่งามงดและสดใส
มองฟ้าไกลใจเหม่อเผลอเหงาหงอย
มองสายฝนอย่างคนที่เลื่อนลอย
มองดูดาวดวงน้อยพลอยหมางเมิน
หอมกลิ่นแก้วเคยชื่นจำรูญจิต
พาลิขิตร่ายคำไม่ขัดเขิน
มาบัดนี้มองดูไม่จำเริญ
เหมือนขาดเกินบางอารมณ์ปนเปไป
อยากร้อยถ้อยเรียงความตามใจฝัน
ยากจะกลั่นสรรคำให้หวั่นไหว
จินตนาการขาดหายจากห้วงใจ
มองสิ่งใดไม่งดงามเหมือนตามจริง
สายลมโชยโบยโบกย้ำโศกเหงา
สุขเคยเย้ากลับหายคล้ายทุกสิ่ง
หยุดส่งเสียงเรียกอย่างไรมิไหวติง
เหมือนดั่งวิ่งดิ่งห้วงทุกข์ไร้สุขเยือน
เฝ้ารอวันจันทร์เฉิดบรรเจิดฟ้า
รอทิวาพาสุขใจหาใดเหมือน
เหงาเศร้าหายคลายทุกข์ให้ลืมเลือน
สิ้นรอยเปื้อนน้ำตาหนาหัวใจ
25 มิถุนายน 2552 20:24 น.
กชมนวรรณ
๐บายศรีขวัญนบน้อม..........อภิวาท
ระลึกคุณครูปราชญ์............ชื่อก้อง
นิราศเห่กลอนศาสตร์........ปราดเปรื่อง
เลิศยิ่งโลกแซ่ซ้อง.............หนึ่งนี้กวีไทย๚:๛
๐ยี่สิบหกมิถุนา...................ลำนำมาลา
ระลึกคุณกวีเอก
๐วจนะท่านดุจเสก..................รังสรรค์อเนก
ปัจเจกท่านสุนทรภู่
๐นิราศรำพันคำครู................เสภาเสนาะหู
รังสรรค์อยู่คู่เพลงยาว
๐สุภาษิตคิดสอนสาว..............ท่านเขียนได้พราว
เป็นกลอนกล่าวเล่าสอนหญิง
๐ท่านสอนไว้ได้ดียิ่ง..............ล้วนชอบทุกสิ่ง
รำลึกพระคุณคุณา
๐ส่งจิตน้อมสองมือวันทา........กราบบาทครูบา
ด้วยมาลาอักษรไทย
9 สิงหาคม 2551 10:54 น.
กชมนวรรณ
ยังอบอุ่นกรุ่นกลิ่นอายภายในกอด
รักเคยพรอดพร้อมพร่ำจำนรรจ์หวาน
แม้ผ่านเลยล่วงวันจนถึงกาล
แต่ดวงมาลย์คนดีมิมีเปลี่ยน
คอยปกป้องคุ้มครองถนอมเนื้อ
ไม่เคยเบื่อเมื่อยามทำปวดเศียร
สองมือเดิมเพิ่มรักคอยแวะเวียน
เริ่มหัดเขียนเพียรประคองด้วยสองมือ
มิเคยด้อยน้อยค่าคำว่ารัก
รู้ประจักษ์ผิดพลาดมิเคยถือ
หนึ่งดวงใจมั่นนักรักระบือ
หนึ่งนี้คือแม่ฉันปั้นคนดี
สอนให้พูด..จุดประกายไม่ดับฝัน
สอนให้มั่นยึดถือในศักดิ์ศรี
สอนทุกอย่างวางไว้ด้วยวจี
สอน..แนะ..ชี้.. ลี้.. หลีก..จนเติบโต
หมั่นพร่ำสอนตอนเจ้าเฝ้างอแง
จำคำแม่แต่นี้ไม่มีโอ๋
เมื่อเจ้าล้มรีบลุกอย่าพาโล
เก็บโทโสอดกลั้นอย่าหวั่นไป
หากไม่ชอบตอกย้ำคำแม่สั่ง
ด้วยเจ้าชังคำบ่นสุดทนไหว
จงรีบทำหน้าที่รี่เร็วไว
อย่าให้ใครคอยชี้หน้าที่ตัว
แม้นใครชังช่างเขาเราอย่าสน
อย่าร้อนรนกลคำคอยย้ำถัว
แล้วแจกแจงแปลงใจอย่าไปกลัว
เรื่องดีชั่วรู้แยกแจกแจงใจ
หลากคำสอนซ่อนคำให้ย้ำคิด
ทั้งถูกผิดชี้ลองคลายสงสัย
คอยพยุงรั้งแขนหากพลาดไป
อย่าเหลวไหลแม่สอนยังจดจำ
ร้อยอักษรมาลัยกลอนตอบแทนแม่
ไร้ข้อแม้แน่นักรักเช้าค่ำ
ให้ลูกมอบตอบแทนกุศลกรรม
ช่วยอยู่ย้ำคำสอนลูกต่อเอย.
13 กรกฎาคม 2551 22:08 น.
กชมนวรรณ
สุข......สำราญชื่นด้วย..............ธรรมสนอง
สันต์.....สู่หมายจินต์ปอง.........พรั่งพร้อม
วัน......ดีบ่มีหมอง................เทพกล่อม พี่เฮย
เกิด.....สิ่งสวัสดิ์ล้อม.............เฉกชั้นแดนสรวง๚ะ๛
วันดีศรีวันเกิด
สิ่งประเสริฐโปรดรักษา
ขอบุญหนุนนำพา
ไร้โรคา...สง่างาม
การณ์ใดให้สมหวัง
มากพลังอมิตรขาม
ความทุกข์อย่าคุกคาม
มากล้นหลามทรัพย์ทวี
ทวยเทพช่วยคุ้มครอง
ความมัวหมองจงพ่ายหนี
มีสุขชั่วชีวี
ดวงฤดีอย่าตรอมตรม
ความรักอย่าหักเห
มากเสน่ห์มิขื่นขม
วันชื่นคืนอภิรมย์
รักห่อห่มอุ่นแอบไอ
ตั้งจิตอธิษฐาน
พรที่ขานจงหลั่งไหล
สู่พี่ด้วยดวงใจ
หวังสิ่งใดสัมฤทธิ์เทอญ๚ะ๛
1 กรกฎาคม 2551 18:24 น.
กชมนวรรณ
เวิ้งขอบฟ้าคราจันทร์ฉายขยายแสง
โสมแสดงรัศมีอันเฉิดฉาย
แจ่มจรัสรัตติกาลพรรณราย
สื่อใจหมายอธิษฐานผ่านจันทรา
จันทร์เจ้าเอ๋ยเคยมีสุขแม้ทุกข์เย้า
ก็แค่เหงาเงาลางลางแล้วจางหนา
แต่บัดนี้ที่เจ็บหนักปักอุรา
เกินเหว่ว้าเกินความเหงาที่เฝ้ารุม
มองทางไหนไยเคว้งคว้างเหมือนร้างที่
ดวงฤดีนี้เร่าร้อนดั่งฟอนสุม
ความสงบหลบหนีหายสิ่งร้ายกุม
เหมือนโดนรุมสุมปักเข็มเต็มทวี
ก่อนร้องดังฟังกระหึ่มเสียงกึกก้อง
ร่วมแซ่ซ้องเพลงประสานเป็นสักขี
ประเทศเราล้วนร่วมรักสามัคคี
มาบัดนี้เสียงเบาซ่านต่างขานกัน
เหมือนดั่งฝันอันยิ่งใหญ่มาเลือนหาย
ใจสลายคล้ายเห็นพ่อพ้อโศกศัลย์
ทำได้เพียงเพียรส่งสาส์นวานดวงจันทร์
ขอพ่อฉันที่เทิดทูนพูนสุขเอย